Qala (2022) สุดยอดภาพยนตร์อินเดียที่จิกกัดสังคมได้อย่างเจ็บแสบ เขียนบทและกำกับโดย Anvit Dutt เริ่มสตรีมครั้งแรกบน Netflix ในวันที่ 1 ธันวาคม 2022 โดยใช้ชื่อไทยว่า “ควาล่า”

เรื่องราวของ Qala Manjushee (รับบทโดย Tripti Dimri) นักร้องสาวชาวอินเดียผู้ประสบความสำเร็จในชีวิตจากการรับรางวัลแผ่นเสียงทองคำ อย่างไรก็ตาม อาชีพการงานอันรุ่งโรจน์ของเธอกลับสวนทางกับสุขภาพจิต เมื่ออดีตตามมาหลอกหลอน และหนังก็ได้ย้อนให้เราเห็นว่าเส้นทางสู่ดวงดาวของ Qala ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่มันเต็มไปด้วยความผิดบาปที่จะตามติดเธอไปตลอดกาล

สวัสดีครับ Chonla3 ที่ผมเรียก Qala (2022) ว่า “สุดยอดภาพยนตร์อินเดีย” ในพารากราฟแรก นี่ไม่ใช่การเสแสร้งแต่อย่างใด เพราะมันออกมาจากความรู้สึกของผมจริงๆ ต้องยอมรับว่าภาพยนตร์จากประเทศอินเดียในยุคนี้ทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม จนผมลืมไปว่าเมื่อนานมาแล้ว หนังเหล่านี้เคยถูกสบประมาทว่าไร้แก่นสารมาก่อน และนี่ก็คือภาพยนตร์อินเดียเรื่องแรกในรอบหลายปีที่ผมได้รับชม ซึ่งผมไม่อายที่จะพูดว่า “เราอาจได้ยินชื่อภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกเอ่ยถึงในงานประกาศรางวัลออสการ์”

ความสมเหตุสมผลของหนังเรื่องนี้ได้ลบล้างความเวอร์วังอลังการจนดูไม่สมจริงจากภาพยนตร์อินเดียที่ผมเคยดูจนหมด นี่คือความจริงจังซึ่งเน้นไปซึ่งประเด็นทางสังคมที่เป็นปัญหามาจนทุกวันนี้ นั่นคือ “การเหยียดเพศ” อย่างที่เราทราบกันดีว่าในบางประเทศผู้หญิงมักจะไม่ได้รับความเคารพหรือสิทธิมนุษยชนตามที่ควรจะได้รับ แน่นอนว่า… อินเดียก็เช่นกัน แต่ Qala นั้นได้รับการปฏิบัติที่ต่างออกไปเล็กน้อย Urmila (รับบทโดย Swastika Mukherjee) ได้คลอดแฝดหญิงชายออกมา ซึ่งแฝดชายนั้นสุขภาพไม่แข็งแรงเลยเสียชีวิตตั้งแต่เด็ก Qala จึงถูกคาดหวังให้เป็นเกียรติแก่วงตระกูลเฉกเช่นลูกชายผู้สมบูรณ์แบบ และความคาดหวังที่มากเกินไปก็ทำให้ Qala เลือกใช้วิธีการดำเนินชีวิตในแบบที่ผิด จนเกิดเป็น… ขอไม่สปอยล์แล้วกันนะครับ

ด้วยความที่แต่ละฉากมีความสำคัญต่อภาพยนตร์ ผมจึงจะหลีกเลี่ยงการกล่าวถึงเพื่ออรรถรสในการรับชม โดยจะขอกล่าวถึงสิ่งที่ผมชอบที่สุดในหนังเรื่องนี้ อย่างแรกคือเสียงเพลง อินเดียนั้นคือประเทศแห่งหนังมิวสิคัลโดยแท้จริง และเราก็ได้ฟังเพลงเพราะๆ ตลอดทั้งเรื่อง เนื้อเสียงใสๆ และลูกเอื้อนที่เป็นเอกลักษณ์สะกดเราให้อยู่ในภวังค์ได้อย่างแท้จริง Qala (2022) น่าจะเป็นภาพยนตร์ไม่กี่เรื่อง (ไม่รวมหนังฮีโร่ Marvel กับ DC) ที่ผมดูจนจบตั้งแต่ฉากแรกจนถึงฉากเครดิต แบบว่าฉากดำๆ ที่ขึ้นรายชื่อทีมงานและนักแสดงอะไรพวกนี้ อันที่จริงผมไม่ได้อยากรู้หรอกว่าใครทำหน้าที่อะไรบ้าง แต่ผมอยากนั่งฟังเพลงทุกเพลงในหนังแม้กระทั่งเพลงปิดของมัน

บรรยากาศในหนังนั้นสวยงามมากๆ ราวกับว่าเราหลุดไปยังอีกโลกหนึ่งเลยทีเดียว การตัดต่อเปลี่ยนฉากก็ทำได้ละมุนละม่อมไม่รู้สึกว่าถูกขัดห้วงอารมณ์ พวกเขาใช้สีโทนเย็นสลับกับสีโทนร้อนเพื่อสื่ออารมณ์ของตัวละครหลักได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อ

สิ่งสุดท้ายที่อยากจะกล่าวถึงคือการออกแบบตัวละคร การเขียนบทแบบนี้ภาษานักเขียนนิยายเรียกว่าการสร้างพล็อตจากตัวละคร ทุกการกระทำของล้วนแต่มีเหตุผลตามทัศนคติของพวกเขา มันอาจไม่มีคนดีและคนชั่วแบบ 100% ผมจึงเกลียดตัวละครใจบาปเหล่านี้ไม่ลงเพราะพวกเขาเป็นตัวแทนของมนุษย์ธรรมดาที่เราอาจรู้จักในสังคม

ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้สะท้อนทัศนคติทางเพศ และสภาพสังคมที่บีบให้ใครบางคนทำสิ่งเลวร้าย Qala (2022) เปรียบเหมือนกระจกเงาที่สะท้อนให้เรามองเห็นตัวเราเองจากพฤติกรรมบางอย่างของตัวละคร นี่คืองานศิลปะที่มีข้อบกพร่อง แต่กระนั้นมันก็ยังสวยงามเพราะความไม่สมบูรณ์แบบ หากจะให้บอกว่าหนังเรื่องนี้เหมาะกับใครบ้าง ตามเรตที่ Netflix จัดไว้คงต้องเป็นผู้ที่มีอายุ 16 ปี ขึ้นไป และผมขออนุญาตเตือนคนที่มีสภาวะจิตใจไม่มั่นคงในตอนนี้ว่าควรหลีกเลี่ยงไว้ก่อน ส่วนคนที่จิตแข็งและเชื่อว่าตัวเองสามารถแยกแยะถูกผิดได้ดีพอ หนังเรื่องนี้เหมาะกับคุณครับ ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านครับ

Qala (2022) แบบซับไทย กำลังสตรีมบน Netflix