รางวัลลูกโลกทองคำ สาขาภาพยนตร์ 2023

ชวนทุกคนมาดูรางวัลลูกโลกทองคําที่มอบให้ทั้งนักแสดงและภาพยนตร์หลากหลายสาขาว่ามีเรื่องอะไรกันบ้าง The Fabelmans ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ประเภทดราม่า, The Banshees of Inisherin ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ประเภทตลก-เพลง, Austin Butler (Elvis) นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ประเภทดราม่า, Cate Blanchett (TÁR) นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ประเภทดราม่า, Colin Farrell (The Banshees of Inisherin) นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ประเภทตลก-เพลง, บางเรื่องอาจจะไม่ใช่หนังตลาดไทยแต่บอกได้เลยงานนี้อัดแน่นไปด้วยคุณภาพ
10 ฟิล์ม
0 ไลก์
0 ความคิดเห็น
The Fabelmans
7.5

The Fabelmans

เดอะ เฟเบิลแมนส์

The Banshees of Inisherin
7.7

The Banshees of Inisherin

แบนชีผีแค้นแห่งเกาะไอนิเชอริน

Elvis
7.3

Elvis

เอลวิส

TÁR
7.6

TÁR

ทาร์

Everything Everywhere All at Once
8.3

Everything Everywhere All at Once

ซือเจ๊ทะลุมัลติเวิร์ส

Black Panther: Wakanda Forever
7.7

Black Panther: Wakanda Forever

แบล็ค แพนเธอร์ : วาคานด้าจงเจริญ

Guillermo del Toro's Pinocchio
6.9

Guillermo del Toro's Pinocchio

พิน็อกคิโอ หุ่นน้อยผจญภัย โดยกีเยร์โม เดล โตโร

Argentina, 1985
7.6

Argentina, 1985

อาร์เจนตินา 1985

Babylon
8.3

Babylon

บาบิลอน

RRR
8.9

RRR

ก้องเกียรติกบฏ

0 ความคิดเห็น

คุณต้อง สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ ก่อน เพื่อที่จะสามารถแสดงความคิดเห็นได้

รีวิวล่าสุด

Moving

Moving

-

รีวิวซีรี่ส์โดยรวมทั้งติและชม ยาวหน่อย(มั้ง) เพราะเขียนไว้ให้ตัวเองอ่านด้วย ความรู้สึกหลังดูจบ: ยกให้เป็นซีรี่ส์ที่หนึ่งในใจเลย สนุกมาก กลมกล่อมกำลังดี และดีใจมากที่เป็นโกยุนจอง ได้ร่วมงานกับนักแสดงเก่งๆหลายท่าน เติบโตและสร้างชื่อเสียงไปอีกขั้น งานบทภาพตร์: จริงๆเส้นเรื่องหลักไม่ได้มีอะไรมากเลยแต่สิ่งที่ทำให้มันวิเศษคือ มันเป็นเรื่องของคนธรรมดา ครอบครัว ความรัก ชีวิตและการเติบโตของตัวละคร ที่มัน human มากๆ และการลงลึก detail ถึงลักษณะนิสัยของตัวละครนั้นๆ ทุกการกระทำมีความหมาย บวกกับวิธีการเล่าเรื่องและการกำกับที่จะทำให้มันน่าสนใจขึ้นมา ซึ่งเขาก็ทำได้และดีด้วย งานภาพ: ต้องบอกว่างานภาพนี่สุดอยู่เหมือนกัน สวยตาแตก มีการจัดองค์ประกอบภาพดี เลือกมุมดีและเลือก camera angle หรือ camera movement ได้ถูกจังหวะแล้วดี หลายๆครั้งใช้การเคลื่อนไหวของกล้อง การถ่ายแตกช็อต และมีลูกเล่นเช่นถ่ายกับแสงไฟ ถ่ายกับกรอบประตูหรือหน้าต่าง มีเส้นนำสายตาหรือสิ่งที่ดึงดูดสายตา มาช่วยให้ sequence นั้นไม่น่าเบื่อ และสิ่งที่ยอดเยี่ยมของเรื่องนี้มากๆเลยคือการร่วมงานกันของตากล้อง นักแสดง continue และผู้กำกับ ที่ตัวละครจะไม่ได้ยืนแข็งทื่อคุยกันดั่งที่ภาพยนตร์หลายๆเรื่องเป็น จะมีการเดินและเปลี่ยนมุมอย่างธรรมชาติ ซึ่งเป็นงานของ continue ที่ต้องดีมากๆ แต่ก็มีบ้างบางครั้งที่ผิดพลาด เช่นฉากในโรงยิมใหม่ ที่จีบๆกันอยู่แต่กล้องถ่ายข้ามมุม 180 องศา ทำให้เรางงทิศทางหน่อยๆ แต่ก็..มองข้ามได้ การจัดไฟ คือที่สุด เลิศปัง การจัดไฟมีส่วนอย่างมากกกที่ทำให้ภาพมี contrast ซึ่งเรื่องนี้ไม่ทิ้งทั้ง foreground และ background มีการจัดไฟทั้งหมดและเป็นการเลือกใช้คู่สีและเฉดสีคู่กันที่ดีงามมากก นอกจากจะสวยแล้วในหลายๆครั้งก็เป็นส่วนช่วยในการสื่อสารในซีนนั้นๆหรือเสริมอารมณ์ในซีนนั้นๆชัดเจนยิ่งขึ้น เข้มข้นยิ่งขึ้น Production design (Art): ทั้งคนและสิ่งของต่างมีชีวิตและเวลาในรูปแบบของมัน เพราะฉะนั้นการสะท้อนภาพเหล่านั้นและกลายให้มันเป็น mise-en-scene ที่กระตุ้นบรรยากาศและสร้างอารมณ์มันก็ไม่ง่ายเลย ทั้งยังต้องสมจริงด้วย ซึ่งรายละเอียดเหล่านั้นเขาทำได้ดี มันมีรายละเอียดฉากให้มองเสมอ แต่แกเป็นอะไรกับพัดลมรึเปล่าเอาเทปไปมัดหรือบางทีก็หันหน้าออกแต่แกก็ยังถ่ายโจ้งๆให้เห็น 555555555 หยอกก เราว่าอะไรเหล่านี้เขาทำได้ดีเหมือนกัน รวมไปถึงเครื่องแต่งกายและเมคอัพ ถามว่าเรารู้ได้ไงว่าคนนั้นเป็นคนเกาหลีเหนือก็ต้องบอกว่าการแคสติ้งหน้าตาเขาเลือกมาดีและการแต่งหน้า แต่งตัวก็มีส่วนช่วยเยอะ และ special effect ที่ทำพวก แขน-ขาหัก เลือด อะไรทำนองนั้นก็ดีมากซะจนกูเจ็บไปด้วย เสียง: เดอะเบสมากก เสียงพูดหรือเสียง effect มัน smooth ซะจนเราไม่ได้สังเกต, เพลง theme ที่ชื่อว่า rising bongseok ก็คือดีจริงๆ มัน capture melody เล็กๆแล้วค่อยๆ build จนมันค่อยๆแตกหน่อและระเบิดความรู้สึกออกมามันสวยงามมากซึ่งมันแปลความรู้สึกได้หลากหลาย สดใส สับสน เวิ้งว้าง เศร้าหรือคลี่คลายอะไรบางอย่าง มีกลิ่นอาย interstella นิดๆด้วย เพราะความเวิ้งว้างของมันล่ะมั้ง vfx: ดี สวย บางครั้งเนียน บางครั้งไม่เนียน บางครั้งดูแปลกๆ เพราะเรื่อง physic และกายภาพนั้นยากจริงๆที่จะทำให้มันเนียนให้มันถึง บางอันเลยมองข้ามมันไปได้ แค่นี่แหละอาจดูเมาๆหน่อยเพราะเขียนตอนดึก จริงๆมีอยากเขียนอีกแต่ตอนนี้สมองเบลอแล้ว 555555 ครั้งนี้ดูเอาสนุกเอามันส์ ม่วนๆจอยๆ หวีดนักแสดงกับเพื่อน ยังไงก็กะจะดูซ้ำบน TV อยู่แล้วเพื่อไปเก็บ detail อาจมาเขียนอีก(มั้ง) ถ้าอ่านมาถึงตรงนี้ก็ขอบคุณมากครับ

10.0


The Equalizer 3

The Equalizer 3 (2023)

มัจจุราชไร้เงา 3

เป็นการปิดไตรภาคอย่างสวยงาม ใครหวังอยากเห็นแอ็กชันเดือดๆ ทั้งเรื่องก็อาจจะผิดหวัง เพราะภาคนี้มันคือบทสรุปของตัวละคร แนะนำให้ดู 1-2 ไปก่อน จะได้อินและเข้าใจตัวละครมากขึ้น ตัวหนังดำเนินเรื่องแบบเรื่อยๆ ให้เราได้เห็นจุดพลิกผันของพระเอกที่ฆ่าคนมาเยอะและอยากจะหยุดพักในเมืองอันสงบสุข แต่กลับต้องเจอกับพวกมาเฟีย งานนี้พี่แกเลยขอไล่เชือดทิ้งท้ายเสียหน่อย บทเขียนมากำลังดี เล่าเรื่องแบบเรื่อยๆ แต่ไม่น่าเบื่อ ยังมีฉากฆ่าแบบเก๋าเกมให้เราได้หายคิดถึงอยู่ Robert McCall (รับบทโดย Denzel Washington) ก็ยังคงเป็นคนเดิม ถึงแม้จะเกษียณแล้วแต่แกก็เลือดเย็นเหมือนเดิม ส่วนตัวชอบการแสดงของป๋า Denzel มาก ถ้าไม่ใช่แกรับบทนำตัวหนังอาจจะดรอปกว่านี้ ภาพรวมคือดี เสียดายอย่างเดียวคือตัดจบไวไปหน่อย ยังอยากเห็นแกออกโรงอีกนิด

ข่าวจัดอันดับ

ประจำสัปดาห์นี้