Thor: Love and Thunder จะเป็นโปรเจกต์แรกจาก Marvel Cinematic Universe (MCU) ที่จะใช้ Volume stage ในการผลิต ด้วย The Volume เป็นเครื่องมือวิชวลเอฟเฟกต์ที่บุกเบิกโดย Industrial Light & Magic และถูกใช้ครั้งแรกเพื่อความสำเร็จในภาพยนตร์กระแสหลักใน The Mandalorian ของ Jon Favreau เป็นเรื่องน่าตื่นเต้นที่ได้เห็นเอฟเฟกต์ที่ The Volume มีต่อการผลิต Thor: Love and Thunder และการใช้เทคโนโลยีนี้อาจหมายถึงสิ่งที่ยอดเยี่ยมสำหรับ MCU ในอนาคต

วิธีการทำงานของ The Volume นั้นเรียบง่ายหากว่ากันด้วยหลักการ เป็นเวทีที่ฉากหลังประกอบด้วยหน้าจอ LED ขนาดยักษ์ที่มีความละเอียดสูงมาก จากนั้นทีมผู้สร้างก็ฉายภาพลงบนหน้าจอนั้นไม่ว่าจะมีฉากหลังที่เน้น VFX หรือไม่ และนักแสดงก็แสดงฉากนั้นที่หน้าจอ สำหรับแฟนๆ ของฮอลลีวูดยุคคลาสสิกและการสร้างภาพยนตร์ในศตวรรษที่ 20 มันชวนให้นึกถึงการฉายภาพด้านหลัง ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ถูกนำมาใช้ก่อนการมาถึงของหน้าจอสีน้ำเงินหรือเขียว

หากมีสิ่งใดที่ทำให้อุตสาหกรรมสามารถหวนกลับไปสู่วิธีการสร้างภาพยนตร์แบบเดิมๆ ได้ แต่เป็นในระดับที่ล้ำหน้าทางเทคโนโลยีมากขึ้น มันก็จะกลายเป็นเครื่องมือที่ดีสำหรับนักแสดงในการสร้างภาพยนตร์บล็อกบัสเตอร์ขนาดใหญ่ การโยกย้ายที่เป็นประโยชน์จากการถ่ายกับฉากสีเขียวที่กลายเป็นบรรทัดฐานไปแล้ว นอกจากนี้ยังมีองค์ประกอบมากมายใน Volume ที่ช่วยปรับปรุงกระบวนการผลิตได้เป็นอย่างดี หน้าจอจะซิงค์กับกล้อง ซึ่งหมายความว่าเมื่อมุมมองของกล้องเปลี่ยนไป หน้าจอก็จะเปลี่ยนไปเช่นกัน และหมายความว่าผู้สร้างภาพยนตร์กำลังเปลี่ยนกลับไปใช้รูปแบบของเอฟเฟกต์ภาพที่เน้นการจับภาพในกล้องให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เป็นหลัก ซึ่งต่างจากการปรับและแก้ไขสิ่งต่างๆ ในขั้นตอนหลังการถ่ายนั่นเอง

ในบันทึกที่คล้ายกัน สิ่งนี้ควรเปลี่ยนกระบวนการผลิตทั้งหมดสำหรับภาพยนตร์บล็อกบัสเตอร์ให้อยู่ในระดับที่สมดุลยิ่งขึ้นในระยะยาว ไม่ต้องสงสัยเลยว่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์โดยเฉพาะภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ต้องพึ่งพา CGI และ VFX ในขั้นตอนหลังการถ่ายทำมากขึ้น ปริมาณจะขาดความสมดุล เพื่อให้งานขั้นตอนหลังการถ่ายทำแบบดั้งเดิมจำนวนมาก หันไปใส่ใจที่ขั้นตอนก่อนการถ่ายทำมากยิ่งขึ้น

นี่เป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับ MCU เมื่อเร็วๆ นี้ บล็อกบัสเตอร์ของ Marvel ได้พึ่งพา CGI หลังการผลิตมากขึ้นเพื่อจัดการกับโปรเจกต์ร่วมกัน แม้กระทั่งการสร้างชุดทั้งหมดผ่าน CGI เช่น ชุดเดินทางข้ามเวลาใน Avengers: Endgame เป็นงานที่น่าทึ่งและไร้ที่ติอย่างสมบูรณ์ แต่ก็ไม่มีใครสามารถหลีกเลี่ยงความจริงที่ว่าสิ่งนี้ได้นำงานออกจากแผนกเครื่องแต่งกายและการแต่งหน้า สถาบันภาพยนตร์เหล่านี้ไม่ควรลบงานแผนกใดๆ ออก เพียงเพราะสามารถแสดงผลผ่านคอมพิวเตอร์ได้

เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นสำหรับการสร้างภาพยนตร์บล็อกบัสเตอร์ และรู้สึกเหมือนกับว่าอุตสาหกรรมกำลังเคลื่อนเข้าสู่พื้นที่ที่เป็นที่ยอมรับในทุกรูปแบบและทุกสาขาวิชาของการสร้างภาพยนตร์ มันดีกว่ารูปแบบเฉพาะที่ปกครองอุตสาหกรรมนี้มาก ผู้ชมสามารถอยู่ในโลกที่พวกเขาสัมผัสได้ถึงพลังของเครื่องบินเจ็ตที่สมจริงใน Top Gun: Maverick และตอนนี้ต้องขอบคุณ The Volume ที่ทำให้พวกเขาได้เข้าสู่โลกแฟนตาซีอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน Disney ได้แสดงให้โลกเห็นถึงสิ่งที่สามารถทำได้ด้วย The Volume บนหน้าจอขนาดเล็ก ตอนนี้ได้เวลาปรับเปลี่ยนและทำให้เต็มศักยภาพในโรงภาพยนตร์แล้ว และสิ่งนี้น่าจะทำให้ Thor: Love and Thunder ค่อนข้างพิเศษ

Thor: Love and Thunder จะฉายในบ้านเราวันที่ 7 กรกฎาคมนี้