นาทีนี้ไม่มีใครสามารถหยุด Brian Tyree Henry ได้อีกแล้ว จาก Paper Boi ใน Atlanta ในปี 2016 ไปจนถึงบทบาทของ James ใน Causeway นั้น เขาสามารถเป็นที่รู้จักได้อย่างกว้างขวางมากขึ้นตลอดปี 2022 นี้!

หลังจากการปรากฎตัวที่น่าจดจำในปี 2021 ไม่ว่าจะเป็น Godzilla vs. Kong, Eternals และ The Woman in the Window ดูเหมือนว่า Brian Tyree Henry จะได้รับบทบาทที่หลากหลายมากขึ้นในปี 2022 ซึ่งแน่นอนว่าบทบาทของเขานั้นได้รับความสนใจอย่างมากในปีนี้ นอกเหนือจากการแสดงร่วมกับนักแสดงสาว Jennifer Lawrence ในภาพยนตร์แนวจิตวิทยาที่คาดเดาได้ยากอย่าง Causeway แล้ว Henry ยังได้ขโมยซีนในภาพยนตร์แอ็กชันคอเมดี้เรื่อง Bullet Train ที่มีนักแสดงนำที่มีชื่อเสียงมากมาย และเขายังกลับมารับบทสนับสนุนใน Atlanta 2 ซีซันสุดท้ายอีกด้วย

การแสดงในแต่ละครั้งของเขาได้ทำให้เราได้เห็นความสม่ำเสมอในอาชีพการงานของเขา และได้เห็นว่า Brian Tyree Henry กลายเป็นหนึ่งในนักแสดงที่มีเสน่ห์ที่สุดแห่งยุคอีกด้วย สิ่งที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จในฐานะนักแสดงคือความสามารถของเขาที่ไม่ว่าเขาจะได้รับบทบาทไหนก็ตามเขาสามารถสวมบทบาทนั้นได้อย่างอยู่หมัด จากที่กล่าวมาทั้งหมดจึงเป็นการยืนยันได้ว่า Brian Tyree Henry นั้นเป็นนักแสดงสมทบที่ดีที่สุดในปี 2022 เลยก็ว่าได้

แม้ว่าในปี 2022 จะเป็นปีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขา แต่ Brian Tyree Henry ยังได้สร้างความประทับใจอย่างไม่รู้ลืมด้วยการแสดงบทเล็กๆ อย่าง Godzilla vs. Kong (2021) ซึ่งทำให้เรานึกถึงตัวละครนอกรีตที่สามารถพบได้ในแฟรนไชส์ช่วงยุคโชวะ เขายังได้ปรากฎตัวในฉาก 2-3 ฉากในการดัดแปลง James Baldwin อันไร้ที่ติของ Barry Jenkins เรื่อง If Beale Street Could Talk (2018) ซึ่ง Henry ยังได้รับบทเป็นนักต้มตุ๋นที่ชอกช้ำซึ่งสะท้อนความน่ากลัวของชีวิตในคุกในฐานะชายผิวดำในภาพยนตร์เรื่องดังอย่าง Spider-Man: Into the Spider-Verse (2018) และ Eternals ยังเปิดโอกาสให้เขาได้มีส่วนร่วมในบทบาทเล็กๆ แต่มีความสำคัญในภาพยนตร์ที่มีทุนสร้างมหาศาลนี้ นอกเหนือไปจากรายชื่อนักแสดงที่มีพรสวรรค์ที่ได้ร่วมงานใน Atlanta แล้ว บทบาทของ Henry ในฐานะ Al “Paper Boi” Miles นั้นยังเป็นที่จับตามองอยู่เสมอนับตั้งแต่การเปิดตัวครั้งแรกในปี 2016

การแสดงของ Brian Tyree Henry ในบท Paper Boi ใน Atlanta นั้นได้สร้างความประทับใจเป็นพิเศษ

ด้วยการเหลือเวลาออกอากาศอีก 2 ซีซันของ Atlanta ตลอดปี 2022 ผู้ชมจะได้รับชมบทสรุปที่มีความซับซ้อนทางอารมณ์ในเรื่องราวของ Earn รับบทโดย Donald Glover และ Paper Boi ซึ่งตอนเหล่านี้เป็นการแสดงความสามารถที่ยอดเยี่ยมของ Henry เมื่อย้อนกลับไปยังซีซันที่ 2 Henry ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลเอ็มมีจากการแสดงของเขาในตอน Woods และใน 2 ซีซันสุดท้ายของ Atlanta ยังทำให้นักแสดงได้มีโอกาสมากมายที่สมควรจะได้รับชัยชนะ ในขณะที่ซีรีส์ยังคงดำเนินไปจนถึงตอนจบ มันยังคงสำรวจความซับซ้อนทางอารมณ์ที่ทำให้ Paper Boi เป็นตัวละครที่น่าหลงใหลที่ได้เปิดเผยจิตวิทยาของเขา และทำให้เขามีความลึกมากขึ้นกว่าตอนก่อนหน้านี้

ขณะที่ Earn และ Van รับบทโดย Zazie Beetz ต้องฝ่าฟันความยากลำบากและความไม่แน่นอนของความสัมพันธ์ของพวกเขา และยังต้องค้นหาจิตวิญญาณ ค้นหาตัวเองเพื่อให้รู้ว่าพวกเขาเป็นใครในฐานะปัจเจกบุคคล Paper Boi ต้องต่อสู้กับชื่อเสียงที่เพิ่งค้นพบและผลที่จะตามมาทั้งหมดยิ่งกว่าซีซันก่อนๆ ตอนของ Atlanta ในปี 2022 ทำให้ Paper Boi เป็นมากกว่าแร็ปเปอร์ที่กำลังมาแรง ไม่ใช่แค่การที่เขากลายเป็นคนมีชื่อเสียง ซึ่งเขามีทัวร์ยุโรป และต้องเสียเงินเพิ่มมากมายเพื่อพิสูจน์ว่าทั้งหมดมันเสียเปล่า เขายังเริ่มที่จะยอมรับในความไม่สมบูรณ์ของการเป็นคนมีชื่อเสียงด้วย

เช่นเดียวกับซุปเปอร์ฮีโร่ที่เปลี่ยนแปลงตนเอง Paper Boi เป็นคนอวดดี มีความมั่นใจ พร้อมด้วยเสน่ห์ที่แทบไม่ต้องพยายามซึ่งจะมีเฉพาะคนที่อยู่บนสุดของเกมเท่านั้นที่จะได้ครอบครอง เขามีเสน่ห์และความเยือกเย็นเหมือนกับที่แร็ปเปอร์และร็อคสตาร์มักจะเป็น ในขณะเดียวกัน ในฐานะ Al เขารู้สึกไม่สบายจกับความสำเร็จของเขามากขึ้นเรื่อยๆ ในตอนที่มีผู้คนรู้จักเขามากขึ้นและรู้ว่าเขาคือใคร มันเหมือนกับว่าเขาต้องถูกเปิดเสมอ ไม่สามารถหลีกหนีจากการเป็นที่รู้จักในที่สาธารณะได้ ในซีซันที่ 4 เขาสวมชุดปลอมครึ่งตัวขณะที่พยายามเลี่ยงการถูกสังเกตเห็น เขายังคงมีความเท่ห์และมีเสน่ห์แต่แฝงไปด้วยความกลัว เปราะบาง และแปลกแยกจากคนรอบข้าง ทุกอย่างเกิดขึ้นได้จากความซับซ้อนทางการแสดงของ Henry เขาสามารถพาตัวเองไปถึงบทบาทนี้ด้วยความมั่นใจ แต่ก็ยังเผยให้เห็นจุดอ่อนผ่านการแสดงออกในช่วงเวลาต่อมาด้วย

New Jazz ของซีซันที่ 3 Al ได้ไปพจญภัยในที่ที่เต็มไปด้วยยาเสพติดผ่านย่านโคมแดงของอัมสเตอร์ดัม และเช่นเดียวกับตอน Woods ซึ่งได้ใช้ความเฟื่องฟูของศิลปะเหนือจริงที่เหมือนความฝันเพื่อสำรวจอดีตของ Al และความเชื่อมโยงทางอารมณ์ของเขากับมัน โดยเฉพาะตอนที่ Al ได้รับบาดเจ็บ เปราะบาง ซึ่ง Henry ทำให้เรื่องนี้ชัดเจนมากขึ้นผ่านท่าทางและการแสดงออกเท่านั้น ในตอนที่ Al พบว่าตัวเองใช้ชีวิตอย่างดดดเดี่ยวกลับเป็นความงดงามและถูกพรากจากเมืองในตอนท้ายของซีรีส์ ซึ่งกิจวัตรประจำวันของ Alfred นั้นมีทั้งขึ้นและลง เขาโกรธและโล่งใจ เขาต่อสู้และประสบความสำเร็จ เขาต่อสู้เพื่อชีวิต ตามตัวอักษร และอดทนตลอดทุกอารมณ์โดย Henry ทำมันได้อย่างไม่มีสะดุด มันเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจที่ได้ดูและมันง่ายที่จะลืมว่า Paper Boi นั้นเป็นแร็ปเปอร์ที่สวมบทบาท

Bullet Train ได้แสดงให้ผู้ชมเห็นว่า Brian Tyree Henry ตลกแค่ไหน

เมื่อ Atlanta ถูกมองว่าเป็นเรื่องตลกแน่นอนว่าทำให้เกิดโอกาสมากมายสำหรับนักแสดงในการแสดงความสามารถทางด้านตลก ในปี 2022 Bullet Train ได้แสดงให้ผู้ชมเห็นว่า Henry ตลกมากแค่ไหน ในภาพยนตร์เรื่องนี้เขารับบทเป็น Lemon นักฆ่าชาวอังกฤษที่ทั้งพูดเก่ง มีสไตล์ และยังมีความชื่นชอบในการ์ตูนเรื่อง Thomas the Tank Engine ราวกับว่ามันเป็นคัมภีร์ เขาได้แลกเปลี่ยนพูดคุยที่ฟาดฟันกับ Brad Pitt และเปรียบเทียบผู้คนต่างๆ บนรถโดยสารกับตัวละคร Thomas แม้ว่า Bullet Train จะยังห่างไกลจากความสมบูรณ์แบบ แต่ผลงานส่วนใหญ่นี้ได้สร้างความประทับใจให้กับผู้ชมด้วยทีมนักแสดงชื่อดังมากมาย และ Lemon ที่มีผมสีบลอนด์ทองกับสำเนียงอังกฤษที่โดดเด่น

ในบทสัมภาษณ์เกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่อง Bullet Train นั้น Brad Pitt ได้กล่าวยกย่อง Henry มากมาย โดยกล่าวว่าเป็นชายที่สามารถก่อความวุ่นวายได้อย่างสมบูรณ์แบบ และความตลกที่เป็นธรรมชาติอย่างน่าเหลือเชื่อของเขา ตรงกันข้ามกับ Aaron Taylor-Johnson ที่รับบทเป็น Tangerine คู่หูของ Lemon ซึ่ง Henry มีเคมีความตลกที่ยอดเดยี่ยม เขาสามารถเล่นกับนักแสดงร่วมของเขาเพื่อทำให้สคริปต์มีชีวิตชีวาได้ง่ายๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อได้จับคู่กับ Taylor-Johnson

การแสดงของ Henry ที่สะท้อนอารมณ์ใน Causeway

หาก Bullet Train ได้แสดงความสามารถในการแสดงตลกของ Henry ดังนั้น Causeway จึงได้มอบความสะท้อนทางอารมณ์ให้กับผู้ชม Causeway เป็นการจับคู่นักแสดงที่ลงตัวโดยเขาได้แสดงคู่กับ Jennifer Lawrence โดยในเรื่องเขาเป็นคนที่มีจิตใจดีแต่เศร้าโศก ประวัติส่วนตัวของเขาได้ทิ้งรอยแผลเป็นลึกเอาไว้โดยที่ไม่สามารถมองเห็นได้ในสภาพจิตใจของเขา ซึ่งเป็นบทบาทที่สามารถเล่นล้นได้ง่ายๆ และนักแสดงบางคนอาจจะพยายามฉีกบทภาพยนตร์เรื่องนี้ออกจาก Lawrence แต่ Henry ก็สามารถจัดการให้การแสดงของเขามีพื้นที่มากมายในขณะที่ยังคงรักษาภาพลักษณ์ที่น่าหลงใหลที่ไม่อาจมองข้ามได้โดยธรรมชาติของบทบาทเช่นนี้ ชายที่บอบช้ำกับขาเทียมซึ่งไม่สามารถให้อภัยกับความผิดพลาดตนเองได้ ซึ่งจุดนี้อาจทำให้การแสดงมีช่องว่างมากมายสำหรับการแสดงที่ดูเกินจริงหรือล้นเกินไป แทนที่จะเป็นช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยม Henry ทำสิ่งที่ซับซ้อนกว่านั้นมาก เขาแสดงอารมณ์ความรู้สึกด้วยการจัดการที่ดี โดยให้รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ของการแสดงออกเพื่อผลักประเด็นที่น่าสนใจของตัวละครเขา

เขาไม่ได้พยายามจนล้นเกินไป ไม่ได้ทำให้ดูยุ่งเหยิง ตัวละครของเขาควรค่าแก่การเอาใจใส่แต่ไม่ใช่ความน่าสมเพช ความรู้สึกผิดที่ก่อกวนเขาปิดกั้นเขาจากคนส่วนใหญ่ที่รายล้อมอยู่รอบๆ ตัวเขานั้นเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ง่าย แต่ก็เป็นเรื่องที่ให้อภัยได้เช่นกัน นี่คือตัวละครที่ไม่ได้ถูกกำหนดโดยความพิการหรืออดีตของเขา แต่เป็นคนที่ต้องเผชิญหน้ากับการต่อสู้ที่ไม่อาจปฎิเสธได้ Brian Tyree Henry จึงเป็นนักแสดงในอุดมคติสำหรับบทนี้ ด้วยความสามารถที่มีเสน่ห์ของเขา และความเปราะบางทางอารมณ์

ภาพยนตร์เรื่องนี้เล่าถึงความยากลำบากของ Lynsey รับบทโดย Jennifer Lawrence ในการที่เธอพยายามจะเอาชนะอาการบาดเจํบที่กระทบกระเทือนจิตใจของเธอในฐานะทหาร เรื่องราวเน้นหนักไปที่ตัวเอกของเรื่องในการหลีกเลี่ยงการเล่าเรื่องที่เลื่อนลอย และนั่นเป็นส่วนหนึ่งเพราะการแสดงที่มีเสน่ห์แต่ดูใจกว้างของ Henry สมกับรางวัลออสการ์ ซึ่งเป็นบทบาทที่สามารถดึงดูดความสนใจของผู้สร้างภาพยนตร์หลายๆ คนได้อย่างแน่นอน

Atlanta, Bullet Train และ Causeway ล้วนแล้วแต่คือการแสดงที่เขาทำได้ดีที่สุดซึ่งทำให้เรารู้สึกว่า Brian Tyree Henry จะมีอนาคตที่สดใสสำหรับอาชีพการงานของเขา เขาพร้อมที่จะกลับมารับบทสมทบในแฟรนไชส์ Spider-Verse และ Godzilla vs. Kong จนถึงตอนนี้ผู้ชายคนนี้ยังคงเสมอต้นเสมอปลายซึ่งเราหวังว่าจะได้เห็นเขาปรากฎตัวบ่อยขึ้นในอนาคต การแสดงที่น่าเกรงขาม ความตลก ความเห็นอกเห็นใจ เขาสามารถเรียกทั้งเสียงหัวเราะ และน้ำตามาสู่ผู้ชมได้อย่างเป็นธรรมชาติ ด้วยพรสวรรค์ของเขาเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปีนี้ เขาแสดงให้เห็นแล้วว่าเขาสามารถทำอะไรได้บ้าง และมันยากมากที่จะไม่ประทับใจ