หลังจากตอนจบของ Alchemy of Souls พาร์ต 2 นักแสดงนำอย่าง Lee Jae Wook ก็ได้แสดงความประทับใจและบอกเล่าเรื่องราวเบื้องหลังฉากต่างๆ และอีกมายมาย!

Lee Jae Wook เพิ่งให้สัมภาษณ์กับ Xportsnews เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับบทสรุปของซีรีส์ ตัวละคร เคมีที่เข้ากันกับนักแสดงร่วม และอื่นๆ อีกมากมาย Lee Jae Wook เริ่มเล่าว่า

ผมรู้สึกว่าเราสรุปโปรเจ็กต์ในหนึ่งปีของเราได้ได้ดี ดังนั้นผมจึงมีความสุขมาก ผมอยากจะขอบคุณผู้ชมทุกคนที่ติดตามชม Alchemy of Souls

เนื่องจาก Alchemy of Souls เป็นซีรีส์อิงประวัติศาสตร์แนวแฟนตาซีที่ไม่มีประวัติหรือภูมิหลังอะไร Lee Jae Wook ถูกถามถึงความประทับใจที่มีต่อบทเขาได้ตอบว่า

ผมลนลานมากๆ อย่างที่ทุกๆ คนทราบ มันเป็นการเตรียมการที่ยากอย่างไม่น่าเชื่อ และสถานการณ์ก็แปลกใหม่ ดังนั้นมันจึงยากที่จะจินตนาการถึงบท มันเป็นสคริปต์ที่มีช่องว่างและได้รับการปรับใหม่

Lee Jae Wook ยังเปิดเผยอีกว่า

พูดตามตรง ตอนแรกผมปฏิเสธบทนี้ มันยากเกินไปและผมก็สงสัยว่าผมจะสามารถทำโปรเจ็กต์นี้ออกมาได้ดีหรือเปล่า แต่ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม ผมคิดว่าผมจะทำมันด้วยความปรารถนาที่จะรับความท้าทายใหม่ๆ เท่านั้น จากมุมของนักแสดง ผมพอใจกับผลลัพธ์มาก อีกอย่างนี่คือซีรีส์ที่ไม่รู้ว่าจะได้เจออีกเมื่อไหร่ด้วย ผมเชื่อว่าผมสรุปได้ดี

ในขณะที่ Jang Wook ตัวละครที่ Lee Jae Wook รับนั้นมีความสดใส และร่าเริงกว่ามากในพาร์ตที่ 1 เขาได้เจอกับจุดเปลี่ยนครั้งยิ่งใหญ่ และการกรากฎตัวเป็นผู้แปรวิญญาณในพาร์ตที่ 2 นักแสดงหนุ่มได้กล่าวว่า

ผมคิดว่าช่องว่างระหว่างตัวละครของ Wook ในพาร์ตที่ 1 และ 2 นั้นมีขนาดที่ใหญ่มากๆ เมื่อผมอ่านหนังสือกับนักเขียน พวกเขาได้แสดงความหวังว่าผมจะนึกถึง และวาดภาพ Wook ทั้งพาร์ต 1 และ 2 เป็นตัวละคร 2 ตัวที่แตกต่างกัน เพื่อแสดงด้านที่แตกต่างกันออกมา ผมจึงได้ลบล้างน้ำเสียงของ Jang Wook และพยายามพูดอย่างกระชับ หนักแน่นในชีวิตประจำวันของผมด้วย

การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้จากพาร์ต 1 และ 2 ก็ได้เกิดขึ้นกับนักแสดงนำหญิงด้วย ในพาร์ตที่ 1 เราได้เห็น Jung So Min รับบทเป็น Mu Deok/Naksu ซึ่งต่อมาตัวละครของเธอได้ถูกพัฒนาเป็น Jin Bu Yeon/Naksu ซึ่งรับบทโดย Go Yoon Jung ในพาร์ตที่ 2 เกี่ยวกับเรื่องนี้ Lee Jae Wook ได้กล่าวว่า

การเปลี่ยนแปลงนักแสดงนำหญิงทั้ง 2 พาร์ตไม่ใช่ปัญหาสำหรับผมเลย

ภายในความสัมพันธ์ของ Lee Jae Wook และ Go Yoon Jung ในพาร์ตที่ 2 นั้นมีบางอย่างที่ Jang Wook พูดซึ่งฟังดูเหมือนว่าจะลบสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อ 3 ปีก่อนไปในเรื่องนี้ได้สร้างความตกใจและผิดหวังให้กับแฟนๆ ในเรื่องนี้ Lee Jae Wook ได้แสดงความคิดเห็นว่า

หลังจากที่ Wook ได้ตัดสินใจที่จะตายจากนั้นอารมณ์ของเขาก็ได้ถูกสร้างขึ้นจากความรู้สึก ‘ขอผู้หญิงคนนี้เป็นภรรยาของฉัน’ ในขณะที่สิ่งที่เขาต้องการคือความตาย เขาคิดว่าถ้าเขามีผู้หญิงคนนี้ เขาจะสามารถบรรลุความตายที่ปรารถนามาถึง 3 ปีได้ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเพียงคนเดียวที่อยู่ในสายตาของ Jang Wook คือ Jin Bu Yeon

Lee Jae Wook ยังได้มีฉากจูบของเขากับ Go Yoon Jun ซึ่งเป็นนักแสดงนำหญิงในพาร์ต 2

ในระหว่างการซ้อมบท ผู้กำกับพูดว่า ‘ฉันคือ Jin Bu Yeon’ และผลักผมไปรอบๆ ผมคิดว่าผู้กำกับต้องการแสดงว่า Bu Yeon ได้ก้าวเข้าสู่ขอบเขตของ Wook แล้ว เพราะ Wook นั้นถูกปิดกั้น ผมเชื่อว่าพวกเขากำกับฉากที่ Jin Bu Yeon เข้ามา และปิดความสัมพันธ์ของเราอีกครั้ง

เคมีของเขากับนักแสดงนำหญิงทั้ง 2 คน Lee Jae Wook กล่าวว่า

ก่อนอื่นเลย So Min มีประสบการณ์มากมายในหลายๆ โปรเจ็กต์ ความสามารถของเธอจึงเป็นที่รู้กันดีภายในกองถ่าย ซึ่งเธอมีความรู้และความชำนาญที่ชัดเจนในฐานะผู้มีประสบการณ์

เขากล่าวต่ออีกว่า

Yoon Jung เป็นคนที่สดใสมากๆ จนถึงจุดที่พลังบวกของเธอจะหมดไปจากโลกนี้ ซึ่งมันไม่ง่ายเลยที่จะถ่ายทำโดยที่ไม่มีรอยยิ้มของทุกคน แต่เธอทำให้ผมคิดว่าบรรยากาศทั้งกองสามารถเปลี่ยนแปลงได้เพราะคนๆ เดียว ผมอยากจะเลือกสิ่งนั้นว่าเป็นจุดแข็งของเธอ การทำงานในพาร์ตที่ 2 เป็นเรื่องที่ยากอย่างไม่น่าเชื่อ แต่เธอไม่เคยสูญเสียรอยยิ้มเลยสักครั้ง

เมื่อถูกถามว่าทำไมเขาถึงคิดว่า Alchemy of Soul สามารถรวบรวมความนิยมได้มากมายทั้งในเกาหลีและต่างประเทศ Lee Jae Wook คำตอบของเขาคือ ผู้กำกับและคนเขียนบท รวมถึงนักแสดงร่วมคนอื่นๆ และความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดของพวกเขา เขาพูดถึงการพึ่งพากันในกองถ่ายอย่าง Hwang Minhyun, Shin Seung Ho, Yoo In Soo, Seo Hye Won, Arin วง Oh my Girl และคนอื่นๆ ก่อนที่จะกล่าวเสริมว่า

ผมมีความหวังว่าพวกเขาจะสามารถพึ่งพาผมได้เช่นกันด้วย ผมเชื่อว่าสภาพแวดล้อมที่สะดวกสบายในตัวมันเองได้สร้างเคมีที่ดีของเรา

Lee Jae Wook เล่าถึงเคมีของพวกเขาอย่างละเอียดว่า

สำหรับ Minhyun ที่ผมอิจฉาคือเขาทั้งหน้าตาดี ร้องเพลงเก่ง ตัวสูง แถมยังเล่นฉากบู๊ได้ดีอีกด้วย ผมพูดตามตรงเลย ผมคิดว่าผมต้องแสดงให้ได้ดีกว่านี้ ผมได้เรียนรู้อะไรจากเขาในฐานะรุ่นพี่ Hwang Minhyun

เขากล่าวต่ออีกว่า

ผมเชื่อว่าทั้ง Seung Ho และ In Soo ต่างก็มีเสน่ห์ที่แตกต่างกัน ผมรู้สึกได้ว่าเป็นเรื่องที่สนุกและคุ้มค่ามากที่ได้คนแบบนี้มารวมตัวกันและสร้างฉากที่น่าประทับใจ เนื่องจากพวกเขาเป็นคนที่กระตือรือร้น ผมจึงได้เรียนรู้อะไรมากมายจากพวกเขา

ผู้สัมภาษณ์ยังได้ถาม Lee Jae Wook ว่า เขาอยากรับรางวัล Best Couple ร่วมกับใคร และนักแสดงตอบว่า

ผมพูดได้คนเดียว ผมกับองค์รัชทายาทที่รับบทโดย Shin Seung Ho พวกเรามีฉากที่ต้องอยู่ด้วยกันตลอดมากมาย เรายังด้นสดกันตั้งแต่ต้นจนจบซึ่งเป็นทักษะทางการแสดงที่เข้ากับตัวละครและสถานการณ์โดยไม่เบี่ยงเบนไปจากเรื่องราวหลักและ Seung Ho ก็เป็นนักแสดงที่เก่งในเรื่องเหล่านั้นอย่างน่าเหลือเชื่อ คุณลองนึกถึงฉากสนุกๆ ขำๆ ทั้งหมดในเรื่องของผมกับเขานั่นเป็นการแสดงที่พวกเราด้นสดเกือบทั้งหมด