Scream VI (2023) อาจเป็นภาพยนตร์ที่เปิดตัวด้วยรายได้สูงสุดของแฟรนไชส์

ภาพยนตร์เชือดเฉือนจากสตูดิโอ Paramount และ Spyglass Media ทำรายได้ในประเทศ 5.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา และขยายโรงภาพยนตร์ในประเทศจาก 3,125 โรงเป็น 3,675 โรงในวันศุกร์

เกือบ 27 ปีหลังจาก Scream (1996) ภาคแรกสร้างความหวาดกลัวให้ผู้ชม แต่ทว่าแฟรนไชส์นี้ยังคงแข็งแกร่งและเหนียวแน่น โดย Scream (2022) ฉบับรีบูตปี 2022 ทำเงินได้ 3.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐในวันแรกของการเข้าฉาย ก่อนที่จะทำรายได้เปิดตัวในช่วงสุดสัปดาห์ที่ 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ Scream 3 (2000) ที่ออกฉายในปี 2000 หลายปีก่อนที่ดารานำในยุคนี้จะเกิดเสียด้วยซ้ำ ทำรายได้เปิดตัวสูงสุดของแฟรนไชส์ด้วยรายได้ 34 ล้านเหรียญสหรัฐ

Scream VI (2023) กำลังพยายามอย่างหนักเพื่อโค่นล้มแชมป์อย่าง Scream 3 (2000) ในภาคที่ 6 นี้จะนำเหล่านักแสดงที่รอดตายจากภาพยนตร์ของปีก่อนกลับมา ไม่ว่าจะเป็น Jenna Ortega, Melissa Barrera รวมถึง Courteney Cox ผู้รับบท Gale Weathers ที่อยู่คู่กับเฟรนไชส์นี้มาอย่างยาวนาน Scream VI (2023) ย้ายสถานที่ชำแหละจากวูดส์โบโร รัฐแคลิฟอร์เนียไปยังเมืองนิวยอร์ก โดยมีตัวละครใหม่ในวัยเรียนที่พยายามเอาตัวรอดจากฆาตกรสวมหน้ากาก

Tyler Gillett และ Matt Bettinelli-Olpin จาก Scream (2022) กลับมากำกับภาคล่าสุด เช่นเดียวกับมือเขียนบท Guy Busick และ James Vanderbilt ความสยองขวัญของปีที่แล้วปิดฉากบ็อกซ์ออฟฟิศด้วยรายได้ 81 ล้านดอลลาร์สหรัฐในประเทศ และ 137 ล้านดอลลาร์สหรัฐทั่วโลกจากทุนสร้างเพียง 25 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ด้วยรายได้ล่าสุด บทวิจารณ์เชิงบวกและการตลาดแบบไวรัลที่ชาญฉลาดของ Scream VI (2023) แล้วถือเป็นลางดีสำหรับภาคต่อไปของเฟรนไชส์

ภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ ที่ครองบ็อกซ์ออฟฟิศได้แก่ Creed III (2023) นำแสดงโดย Michael B. Jordan ซึ่งครองอันดับ 1 ในสัปดาห์ที่แล้วด้วยสถิติเปิดตัวที่ 58 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภาพยนตร์ไซไฟที่นำแสดงโดย Adam Driver อย่าง 65 (2023) ซึ่งทำรายได้เปิดตัวไป 1.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และภาพยนตร์ตลกบาสเกตบอลของ Woody Harrelson เรื่อง Champions (2023) อีกด้วย