แฟรนไชส์ The Matrix ยังคงเป็นที่รักของแฟนภาพยนตร์เสมอ ส่วนใหญ่ก็เป็นเพราะความใส่ใจในรายละเอียดของภาพยนตร์ แม้ว่าจะมีสิ่งที่เป็นความสับสนในภาคต่อเรื่องล่าสุดอยู่ก็ตาม แม้ว่าสิ่งต่างๆ ดูเหมือนจะอธิบายได้ไม่ดีบนหน้าจอ แต่ก็ยังดูมีความรู้สึกที่สอดคล้องกันอย่างมากในจักรวาล The Matrix และเราอาจไม่เข้าใจทุกอย่างเกี่ยวกับวิธีการทำงานของโลกดิสโทเปีย แต่เห็นได้ชัดว่าผู้สร้างเข้าใจมันเสมอ…

ในขณะที่กำลังเขียนบทภาพยนตร์เรื่องที่สี่ ผู้เขียนบทร่วมอย่าง Aleksandar Hemon เล่าถึงเหตุการณ์ที่เขานั่งอยู่ในห้องพักของโรงแรมกับ David Mitchell และ Lana Wachowski ซึ่งเขาได้รับการบรรยายเพิ่มเติมเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของจักรวาล The Matrix เขากล่าวว่า:

ผมจำได้ว่าวันหนึ่งเมื่อเรากำลังเขียนมันอยู่ และอีกสองสามชั่วโมงผ่านไปเมื่อพวกเขาพูดถึงความเป็นไปได้อื่นๆ เหล่านี้ เขาบอกผมว่า ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่อยากถ่ายทำต่อ แต่มันทำไม่ได้ เพียงเพราะว่าพวกเขาได้จินตนาการมากเกินไป เกินกว่าที่จำเป็นสำหรับตัวเรื่องเอง อันที่จริงเรื่องราวเบื้องหลังนั้นซับซ้อน ใหญ่โต และกว้างขวางมาก

ทางด้าน David Mitchell ตอบถึงวิสัยทัศน์ส่วนใหญ่ของ Lana เกี่ยวกับตำนานของจักรวาลที่ยังไม่ได้ถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ แต่ก็ยังเป็นส่วนสำคัญของสิ่งที่ทำให้พวกเขาทำงานได้เกี่ยวกับการสร้างโลก เขาพูดว่า:

มันรู้สึกแข็งแกร่งมากบนหน้าจอ เพราะมันชัดเจนตั้งแต่อยู่ในหัวของ Lana แล้ว

สิ่งเหล่านี้เป็นรากฐานสำคัญของตำนานที่ได้นำไปสู่การตัดสินใจที่น่าสนใจที่สุด (และเป็นที่ถกเถียงกันมากที่สุด) ใน The Matrix Resurrections (2021) หากยกตัวอย่างจากสิ่งที่เกิดขึ้นใน The Matrix Revolutions (2003) เพียงอย่างเดียว คนส่วนใหญ่ก็คงจะคิดว่า Morpheus (รับบทโดย Laurence Fishburne) น่าจะเป็นตัวละครที่มีแนวโน้มมากที่สุดที่จะกลับไปสู่ภาคต่อ ไม่ใช่ Neo (รับบทโดย Keanu Reeves) หรือ Trinity (รับบทโดย Carrie-Ann Moss) เพราะท้ายที่สุด สองคนหลังได้เสียชีวิตในภาพยนตร์เรื่องที่แล้ว ในขณะที่ Morpheus ยังมีชีวิตอยู่ แต่เนื่องจากทางบริษัทได้จินตนาการถึงเรื่องราวที่ผ่านไปแล้ว 60 ปี และมีการตายของ Morpheus ในที่สุด (ในวิดีโอเกมส่วนใหญ่ยอมรับการเป็นจักรวาลหลักอยู่ไม่น้อย) พี่น้อง Wachowski ก็ไม่ได้นำตัวละครกลับมา

มันคือการสร้างโลกนอกจอภาพยนตร์ที่แข็งแกร่งซึ่งนำไปสู่ภาคต่อที่หลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดแบบเดียวกับแฟรนไชส์ ​​Star Wars ซึ่งได้สร้างภาคต่อในโลกที่เกิดการกบฏของไตรภาคดั้งเดิม เห็นได้ชัดว่ามันถูกยกเลิกภายในหนึ่งทศวรรษหรือหลังจากที่มันสิ้นสุดลง ตัวละคร Luke, Leia และ Han ใช้เวลาในภาพยนตร์สามเรื่องต่อสู้กับจักรวรรดิ จุดเริ่มต้นของการต่อสู้กับจักรวรรดิที่ยิ่งใหญ่กว่าและเลวร้ายกว่า ก็ได้เข้ามายึดครองกาแลคซีอีกครั้งในช่วงเริ่มต้นของ Star Wars: The Force Awakens (2015)

อย่างไรก็ตาม ใน Resurrections ทำให้ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนท้ายของ Revolutions ยังคงมีความสำคัญ ความสงบสุขจาก Neo ที่เสียสละชีวิตของเขาเพื่อไม่ให้ถึงการล่มสลายทั้งสังคมมนุษย์และเครื่องจักร และสิ่งเหล่านี้ก็ได้ก้าวหน้าต่อไปอย่างเป็นธรรมชาติ แต่ก็เหลือเชื่อ ที่ในอีก 60 ปีในจักรวาลที่ตามมา ไม่มีความพยายามที่จะคืนสิ่งต่างๆ ให้กลับสู่สภาพเดิมของภาพยนตร์เรื่องแรก เพื่อตั้งค่าภาคต่อเพิ่มเติม การสร้างโลกยังคงมีความสม่ำเสมอไม่ว่าจะทำลายโอกาสของภาคต่ออีกมากเพียงใดก็ตาม…

The Matrix Resurrections ไม่ใช่ภาพยนตร์ที่ดึงดูดใจผู้ชมอย่างชัดเจน แต่มันก็เป็นภาคต่อที่ยังคงความเป็นจริงในการสร้างโลกของไตรภาคดั้งเดิมเอาไว้ มันเป็นภาพยนตร์ที่มีแต่ Wachowski เท่านั้นที่ทำได้ และนั่นก็ไม่ได้เป็นสิ่งที่แย่