Ride On
1
1
0

Ride On

ควบสู้ฟัด

126 นาที
7/4/2023
แอ็กชัน |คอเมดี้ |ดราม่า
มหึมาความมันส์ พลังม้าพลิกชะตาจักวาลฟัด

เรื่องราวของ "เหล่าหลัว" (แจ็คกี้ ชาน) อดีตสตันท์แมนผู้ที่ตอนนี้มีปัญหาทางการเงินเขาแทบไม่มีเงินเลี้ยงตัวเองแต่ยังต้องดูแลเจ้า “กระต่ายแดง” ซึ่งเป็นม้าสตันท์ที่แสนรักคู่ใจ แม้ว่าจะมีคนบอกให้เหล่าหลัวขายม้าเพื่อเอาเงินมาจ่ายหนี้แต่ เหล่าหลัวไม่ยอมและตัดสินใจบากหน้าไปขอความช่วยเหลือจากลูกสาว ที่ห่างเหินกันไปนาน กับแฟนหนุ่มของลูกซึ่งเป็นทหนาย แต่ระหว่างนั้น เหล่าหลัวและเจ้ากระต่ายแดงกลายเป็นกระแสไวรัลในออนไลน์เพราะคลิปการต่อสู้กับนักทวงหนี้ถูกเอาไปเผยแพร่ ทำให้เหล่าหลัวได้รับโอกาสครั้งที่ 2 ที่จะกลับมาทำงานอีกครั้ง แต่เขาต้องเลือกว่าจะทิ้งความสัมพันธ์ของครอบครัวที่กำลังกลับมาดีขึ้นไปอีกหรือไม่

Larry Yang

Larry Yang

ผู้กำกับ, นักเขียน

ทั้งหมด

รีวิวล่าสุด

ถึงเรื่องนี้จะไม่ได้เน้นแอ็กชั่นจริงจังแบบเรื่องอื่นๆแต่ก็มีดีจนจนกล้าพูดได้ว่าเป็นผลงานที่มีคุณภาพมากที่สุดของ "เฉินหลง" ในรอบหลายปี ด้วยความที่หนังผสมผสานในหลายๆรสชาติทั้ง แอ็กชั่น คอมมาดี้ ดราม่า ครอบครัว ความสัมพันธ์ระหว่างคนกับสัตว์ การต่อสู้ทางกฎหมาย การคารวะและเชิดชูอุตสาหกรรมวงการสตั๊นท์แมน ทำให้หนังมีความหลากหลายขึ้นและมีหลายแง่มุมที่น่าสนใจให้เราเฝ้าติดตามไปจนจบเรื่อง ซึ่งในด้านของดราม่าระหว่างความสัมพันธ์ของครอบครัวหรือแม้แต่ตัวม้าแสนรักอย่างเจ้า "กระต่ายแดง" ก็ถือเป็นพาร์ทที่ทำออกมาได้ดีที่สุดจากบรรดาพาร์ทอื่นๆ ด้วยความบทค่อนข้างทำให้ตัวเฉินหลงมีความเป็นมนุษย์ปุถุชนคนธรรมดาที่สูงมาก จึงทำให้เราค่อนข้างเอาใจช่วยตัวละครตัวนี้มากทั้งในการฟื้นฟูความสัมพันธ์กับลูกที่ไม่ได้เจอกันนานนับสิบปี การกลับทำงานสตั๊นท์แมนในวันที่เลยจุดพีคของตัวเองมาแล้ว และการต่อสู้ในตัวกรรมสิทธิ์ทางกฎหมายของเจ้ากระต่ายแดง ซึ่งประเด็นต่างๆของพาร์ทดราม่าที่ว่ามาทั้งหมดนี้ก็ทำหน้าที่ได้ดีมาก โดยเฉพาะพาร์ทดราม่าเจ้า "กระต่ายแดง" ก็ขยี้ใจได้ดีเหลือเกิน ยิ่งมาบวกกับการแสดงของเฉินหลงในแบบที่เป็นมนุษย์มากๆ (ที่เราแทบจะไม่เคยเห็นมาก่อน) ก็ทำให้พาร์ทนี้ในช่วงท้ายเป็นช่วงที่เรียกน้ำจากผู้ชมได้ไม่ยากเลย
อีกหนึ่งความดีงามที่ต้องพูดถึงอย่างมากเลยก็คือการให้เสียงพากย์ภาษาไทยของ "พันธมิตร" ที่ทำหน้าที่ออกมาได้เป็นอย่างดีหรืออาจพูดได้ว่าเป็นการพากย์ที่ยอดเยี่ยมสุดในรอบหลายปี ทั้งช่วงของการปล่อยมุกยิงมุกก็ทำได้อย่างลื่นไหลมีมาตรฐานที่แม้จะไม่ได้ทำให้ถึงกับขำก๊ากแต่ก็ยังทำให้ขำนิดๆอมยิ้มหน่อยๆ แล้วยิ่งพาร์ทดราม่าที่บทและนักแสดงส่งเสริมอารมณ์ได้ดีอยู่แล้ว การพากย์ไทยก็ยิ่งขับเคลื่อนขยี้อารมณ์ในส่วนของพาร์ทนี้ออกมาได้ดีมากๆในชนิดที่เราอาจเสียน้ำตามากกว่าหัวเราะจากการพากย์ไทยของทีมพันธมิตรเลยก็ว่าได้
แต่ถึงอย่างนั้น ด้วยความที่หนังมีหลายสิ่งหลายประเด็นที่ต้องโฟกัสมากเกินไป จึงทำให้หนังค่อนข้างขาดๆเกินๆจนบางส่วนล้นๆออกไปหน่อย ซึ่งในบางประเด็นที่เหมือนหนังสามารถเคลียร์จบให้ลงตัวแบบสวยๆได้แล้วแต่หนังก็ยังไปยืดไปสร้างประเด็นให้เกิดเป็นปมเรื้อรังที่ยังแก้ไม่หายสักทีจนยืดเยื้อ หรือในบางประเด็นก็ยังขยี้ได้ไม่ทั้งส่วนของการคารวะและเชิดชูอุตสาหกรรมวงการสตั๊นท์แมน (ที่บางส่วนเชื่อมโยงกับบทบาทการทำงานของเฉินหลงในยุคก่อนด้วย) ซึ่งส่วนตัวผมยังมองว่าหนังยังไม่ได้ขยี้ให้สุดไปแต่กลับเล่าออกมาได้เรียบง่ายไปหน่อย ถึงหนังจะแตะประเด็นที่สนใจอย่าง "สวัสดิการและสิทธิที่ควรดีกว่านี้สำหรับสตั๊นท์แมน หรือประเด็นการมามีบทบาทของ CG" ที่แม้จะมีความน่าสนใจแต่ก็รู้สึกว่ายังเล่าออกมาได้ไม่ครอบคลุมเท่าไหร่ ซึ่งส่วนหนึ่งก็คงเพราะมีหลายประเด็นที่หนังต้องโฟกัสจนเกินไปนั่นแหละ
ในภาพรวมทั้งหมดในแง่ของหนังสักเรื่อง หนังเรื่องนี้ถือว่าเป็นหนังดีมีคุณภาพที่เราเอนจอยไปได้ทั้งแต่ต้นจนจบ แต่หากมองในฐานะหนังเฉินหลงสักเรื่อง หนังเรื่องนี้ก็คือหนังยอดเยี่ยมและดีที่สุดในหลายปีของเฉินหลง ในฐานะที่เป็น "หนังที่มีหัวใจ" ซึ่งได้สะท้อนภาพความเป็นมนุษย์คนธรรมดาสีเทาๆที่เจ็บเป็นสำเร็จได้ของเฉินหลง รวมถึงยังได้ถ่ายทอดเรื่อง คารวะชื่นชม และเชิดชูอุตสาหกรรมวงการสตั๊นท์แมนที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของหนังแอ็คชั่นหลายๆเรื่องรวมทั้งยังเป็นรากฐานสำคัญที่ส่งเสริมให้เฉินหลงสามารถประสบความสำเร็จได้มาจนถึงทุกวันนี้
1 0
แสดงล่าสุด 15 รายการ หากต้องการ ดูเพิ่มคลิกที่นี่