หลังจากผ่านไปนานถึง 13 ปี Orphan: First Kill ภาคต่อของภาพยนตร์สยองขวัญของเด็กนรกในตำนานก็กลับมาโลดแล่นในโรงภาพยนตร์อีกครั้งเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา พร้อมกับเตรียมจัดจำหน่ายในแบบดิจิทัลและบนสตรีมของทาง Paramount+ อีกด้วย หลังจากการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์กว่า 498 โรง ในช่วงสุดสัปดาห์แรกก็ทำรายได้ไปแล้ว 1.7 ล้านดอลลาร์และในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาก็เพิ่งได้ขยายจำนวนโรงภาพยนตร์ที่เข้าฉายทั้งหมด 557 โรง

Orphan: First Kill ทำรายได้เพิ่มขึ้นมาอีกประมาณ 1 ล้านดอลลาร์ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมีรายได้สะสมทั้งหมดอยู่ที่ 3,324,000 ดอลลาร์จากการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์และสำหรับรายได้สะสมจากทั่วโลกอยู่ที่ 6,303,641 ดอลลาร์ เมื่อย้อนกลับไปยังปี 2009 กับการเปิดตัว Orphan ภาคแรก ที่ยังไม่มีการเปิดตัวในสตรีมมิงนั้นก็สามารถทำรายได้ไปถึง 77.9 ล้านดอลลาร์ ในขณะนี้ก็ยังไม่รู้ว่า Orphan: First Kill จะสามารถทำได้ดีแค่ไหนใน Paramount+ หรือ Digital เพราะยังไม่มีรายงานตัวเลขออกมาแต่อย่างใด แต่โดยรวมแล้วภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ได้รับกระแสตอบรับที่ค่อนข้างดีเลยทีเดียว

Orphan: First Kill สามารทำในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นจริงได้ด้วยสูตรสำเร็จของภาพยนตร์ในภาคแรกและพลิกโฉมหน้าของมันได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดย Orphan (2009) ก็เป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องของการหักมุมที่น่าจดจำและน่าประทับใจ ซึ่งในภาคพรีเควลนี้ไม่ได้มีการหักมุมอะไรแบบนั้นแล้ว แต่ก็สามารถนำเสนอและถ่ายทอดเรื่องราวที่บ้าคลั่งได้อย่างน่าพึงพอใจและอีกหนึ่งอย่างที่สำคัญคือภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่การสานต่อเรื่องราวสยองขวัญทั่วไปที่ทำขึ้นมาเพื่อกวาดเอาเงินแล้วจบ แต่จริงๆ ในภาคพรีเควลนี้ถือเป็นการสานต่อเรื่องราวของ Esther ได้อย่างลงตัวมาก พร้อมกับคงความสนุกสนานแบบต้นฉบับเอาไว้เป็นอย่างดีอีกด้วย นอกจากนี้เธอยังฆ่าแบบเยอะกว่าเดิมถึงสองเท่าเลยก็ว่าได้ แน่นอนว่า Isabelle Fuhrman ก็กลับมาทำการแสดงได้อย่างน่าขนลุกอีกครั้งในฐานะเด็กนรก

ซึ่งครั้งนี้ใน Orphan: First Kill จะกลับมาสานต่อเรื่องราวอันน่าสะพรึงกลัวของ Esther Esther หรือที่มีชื่อจริงว่า Leena Klammer กับศพรายแรกที่เธอได้ลงมือฆ่า หลังจากที่เธอได้หลบหนีออกจากสถานบำบัดจิตเวชที่เอสโตเนียนและเดินไปอเมริกาและได้ปลอมตัวเป็น Esther Mauerova ลูกสาวที่หายตัวไปของ Katie และ Richard (รับบทโดย Julia Stiles และ Rossif Sutherland) โดยเธอก็เริ่มได้ทำให้ครอบครัวนี้ค่อยๆ แตกหักกันไปเรื่อยๆ พร้อมกับความสงสัยระแคะระคายจาก Katie ผู้เป็นแม่

ผ่านฝีมือการกำกับโดย William Brent Bell ทำงานร่วมกับ David Coggeshall พร้อมกับทีมโปรดิวเซอร์อย่าง Ethan Erwin, Alex Mace, Hal Sadoff และ James Tomlinson โดยภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นถือเป็นการร่วมมือกันระหว่าง Paramount Players, Dark Castle Entertainment, Entertainment One, Sierra/Affinity, Eagle Vision และ Signature Entertainment รวมถึง Paramount Pictures ที่จะมาทำหน้าที่ดูแลการจัดจำหน่ายภาพยนตร์เรื่องนี้