Spider-Man: Across the Spider-Verse
7
2
0

Spider-Man: Across the Spider-Verse

สไปเดอร์-แมน: ผงาดข้ามจักรวาลแมงมุม

PG
140 นาที
31/5/2023
แอ็กชัน |แอดเวนเจอร์ |แอนิเมชัน |ไซไฟ
It's how you wear the mask that matters.

Miles Morales ยิงข้าม Multiverse ซึ่งเขาได้พบกับทีม Spider-People ซึ่งมีหน้าที่ปกป้องการดำรงอยู่ของมัน เมื่อเหล่าฮีโร่ปะทะกันเกี่ยวกับวิธีรับมือภัยคุกคามครั้งใหม่ ไมลส์ต้องนิยามความหมายของการเป็นฮีโร่เสียใหม่

Joaquim Dos Santos

Joaquim Dos Santos

ผู้กำกับ

Justin K. Thompson

Justin K. Thompson

ผู้กำกับ

Kemp Powers

Kemp Powers

ผู้กำกับ

Dave Callaham

Dave Callaham

นักเขียน

Phil Lord

Phil Lord

นักเขียน

Christopher Miller

Christopher Miller

นักเขียน

ทั้งหมด

รีวิวยอดนิยม

FourWD
9.4

เป็นภาคต่อที่มีความทะเยอทะยานสุดขีดโดยเฉพาะในด้านภาพของแอนิเมชั่นที่เหมือนการผสมผสานงานศิลปะหลายๆรูปแบบหลายๆแขนงมารวมไว้ในที่เดียวกัน ทั้งการนำมาสร้างสรรค์แต่งเติมให้กลายเป็นตัวละครสไปเดอร์แมนหรือตัวละครอื่นๆที่อยู่ในอีกจักรวาล ซึ่งยังรวมไปถึงการใช้ตกแต่งสร้างสรรค์เป็น background ไม่ว่าจะทั้งที่ใช้เป็นภาพนิ่งหริอใช้ในขณะที่เป็นภาพเคลื่อนไหวในแต่ละฉาก ซึ่งล้วนแล้วนับว่าสวยงามมากๆ ยิ่งบวกกับการเล่นแสงสีที่มีครบทั้งโทนร้อนที่ให้อารมณ์จัดจ้าน เร้าใจ เร้าอารมณ์ โทนเย็นที่ให้อารมณ์สงบนิ่ง เข้มขรึม มีเสน่ห์ ชวนหลงใหล ซึ่งในแต่ละโทนสีก็ไปช่วยขับเคลื่อนบริบทอามรณ์นึกคิดของตัวละคร บริบทสถานการณ์ ได้เป็นอย่างดี ในส่วนส่วนของบทภาคนี้ก็นับว่าเติบโตพอสมควร จากภาคที่แล้วเป็นการรู้จักที่เรียนรู้ในการเป็น "สไปเดอร์แมน" ของ "ไมล์ โมราเลส" ภาคนี้ก็ไม่พ้นการพาไปสำรวจการเติบโตและการทำหน้าที่ของ "ไมล์ โมราเลส" ว่าตอนนี้เขาทำได้ดีขนาดไหนแล้ว ขณะเดียวกันก็พาเราไปเจอกับปัญหาชีวิตจากการที่จะต้องสร้างความสมดุลชีวิตในการเป็นนักเรียนม.ปลายกับการเป็นสไปเดอร์แมน ซึ่งแน่นอนว่ามันยากเอาการ และไหนจะปัญหาของการใช้ชีวิตที่จะก้าวข้ามจากวัยรุ่นสู่ความเป็นผู้ใหญ่ที่เขามีอิสระในการคิดหรือการทำสิ่งต่างๆที่มีอุปสรรคจากครอบครัวที่ยังคงเป็นห่วงและมองว่าเขายังเป็นเด็กอยู่ ซึ่งนำมาสู่การวางแผนชีวิตให้ไมล์โดยที่ไม่ได้ตรงกับไมล์ที่ต้องการ ซึ่งประเด็นนี้ก็ถูกนำไปใช้กับการเป็นสไปเดอร์แมนอีกด้วย เพราะเขาเองจะต้องเลือกว่าจะเป็นสไปเดอร์แมน "ในแบบที่ตนเองต้องการ" หรือจะเป็นสไปเดอร์แมน "ตามรูปแบบของตำรา" ที่สไปเดอร์แมนคนอื่นถือเป็นกฎ ซึ่งก็เป็นประเด็นที่นับว่าน่าสนใจไม่น้อยเพราะไม่ใช่แค่กระทบกับทั้งชีวิตของไมล์และการเป็นสไปเดอร์แมนและตัวละครอื่นๆในเรื่อง แต่จะยังไปกระทบกับชีวิตของคนดูอย่างเราๆด้วยว่าสุดท้ายจะเลือกการใช้ชีวิตแบบไหนถึงจะออกมาดีและมีผลเสียที่ตามออกมาน้อยที่สุด ซึ่งถือเป็นประเด็นที่ตกผลึกออกมาและชวนให้คิดไม่น้อยเลย ด้านของ Spider-Verse ที่ภาคนี้จัดหนักจัดเต็ม (ซึ่งแม้จะรู้ว่าแค่เกริ่นๆไว้) ก็เรียกความว้าว ความตื่นตาตื่นใจได้ไม่น้อยครับ เพราะขนเหล่าสไปเดอร์แมนที่นับรวมๆแล้วต้องเกินร้อยแน่ๆ (ดีไม่ดีไปถึงหลักพัน) ซึ่งแน่นอนว่าภาคนี้ก็เปิดตัวละครหน้าใหม่ที่จะกลายเป็นตัวละครหลักและมีบทสำคัญในภาคต่อไปทั้ง Spider-Man India ตัวป่วนตัวฮาที่สร้างสีสันได้อย่างดี Spider-Punk คนเท่ คนคูล คนหัวกบฎ จอมแย่งซีน และ Spider-Man 2099 ที่โคตรเท่ โคตรโหด โคตรอันตราย (ไปๆมาๆดันน่ากลัวกว่าเจ้าตัวร้ายหลักอย่าง Spot เสียอีก) ซึ่งด้วยความที่ภาคนี้ขนสไปเดอร์แมนมาเยอะขนาดนี้เราจึงได้เห็นฉากการวมพลังคอมโบในฉากแอ็กชั่นไล่ล่าปราบวายร้ายหรือฉากสไปเดอร์ทุกคนไล่ล่าไมล์ โมราเลส ในแบบที่เพลินเพลินจำเริญตาไปกับการโยนใย กระโดดไต่ตึก ยิ่งด้วยคุณสมบัติพิเศษของสไปเดอร์แมนแต่ละคน จึงทำให้ทุกฉากของการปรากฎตัวทำภารกิจของเหล่าสไปเดอร์แมนจึงเต็มลูกเล่นสีสันมากมายที่ชวนคนดูว้าวเอาเรื่อง และยิ่งบรรดา easter egg ทั้งหลายที่มีมาครบมาจากเหล่าสไปเดอร์แมนและจากเหล่าร้ายคู่ปรับก็ชวนเซอร์ไพร์สให้คนดูว้าวมากๆ เพราะขนมาหมดแทบทุกอย่างที่จะเกี่ยวข้องกับสไปเดอร์แมน ถึงแม้เราจะพูดได้ว่า Spider-Man: Across the Spider-Verse ก็คือภาพยนตร์แอนิเมชั่นที่สร้างขึ้นเพื่อต่อยอดความสำเร็จในวันที่ภาพยนตร์แนวซูเปอร์ฮีโร่ได้กำลังความนิยมแบบสุดๆ และเลือกที่จะเล่าออกมาผ่านแอนิเมชั่นที่เด็กดูได้ผู้ใหญ่ดูดีตีตลาดเด็กๆและเยาวชน แต่ถ้าเราพิจารณาถึงองค์ประกอบสำคัญต่างๆแล้วก็จะพบกับงานภาพด้านแอนิเมชั่นที่ผสมผสานแทบทุกประเภทของงานศิลป์ การเล่นแสงสีที่สื่อและสอดคล้องกับอารมณ์ เรื่องราว สถานการณ์ของเรา เนื้อหาชวนฉุกคิดถึงการใช้ชีวิตให้เป็นไปตามลิขิตฟ้าหรือจะเลือกใช้ตามวิถีตน ด้วยภาพรวมที่ว่านี่จึงไม่ใช่แค่ภาพยนตร์แอนิเมชั่นที่ว่าด้วยเรื่องราวของสไปเดอร์แมน แต่เป็นงานศิลปะที่ว่าด้วยเรื่องราวของสไปเดอร์แมน ที่ถูกถ่ายทอดออกมาผ่านจอภาพยนตร์ขนาดใหญ่ ที่ทั้งคนเสพงานศิลป์ทั่วไปและนักวิจารณ์สามารถที่จะเอนจอยไปกับงานด้านวรรณศิลป์ไปพร้อมกับประเด็นชวนขบคิดในเนื้อหาที่แทรกอยู่ในงานศิลปะที่งดงามชิ้นนี้

2 1

รีวิวล่าสุด

เป็นภาคต่อที่มีความทะเยอทะยานสุดขีดโดยเฉพาะในด้านภาพของแอนิเมชั่นที่เหมือนการผสมผสานงานศิลปะหลายๆรูปแบบหลายๆแขนงมารวมไว้ในที่เดียวกัน ทั้งการนำมาสร้างสรรค์แต่งเติมให้กลายเป็นตัวละครสไปเดอร์แมนหรือตัวละครอื่นๆที่อยู่ในอีกจักรวาล ซึ่งยังรวมไปถึงการใช้ตกแต่งสร้างสรรค์เป็น background ไม่ว่าจะทั้งที่ใช้เป็นภาพนิ่งหริอใช้ในขณะที่เป็นภาพเคลื่อนไหวในแต่ละฉาก ซึ่งล้วนแล้วนับว่าสวยงามมากๆ ยิ่งบวกกับการเล่นแสงสีที่มีครบทั้งโทนร้อนที่ให้อารมณ์จัดจ้าน เร้าใจ เร้าอารมณ์ โทนเย็นที่ให้อารมณ์สงบนิ่ง เข้มขรึม มีเสน่ห์ ชวนหลงใหล ซึ่งในแต่ละโทนสีก็ไปช่วยขับเคลื่อนบริบทอามรณ์นึกคิดของตัวละคร บริบทสถานการณ์ ได้เป็นอย่างดี
ในส่วนส่วนของบทภาคนี้ก็นับว่าเติบโตพอสมควร จากภาคที่แล้วเป็นการรู้จักที่เรียนรู้ในการเป็น "สไปเดอร์แมน" ของ "ไมล์ โมราเลส" ภาคนี้ก็ไม่พ้นการพาไปสำรวจการเติบโตและการทำหน้าที่ของ "ไมล์ โมราเลส" ว่าตอนนี้เขาทำได้ดีขนาดไหนแล้ว ขณะเดียวกันก็พาเราไปเจอกับปัญหาชีวิตจากการที่จะต้องสร้างความสมดุลชีวิตในการเป็นนักเรียนม.ปลายกับการเป็นสไปเดอร์แมน ซึ่งแน่นอนว่ามันยากเอาการ และไหนจะปัญหาของการใช้ชีวิตที่จะก้าวข้ามจากวัยรุ่นสู่ความเป็นผู้ใหญ่ที่เขามีอิสระในการคิดหรือการทำสิ่งต่างๆที่มีอุปสรรคจากครอบครัวที่ยังคงเป็นห่วงและมองว่าเขายังเป็นเด็กอยู่ ซึ่งนำมาสู่การวางแผนชีวิตให้ไมล์โดยที่ไม่ได้ตรงกับไมล์ที่ต้องการ ซึ่งประเด็นนี้ก็ถูกนำไปใช้กับการเป็นสไปเดอร์แมนอีกด้วย เพราะเขาเองจะต้องเลือกว่าจะเป็นสไปเดอร์แมน "ในแบบที่ตนเองต้องการ" หรือจะเป็นสไปเดอร์แมน "ตามรูปแบบของตำรา" ที่สไปเดอร์แมนคนอื่นถือเป็นกฎ ซึ่งก็เป็นประเด็นที่นับว่าน่าสนใจไม่น้อยเพราะไม่ใช่แค่กระทบกับทั้งชีวิตของไมล์และการเป็นสไปเดอร์แมนและตัวละครอื่นๆในเรื่อง แต่จะยังไปกระทบกับชีวิตของคนดูอย่างเราๆด้วยว่าสุดท้ายจะเลือกการใช้ชีวิตแบบไหนถึงจะออกมาดีและมีผลเสียที่ตามออกมาน้อยที่สุด ซึ่งถือเป็นประเด็นที่ตกผลึกออกมาและชวนให้คิดไม่น้อยเลย
ด้านของ Spider-Verse ที่ภาคนี้จัดหนักจัดเต็ม (ซึ่งแม้จะรู้ว่าแค่เกริ่นๆไว้) ก็เรียกความว้าว ความตื่นตาตื่นใจได้ไม่น้อยครับ เพราะขนเหล่าสไปเดอร์แมนที่นับรวมๆแล้วต้องเกินร้อยแน่ๆ (ดีไม่ดีไปถึงหลักพัน) ซึ่งแน่นอนว่าภาคนี้ก็เปิดตัวละครหน้าใหม่ที่จะกลายเป็นตัวละครหลักและมีบทสำคัญในภาคต่อไปทั้ง Spider-Man India ตัวป่วนตัวฮาที่สร้างสีสันได้อย่างดี Spider-Punk คนเท่ คนคูล คนหัวกบฎ จอมแย่งซีน และ Spider-Man 2099 ที่โคตรเท่ โคตรโหด โคตรอันตราย (ไปๆมาๆดันน่ากลัวกว่าเจ้าตัวร้ายหลักอย่าง Spot เสียอีก) ซึ่งด้วยความที่ภาคนี้ขนสไปเดอร์แมนมาเยอะขนาดนี้เราจึงได้เห็นฉากการวมพลังคอมโบในฉากแอ็กชั่นไล่ล่าปราบวายร้ายหรือฉากสไปเดอร์ทุกคนไล่ล่าไมล์ โมราเลส ในแบบที่เพลินเพลินจำเริญตาไปกับการโยนใย กระโดดไต่ตึก ยิ่งด้วยคุณสมบัติพิเศษของสไปเดอร์แมนแต่ละคน จึงทำให้ทุกฉากของการปรากฎตัวทำภารกิจของเหล่าสไปเดอร์แมนจึงเต็มลูกเล่นสีสันมากมายที่ชวนคนดูว้าวเอาเรื่อง และยิ่งบรรดา easter egg ทั้งหลายที่มีมาครบมาจากเหล่าสไปเดอร์แมนและจากเหล่าร้ายคู่ปรับก็ชวนเซอร์ไพร์สให้คนดูว้าวมากๆ เพราะขนมาหมดแทบทุกอย่างที่จะเกี่ยวข้องกับสไปเดอร์แมน
ถึงแม้เราจะพูดได้ว่า Spider-Man: Across the Spider-Verse ก็คือภาพยนตร์แอนิเมชั่นที่สร้างขึ้นเพื่อต่อยอดความสำเร็จในวันที่ภาพยนตร์แนวซูเปอร์ฮีโร่ได้กำลังความนิยมแบบสุดๆ และเลือกที่จะเล่าออกมาผ่านแอนิเมชั่นที่เด็กดูได้ผู้ใหญ่ดูดีตีตลาดเด็กๆและเยาวชน แต่ถ้าเราพิจารณาถึงองค์ประกอบสำคัญต่างๆแล้วก็จะพบกับงานภาพด้านแอนิเมชั่นที่ผสมผสานแทบทุกประเภทของงานศิลป์ การเล่นแสงสีที่สื่อและสอดคล้องกับอารมณ์ เรื่องราว สถานการณ์ของเรา เนื้อหาชวนฉุกคิดถึงการใช้ชีวิตให้เป็นไปตามลิขิตฟ้าหรือจะเลือกใช้ตามวิถีตน ด้วยภาพรวมที่ว่านี่จึงไม่ใช่แค่ภาพยนตร์แอนิเมชั่นที่ว่าด้วยเรื่องราวของสไปเดอร์แมน แต่เป็นงานศิลปะที่ว่าด้วยเรื่องราวของสไปเดอร์แมน ที่ถูกถ่ายทอดออกมาผ่านจอภาพยนตร์ขนาดใหญ่ ที่ทั้งคนเสพงานศิลป์ทั่วไปและนักวิจารณ์สามารถที่จะเอนจอยไปกับงานด้านวรรณศิลป์ไปพร้อมกับประเด็นชวนขบคิดในเนื้อหาที่แทรกอยู่ในงานศิลปะที่งดงามชิ้นนี้
2 1
0 0
แสดงล่าสุด 15 รายการ หากต้องการ ดูเพิ่มคลิกที่นี่