ถ้าพูดถึงภาพยนตร์หรือซีรีส์ออนไลน์หลายคนอาจรู้จักสตรีมมิงชื่อดังอย่าง Netflix หรือ Disney+ เป็นอย่างดี เพราะสตรีมมิงเหล่านี้เป็นผู้นำการให้บริการดูหนังออนไลน์ แต่ก็ต้องบอกว่าปีนี้เป็นปีชงของฝั่งอเมริกาก็ว่าได้เพราะทั้งสภาพการเมือง เศรษฐกิจ สังคม ที่กำลังมะรุมมะตุ้มประเทศพี่ใหญ่ของเราอยู่ตอนนี้ ส่งผลมาถึงสตรีมมิงชื่อดังหลายเจ้าของฝั่งอเมริกาด้วยเช่นกัน ที่ต้องประสบกับปัญหาผู้ใช้งานลดลง และการเร่งผลิตคอนเทนต์ที่ผิดพลาดไป หรือนี่อาจเป็นโอกาสของสตรีมมิงจีน

การชะลอตัวของสตรีมมิงยักษ์ใหญ่อาจเป็นโอกาสของสตรีมมิงจากแดนมังกรแห่งประเทศจีนที่กำลังเติบโตแบบก้าวกระโดดด้วยคอนเทนต์แนวดราม่าแฟนตาซี จนกินส่วนแบ่งทางการตลาดขยายไปในหลายประเทศในแบบที่เราคาดไม่ถึง รวมถึงส่วนแบ่งทางการตลาดในประเทศไทยด้วย บริษัทเหล่านี้เติบโตมากแค่ไหนไปดูกัน

• WeTV สตรีมมิงของเจ้าพ่อเกมเมอร์เงินหนาอย่าง Tencent มิถุนายน 2017 ถึงมิถุนายน 2019 ผู้ใช้งานที่เป็นสมาชิกเพิ่มขึ้น 187% เป็น 96.9 ล้านราย

• iQIYI สตรีมมิงของบริษัทที่ขึ้นชื่อว่าเป็นกูเกิลแห่งจีน Baidu มิถุนายน 2017 ถึงมิถุนายน 2019 ผู้ใช้งานที่เป็นสมาชิกเพิ่มขึ้น 160% เป็น 99.4 ล้านราย

• Youku สตรีมมิงของอีคอมเมิร์ชยักษ์ใหญ่ Alibaba มิถุนายน 2017 ถึงมิถุนายน 2019 ผู้ใช้งานที่เป็นสมาชิกเพิ่มขึ้น 200% ไม่ทราบจำนวนผู้ใช้งาน

ถ้าเราดูจากตัวเลขตั้งแต่ปี 2017 ถึง 2019 จะเห็นได้ว่าบริษัทสตรีมมิงจีนเติบโตเป็นเท่าตัว ลองขยับมาดูปี 2022 เกิดอะไรขึ้นบ้างกับสตรีมมิง 3 เจ้าใหญ่ ก่อนอื่นเลยการแข่งขันด้านคอนเทนต์และการแย่งเวลาผู้ใช้งานยังคงดุเดือดอย่างต่อเนื่อง แต่ที่น่าจับตาในช่วงกลางปีที่ผ่านมาดูเหมือน WeTV จะทำได้ดีมากทั้งในตลาดจีนและไทย ด้วยคอนเทนต์ที่เข้าถึงระดับแมส ตัวอย่างเรื่อง A Dream of Splendor หรือสามบุปผาลิขิตฝัน ด้วยยอดเข้าชมถล่มทลายเกินต้าน หลังจากเปิดตัวมายอดวิวทะลุ 220 ล้าน ใน 24 ชั่วโมง จากนั้นก็ปังลากยาวไปอีก 7 วัน โกยยอดเข้าชมทะลุ 880 ล้านวิว

ซีรีส์ของนางเอกระดับแม่เหล็กอย่าง ‘หลิวอี้เฟย’ ว่าดังแล้ว เดือนกรกฎาคมก็จัดหนักต่ออีกเรื่อง Love Like the Galaxy หรือดาราจักรรักลำนำใจ ของนางเอกที่ฮอตที่สุดในปฐพีในนาทีนี้ ‘จ้าวลู่ซือ’ ทำลายสถิติด้วยยอดวิวทะลุ 250 ล้าน ใน 24 ชั่วโมง เรียกได้ว่าปีนี้เป็นปีท็อบฟอร์มของ WeTV เขาจริงๆ ส่งผลทำให้ยอดผู้ใช้งานที่สมัครเข้ามาเป็นสมาชิกเพิ่มสูงขึ้นเป็น 125 ล้านรายทั่วโลก ถ้าลองดูในส่วนแบ่งการตลาดของไทยดูเหมือน WeTV จะเป็นลองแค่ Netflix เพียง 2 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น!

ส่วน iQIYI ดูเหมือนจะพยายามสร้างออริจินัลคอนเทนต์ออกมาเรื่อยๆ แต่ยังไม่มีซีรีส์ระดับแม่เหล็กมาแก้เกมได้เลย อาจจะสืบเนื่องมาจากการปรับโครงสร้างองค์กรปลายปี 2021 ตามรายงานของ Sina Tech ระบุว่ามีพนักงานระดับกลางที่ดูแลด้านคอนเทนต์ลาออกหลายคน รวมถึงผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดด้านซีรีส์และแอนิเมชันด้วย เบื้องหลังการลาออกครั้งนี้ดูเหมือนจะเป็นการลดการลงทุนในเนื้อหาอย่างรอบด้านของ iQIYI ตั้งแต่ปลายปี 2021 ส่งผลให้ไม่มีคอนเทนต์ที่น่าสนใจมาดึงดูดผู้ใช้งานไม่ว่าจะเป็นซีรีส์หรือรายการวาไรตี้

อีกหนึ่งค่ายที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นยูทูบแห่งจีน Youku ก็พยามยามเร่งเครื่องสร้างคอนเทนต์ออกมาเช่นเดียวกัน ล่าสุดได้รับสิทธิ์ข้อตกลงสตรีมมิงกับสหพันธ์แบดมินตันโลก Badminton World Federation (BWF) อย่างไรก็ตาม iQIYI และ Youku ยังได้รับแรงกดดันจากความเข้มงวดในการตรวจสอบคอนเทนต์ของรัฐบาลจีนที่ห้ามซีรีส์แนวย้อนยุคที่บรรยายเรื่องราวในสมัยจักรวรรดิจีน ซึ่งซีรีส์ประเภทนี้ได้รับความนิยมมากที่สุดบนแพลตฟอร์มของ iQIYI และ Youku

ก็ต้องติดตามกันต่อไปว่า 3 แพลตฟอร์มสตรีมมิงที่มุ่งเน้นผลิตคอนเทนต์ภาษาจีนใครจะเป็นผู้ชนะ ตอนนี้ยังไม่มีผู้ชนะที่เบ็ดเสร็จเด็ดขาด แต่ที่เราพอจะเห็นในไทยเค้าลางดูเหมือนจะเป็นของ WeTV ในขณะที่ทิ้งห่างคู่แข่งจากบ้านเดียวกัน WeTV ก็ยังต้องเจอกับสังเวียนใหญ่ที่รออยู่ไม่ว่าจะเป็น Viu หรือแพลตฟอร์มระดับโลกอย่าง Netflix, Disney+ และ Amazon Prime ที่กำลังจะเข้ามาทำตลาดในไทย แต่แพลตฟอร์มของจีนรายนี้ก็ไม่ได้มาแบบเปลี่ยวๆ เพราะมีบริษัทแม่อย่าง Tencent คอยสนับสนุน หากสตรีมเมอร์ชาวจีนสามารถตั้งหลักกับเนื้อหาที่รัฐบาลจีนคุมเข้มได้แล้ว ก็เป็นไปได้ว่าในระดับสากล Netflix อาจจะไม่ใช่เจ้าพ่อวิดีโอสตรีมมิงอีกต่อไปก็เป็นได้