ชวนดู Decision to Leave อีกหนึ่งผลงานจากเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ ที่มาพร้อมแรงบันดาลใจของผู้กำกับ Park Chan-wook
สำหรับวงการเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ (Cannes Film Festival) ในสมัยนั้นภาพยนตร์เกาหลีถือเป็นแรร์ไอเทม เป็นอะไรที่ค่อนข้างเรียกได้ว่าแปลกใหม่ ๆ มาก แต่ในปี 2004 เป็นปีแรกของผู้กำกับหนุ่ม Park Chan-wook จากภภาพยนตร์สัญชาติเกาหลีเรื่อง Oldboy (2003) ได้เข้าไปมีบทบาทและเฉิดฉายมากในช่วงเวลานั้น โดยภาพยนตร์เรื่องนี้ทั้งมีความสดใหม่และรายละเอียดที่ค่อนข้างลึกซึ้งมาก แม้เรื่องนี้จะฉายที่เกาหลีไปแล้วเกือบหกเดือนก่อนแต่ก็ได้รับการยกเว้นให้มีชื่อเข้าชิงรางวัลในเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ (Cannes Film Festival) และด้วยพลังของภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ยังคว้ารางวัล The Jury Prize จาก Quentin Tarantino ผู้กำกับระดับตำนานที่เป็นกรรมการในปีนั้นไปได้อีกด้วย จนกลายเป็นภาพยนตร์ Cult คลาสิกที่โด่งดังไปทั่วโลกและกวาดรายได้ไปถึง 15 ล้านเหรียญสหรัฐ
นอกจากนี้ Park Chan-wook ยังมีผลงานอื่น ๆ อีกไม่ว่าจะเป็น Joint Security, Area (2000), Sympathy for Mr. Vengeance (2002), Lady Vengeance (2005), Thirst (2009) และ The Handmaiden (2016) ด้วย
ระหว่างที่ห่างหายจากเทศกาลภาพยนตร์ไปนาน Park Chan-wook ก็ได้มีกำกับผลงานซีรีส์สายลับอังกฤษจากเรื่อง The Little Drummer Girl (2018) ที่ฉายทาง BBC และภาพยนตร์สั้น Life Is But a Dream (2022) ของ Apple รวมไปถึงนิทรรศการภาพถ่ายของเขาเองที่จัดขึ้นในปูซานเมื่อปีที่ผ่านมา และการกลับมาแบบจัดเต็มอีกครั้งในรอบ 6 ปี กับ Decision to Leave ภาพยนตร์ที่ว่าด้วยเรื่องราวความรักของตำรวจผสานกับเรื่องราวสืบสวนสอบสอบในคดีที่เกิดขึ้น นำแสดงโดย Tang Wei และ Park Hae-il
โดยผู้กำกับ Park Chan-wook ได้อธิบายถึงแรงบันดาลใจที่มาของภาพยนตร์เรื่อง Decision to Leave เอาไว้ว่า
“คือส่วนตัวผมเองชอบภาพยนตร์แนวสืบสวนสอบสวนอยู่แล้ว ที่ผ่านมาหลายปีนี้ผมก็ได้ดูไปหลายเรื่องมาก ๆ ผมก็พบว่าตำรวจ นักสืบ อะไรแบบนี้มันดูห่างไกลจากความเป็นจริงในชีวิตของคนดูมาก ๆ ทั้งแครักเตอร์ นิสัย ท่าทางต่าง ๆ ผมอยากเห็นตำรวจหรือนักสืบที่เหมือนคนธรรมดาทั่วไป แค่ไปทำงานแล้วก็กลับบ้าน ส่วนอีกอย่างที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับผมคือเพลง The Mist ที่แต่งโดย Lee Bong-jo และ Chung Hoon-hee เป็นเพลงที่ผมชอบมาก ฟังมาตั้งแต่เด็ก ๆ และก็ฝันว่าอยากจะใช้เพลงนี้ในภาพยนตร์โรแมนติกมาโดยตลอด ผมอยากจะผสมผสานทั้งสองไอเดียนี่และถ่ายทอดออกมาเป็นภาพยนตร์ในเรื่อง Decision to Leave”
“จริง ๆ ผมก็อยากรู้ว่าคนดูจะรู้สึกยังไงกับภาพยนตร์เรื่องนี้เหมือนกัน เพราะอย่างในผลงานเรื่อง The Handmaiden (2016) และ Oldboy (2003) มันค่อนข้างโดดเด่นและมีสไตล์เป็นของตัวเองมาก ๆ แต่มันจะไม่มีอะไรแบบนั้นในภาพยนตร์เรื่องนี้เลย สำหรับเรื่องนี้มันค่อนข้างนิ่งเงียบ แต่เฉียบพลัน และไม่ชัดเจน ผมพยายามทำให้มันคลาสิกมากขึ้น ซึ่งมันไม่ใช่อะไรที่คนดูจะคาดหวังจากผมเลย”
“หนึ่งสิ่งที่ผมอยากจะบอกคือแม้ภาพยนตร์เรื่องนี้อาจจะเป็นเรื่องราวของผู้ใหญ่ แต่วัยรุ่นก็สามารถชมเรื่องนี้ได้เพราะมันไม่มีเรื่องความรุนแรงหรือฉากวาบหวิวอะไรเลย แต่ผมไม่รู้ว่าพวกเขาจะชอบไหมนะ เพราะที่ผมบอกว่ามันเป็นเรื่องราวของผู้ใหญ่มันคือเรื่องราวความสัมพันธ์แบบผู้ใหญ่จริง ๆ คุณจะต้องเติบโตจากการสูญเสียหรือปล่อยมือจากใครสักคนที่คุณรักมาก ๆ ซึ่งมันค่อนข้างละเอียดอ่อนและซับซ้อน ผมเลยคิดว่าคุณจำเป็นต้องมีประสบการณ์ประมาณนั้นด้วยเพื่อจะได้อินและเข้าใจกับภาพยนตร์เรื่องนี้”
ชมตัวอย่างด้านล่าง
คุณต้อง สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ ก่อน เพื่อที่จะสามารถแสดงความคิดเห็นได้