รีวิว The Danish Girl (2015) ภาพยนตร์ที่มีเค้าโครงมาจากเรื่องจริง กับเรื่องของหญิงข้ามเพศคนแรกของโลก

The Danish Girl (2016) ภาพยนตร์ Based on true story ที่สร้างมาจากเรื่องราวความกล้าหาญของสตรีข้ามเพศคนแรกของโลกที่ได้นักแสดงชายเจ้าของรางวัลออสการ์อย่าง Eddie Redmayne มาถ่ายทอดเรื่องราวของสตรีข้ามเพศและอุปสรรคที่เธอต้องเผชิญ สมทบด้วย Alicia Vikander นักแสดงหญิงมากฝีมือที่ยิ่งทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ควรคู่ต่อการเป็นภาพยนตร์ที่ควรดูให้ได้สักครั้งมากขึ้นไปอีก

ภาพยนตร์ The Danish Girl เป็นเรื่องราวของสองสามีภรรยาจิตรกรอย่าง Einar (รับบทโดย Eddie Redmayne) และ Gerda Wegener (รับบทโดย Alicia Vikander) ที่วันหนึ่งมีเหตุให้ Gerda ต้องขอความช่วยเหลือจากสามีของเธอ Einar เพื่อให้เขาลุกขึ้นมาแต่งตัวด้วยชุดของผู้หญิงเพื่อเป็นแบบให้กับเธอ แต่ Gerda ไม่รู้เลยว่า การที่ Einar มาช่วยแต่งหญิงเพื่อเป็นแบบให้กับเธอในครั้งนั้นจะเปลี่ยนชีวิตคู่ของพวกเขาไปตลอดกาล

Einar เริ่มอินกับการแต่งหญิงมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเขาได้รับการสนับสนุนจากภรรยาที่คอยช่วยพาเขาเข้าๆ ออกๆ ห้องแต่งตัวของเหล่านักบัลเล่ต์สาวอยู่เสมอ จนวันหนึ่ง Einar ก็รู้ตัวแล้วว่าเขานั้นไม่ใช่ชายแท้หรือสามีของ Gerda อีกต่อไป หลังจากจุดนี้ หนังก็จะพาเราท่องไปกับเรื่องราวการผจญภัยของ Einar ในการที่เขาจะต้องเปลี่ยนจากจิตรกรชายชื่อดังมาเป็นสตรีเต็มตัว เพราะ Einar นั้นไม่ได้แค่เชื่อว่าเขาไม่ได้ชอบผู้หญิงหรือชอบการแต่งหญิงเท่านั้น แต่เขาเชื่อว่าเขาคือผู้หญิงที่เกิดและต้องติดอยู่ในร่างของผู้ชาย แต่ด้วยความช่วยเหลือของภรรยา Gerda ตัวตนของ Lili จึงสามารถออกมาสู่โลกกว้างได้สำเร็จ และเพราะเซ็ตติ้งของหนังนั้นอยู่ในยุค 1800 Einar จึงต้องฝ่าฟันอุปสรรคมากมายเพื่อให้ Lili ได้ออกมามีตัวตนอย่างสมบูรณ์แบบ

backdrop-0

ก่อนอื่นเลย ผู้รีวิวจะขอกล่าวถึงประสบการณ์ส่วนตัวของตัวเองในตอนที่ภาพยนตร์เรื่องนี้กำลังจะเข้าฉายซะหน่อยก่อนที่เราจะไปเข้าสู่ในพาร์ทของการรีวิวกัน ผู้รีวิวจำได้ว่าหลังจากที่ได้ดูตัวอย่างของภาพยนตร์เรื่องนี้ ผู้รีวิวก็รออย่างใจจดใจจ่อที่จะได้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้ในโรงภาพยนตร์ แต่อาจจะเพราะว่าภาพยนตร์เรื่องนี้นั้นเป็นหนังนอกกระแส ดังนั้นภาพยนตร์เรื่องนี้จึงไม่ได้เข้าฉายในทุกโรงภาพยนตร์ (รวมถึงโรงภาพยนตร์สาขาแถวบ้านผู้รีวิวด้วย) กว่าจะได้ดูหนังเรื่องนี้ก็ออกจากโรงภาพยนตร์แล้วเกือบทุกสาขาแล้ว แต่หลังจากที่ผู้รีวิวได้ดู ก็ขอบอกเลยว่าคุ้มค่าการรอคอยที่สุด!

backdrop-1

มาถึงพาร์ทรีวิวกันบ้าง อย่างแรกเลยคือเรื่องของเนื้อเรื่องค่ะ อาจจะเพราะว่าหนังเรื่องนี้นั้นสร้างมาจากเรื่องจริงของคนที่เคยมีตัวตนอยู่จริงๆ ในประวัติศาสตร์ เส้นเรื่องของหนังเลยไม่ได้มีอะไรหวือหวามาก ออกจะเรื่อยๆ เอื่อยๆ เสียด้วยซ้ำ ซึ่งหากใครที่ไม่ได้ชื่นชอบภาพยนตร์แนวนี้หรือเปิดใจดูมากพอก็อาจจะรู้สึกกว่าภาพยนตร์เรื่องนี้นั้นน่าเบื่อ แต่สำหรับผู้รีวิวที่ชื่นชอบเรื่องราวที่เกี่ยวกับความหลากหลายของเพศวิถีอยู่แล้วนั้น ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเหมือนขุมทรัพย์ที่ต้องตามหากันอยู่พักใหญ่เลยล่ะค่ะ

และเพราะว่าบทของภาพยนตร์นั้นไม่ได้มีอะไรหวือหวา การแสดงของนักแสดงจึงเป็นเหมือน The แบก ที่ต้องแบกภาพยนตร์เรื่องนี้ให้ไปได้ตลอดรอดฝั่ง แต่ อะแฮ่ม! มาถึงตอนนี้ผู้รีวิวอยากให้ทุกคนย้อนกลับไปดูรายชื่อของนักแสดงนำอีกทีค่ะ ฮัลโหล! นี่ Eddie Redmayne กับ Alicia Vikander เลยนะคะ!

backdrop-2

เรียกได้ว่าตลอดทั้งเรื่องแทบจะมีตัวละครอยู่แค่สองตัวเลยก็ว่าได้ แต่นักแสดงนำของเราทั้งสองคนก็เอาอยู่มากๆ และสามารถตรึงเราเอาไว้กับการแสดงของพวกเขาทั้งคู่ได้อย่างอยู่หมัด โดยเฉพาะการแสดงของนักแสดงหนุ่ม Eddie Redmayne ที่บทของเขานั้นมีความซับซ้อนในตัวเองอย่างมาก รวมถึงบทดราม่านับไม่ถ้วนที่เขาต้องถ่ายทอดออกมาทั้งในมุมมองของ Einar และมุมมองของ Lili ที่รอวันที่จะได้ออกมาโลดแล่นอยู่ข้างในตัวเขา ทั้งจริต อินเนอร์นี่เรียกได้ว่าเพอร์เฟ็กต์! ดูจบแล้วผู้รีวิวแทบอยากจะลุกขึ้นปรบมือให้เลยทีเดียว

backdrop-3

แต่ม้ามืดของภาพยนตร์เรื่องนี้ก็คือ Alicia Vikander ค่ะท่านผู้ชม! อาจจะเพราะด้วยบทของเธอที่ต้องคอยให้การสนับสนุนแก่สามีของเธอที่กำลังต้องเผชิญกับอุปสรรคนับไม่ถ้วน และในตอนสุดท้าย เธอก็กลายมาเป็นเพื่อนรักที่สุดของ Lili อีก แถมเธอยังเป็นจิตรกรหญิงไม่กี่คนในยุคสมัยที่ความสามารถของจิตรกรหญิง (และอาชีพอื่นๆ) ยังไม่ได้รับการยอมรับและความเท่าเทียมเท่ากับผู้ชายคนอื่น เรียกได้ว่าบทของ Gerda นี่ต้องเผชิญกับอุปสรรคทั้งในบ้านและนอกบ้านเลย แต่เธอก็ยังกัดฟันสู้และช่วยให้ Einar ทำฝันให้สำเร็จจนได้

จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมบทนี้ถึงพา Alicia Vikander ไปเข้าชิงรางวัล “นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม” ที่งานประกาศรางวัลออสการ์ได้ ถึงแม้ว่าลึกๆ แล้วผู้รีวิวจะรู้สึกว่าเธอควรได้รับรางวัล “นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม” มากกว่าก็ตามที

backdrop-4

นอกจากเรื่องบทและการแสดงของนักแสดงแล้ว ผู้รีวิวก็ชื่นชอบภาพของภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นพิเศษ เพราะทุกองค์ประกอบศิลป์นั้นดูเข้ากันไปหมด เมือง ภาพวาด ชุดของคนที่เดินผ่านไปผ่านมาที่ดูสวยไม่น้อยไปกว่าชุดของนักแสดงหลัก มุมกล้อง โทนสี ทุกฉากจึงออกมาสวยราวกับภาพวาดของ Einar และ Gerdda เลยทีเดียว

สรุปแล้ว ภาพยนตร์เรื่องนี้อาจจะไม่ได้มีอะไรโดดเด่นมาก ก็เข้าสูตรหนังชิงรางวัลออสการ์ทั่วไป แต่สิ่งที่ผู้รีวิวอยากขอให้ทุกคนเปิดใจและลองไปรับชมดูสักครั้งก็คือการแสดงของนักแสดงทั้งคู่ค่ะ แล้วทุกคนจะรู้สึกว่าช่องโหว่ของบทและเรื่องอื่นๆ เล็กๆ น้อยๆ ที่ผิดพลาดไปบ้างก็พอให้อภัยได้ อ่านแบบนี้แล้วก็ไปเลยค่ะ! ไปหาดูกันเร็ว!

avatar
รีวิวโดย PaweekornC
0 1

7.9 / 10

รายละเอียดคะแนน

circle

คุณภาพด้านการแสดง

8.5 / 10

circle

คุณภาพของบทภาพยนตร์

7.5 / 10

circle

คุณภาพด้านเทคนิคการสร้าง

8.0 / 10

circle

คุณภาพด้านเสียง

8.0 / 10

circle

ความคุ้มค่าเวลาในการรับชม

7.5 / 10

ข้อมูลภาพยนตร์

ดราม่า|

Find the courage to be yourself.

R

119

นาที

Tom Hooper

ผู้กำกับ

Lucinda Coxon

บทภาพยนตร์

David Ebershoff

นวนิยาย

ภาษาต้นฉบับ

อังกฤษ

ทุนการสร้าง

$15,000,000

รายได้

$64,200,000

IMDB

7.1

TMDB

7.6

ตัวอย่างภาพยนตร์

trailer
1 ความคิดเห็น
LadyNerd

เราร้องไห้กับฉากจบหนักมาเลยค่ะ555


คุณต้อง สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ ก่อน เพื่อที่จะสามารถแสดงความคิดเห็นได้