ภาพยนตร์ของ Antoine Fuqua ที่นำแสดงโดย Will Smith จะพาเราไปพบกับเหตุการณ์จริงที่น่าหดหู่ใจของ Peter ที่ถูกเปิดเผยจากภาพถ่ายที่เป็นตำนานระดับโลก

Emancipation เป็นภาพยนตร์เรื่องใหม่ของ Antoine Fuqua ที่สร้างมาจากเรื่องจริงจากเรื่องราวของทาสคนหนึ่งที่หลบหนีออกมาและเข้าสู่เส้นทางแบ่งสหภาพ เขามีรอยแผลจากการถูกเฆี่ยนตีอย่างน่าสยดสยองซึ่งได้ปรากฎอยู่บนภาพถ่ายที่มีชื่อเสียงและกลายเป็นที่รู้จักในชื่อ ‘The Scourged Back’ หรือ ‘หายนะของคนผิวดำ’ และในเวอร์ชันของ Fuqua ได้ดึงเอาชีวิตเหล่านี้ออกมา ในขณะที่มีการเปลี่ยนรายละเอียดบางอย่างและเพิ่มเรื่องราวเบื้องหลังเพื่อให้ตัวละครของเขาสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น

เรื่องจริงของ Peter

ภาพต้นฉบับของ Peter ถูกถ่ายเมื่อวันที่ 2 เมษายน ในปี 1863 เป็นภาพถ่ายแผ่นหลังของเขา หลังจากที่เขาได้หลบหนีออกมาจากสวนของกัปตัน John Lyons ใกล้กับกรุงวอชิงตัน รัฐลุยเซียนา 10 วันก่อนหน้านี้ เรื่องราวในยุคสมัยที่เกิดขึ้นนี้ของ Peter ถูกแพร่กระจายออกไปแตกต่างกัน เนื่องจากภาพแผ่นหลังของเขาถูกถ่ายโดยการถ่ายภาพรูปแบบใหม่สำหรับสมัยนั้นที่มีราคาถูก และง่ายต่อการผลิตซ้ำ สำเนาของภาพจึงถูกแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วทั่วทั้งภาคเหนือ และในที่สุดก็ถูกหยิบขึ้นมาตีพิมพ์ในนิตยสาร Harper’s Weekly ซึ่งเป็นนิตยสารผู้นิยมลัทธิการล้มเลิกเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 1863 ในบทความชื่อ ‘A Typical Negro’ ซึ่ง Harper เรียกชายคนนี้ว่า Gordon และเล่าว่าเขาหนีผ่านหนองน้ำไปยังค่ายสหภาพได้อย่างไร หลบเลี่ยงการไล่ล่าของนักล่าทาสโดยการถูหัวหอมบนร่างกายของเขา จากนั้น Gordon ก็สมัครเป็นทหารในกองทัพพันธมิตร และถูกจับโดยทหารสัมพันธมิตรที่ทั้งมัด ทุบตี และปล่อยให้เขาตาย แต่เขาฟื้นขึ้นมาได้และหนีกลับไปที่แนวร่วมอีกครั้ง

ในความเป็นจริง Peter และ Gordon อาจเป็น 2 คนที่แตกต่างกัน บทความของ Harper มีการแต่งเติมเพิ่มขึ้นด้านใดด้านหนึ่ง The Scourged Back รูปที่มีค่าซึ่งครั้งแรกที่ได้แสดงให้เห็น Gordon เขาอยู่ในชุดผ้าขี้ริ้วที่เขาสวมเมื่อมาถึงค่าย ครั้งที่ 2 ก็ได้เห็นเขาอีกครั้งในชุดเครื่องแบบกองทัพสหภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งชายใน 2 ภาพนี้กลับดูไม่เหมือนชายในภาพตรงกลางมากนัก และดูเหมือนว่าเขาจะมีอายุน้อยกว่ามาก และแท้จริงแล้วในจดหมายถึง New York Tribune ที่ตีพิมพ์เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 1863 ชายคนหนึ่งเรียกตัวเองว่า ‘ชาวบอสตัน’ อ้างว่าเป็นบุคคลที่นำภาพถ่ายต้นฉบับจากหลุยเซียน่าไปยังสำนักงานของ Harper และให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับผู้ชายที่พวกเขาบรรยายถึงนั่นคือ Peter และ Gordon นักเขียนชาวบอสตัน ซึ่งอันที่จริงแล้วเขาเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มทาสจำนวน 4 คนที่หลบหนีออกมาจากไร่ของ Lyons ในเวลาเที่ยงคืนของวันที่ 24 มีนาคม 1863 และหนึ่งในนั้น John ถูกฆ่าตายโดยนักล่าทาส Jim Fassel ในอีก 2 วันต่อมา

แม้ว่าบทความรายสัปดาห์ของ Harber จะเป็นที่รู้จักมากกว่า แต่จดหมายของ Tribune น่าจะแม่นยำกว่า และตรงกับข้อมูลที่ Peter ถ่ายทอดในการให้สัมภาษณ์กับทหารสหภาพ ใน Emancipation Fuqua ได้รวมเอาองค์ประกอบจากทั้ง 2 เข้ามารวมด้วยกันอย่างเข้มข้น

Emancipation ทำให้ Peter มีครอบครัว และเรื่องราวเบื้องหลัง

Will Smith รับบทเป็น Peter ชายชาวเฮติ และพูดภาษาเฮติครีโอ แต่ในความเป็นจริงเช่นเดียวกับคนส่วนใหญ่ที่ถูกกดขี่ในหลุยเซียน่า ภาษาแรกของ Peter คือภาษาฝรั่งเศส เมื่อเขาได้ให้สัมภาษณ์ที่ค่ายสหภาพ Peter ตัวจริงเล่าว่าเขาถูกหัวหน้างานเฆี่ยนตีอย่างโหดเหี้ยมเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา หลังจากนอนพักรักษาตัวอยู่บนเตียงเป็นเวลาถึง 2 เดือน เขาก็ถูกบอกว่าเขาเป็นคนเสียสติที่เผาเสื้อผ้าของตัวเอง และพยายามยิงคนหลายคน รวมทั้งภรรยาของเขาเองด้วย Peter ไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับการกระทำเหล่านี้ และกล่าวว่า ภรรยาของเขาก็ปฏิเสธเช่นกันว่าไม่เคยเกิดขึ้น

Emancipation ได้ตัดฉากความบ้าคลั่งของ Peter ออกไป เช่นเดียวกับการเฆี่ยนตีที่เกิดขึ้นในเดือนตุลาคมนั้น แม้ว่าจะไม่ได้แสดงภาพความโหดร้ายทารุณต่อผู้คนที่เป็นทาสก็ตาม เรื่องราวเกิดขึ้นที่สวนของ Lyons ที่ซึ่ง Peter ค่อยๆ ล้างเท้าให้กับ Dodienne รับบทโดย Charmaine Bingwa ภรรยาของเขาอย่างอ่อนโยน และได้เตือนลูกๆ ทั้ง 4 ของเขาให้วางใจในพระเจ้าเสมอ ก่อนที่เขาจะถูกสัมพันธมิตรลากออกจากกระท่อมเล็กๆ ของครอบครัวเพื่อให้ไปทำงานในกองทัพ ส่วนหนึ่งของภาษีที่เรียกเก็บจากเจ้าของสวนเพื่อสนับสนุนความพยายามในการทำสงคราม

ที่ค่ายสมาพันธ์ Peter ได้พบกับชายอีก 3 คนที่เขาจะหลบหนีด้วยกันในภายหลัง Gordon รับบทโดย Gilbert Owuor, John รับบทโดย Michael Luwoye และ Tomas รับบทโดย Jabbar Lewis ในตอนนั้น Tomas ยังเด็กและหวาดกลัว ส่วน Peter ก็พยายามอย่างเต็มที่เพื่อปลอบโยนเขาเมื่อพวกเขาต้องถูกล่ามโซ่ติดกันในตอนกลางคืน John เป็นกบฏ ครั้งแรกเราเห็นเขาถูกลากกลับไปที่แคมป์บนหลังม้าของ Jim Fassel รับบทโดย Ben Foster แล้วทำการตีตราบนใบหน้าของเขาด้วยเหล็กร้อนเป็นรูปตัว R สำหรับ ‘ผู้หลบหนี’ ซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงกับทาสในช่วงเวลานั้น ในที่สุด Peter ก็ได้ยุยงให้เกิดการจลาจลและทั้ง 4 คนก็หนีไปที่หนองน้ำสู่อิสรภาพ

เราไม่รู้อะไรมากเกี่ยวกับ Jim Fassel แต่ชาวบอสตันบอกว่าครั้งหนึ่ง Fassel เคยเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มนักล่าทาส ซึ่งสุนัขของเขาได้ต้อนชายหนุ่มที่พยายามจะหลบหนีจนจนมุม และฉีกเขาเป็นชิ้นๆ นักล่าหยุดพวกเขาด้วยการปล่อยให้สุนัขตะปบเขาจนตายเพียงเพราะพวกเขาคาดหวังว่าจะได้รางวัลก้อนโตจากการจับกุมนี้ Ben Foster รับบทเป็น Jim Fassel ที่ต้องดูอันตรายแบบเงียบสงบ และเป็นคนที่ชอบการไล่ล่าคนอื่นเพื่อเล่นเป็นกีฬา

ในภาพยนตร์เรื่องนี้ Tomas ถูกจับไปก่อนแทนที่จะเป็น John เขาถูกโจมตีโดยสุนัขของ Fassel และถูกยิง ขณะที่ Peter, Gordon และ John แยกทางกันไปและเดินผ่านหนองน้ำแยกกัน แต่ละคนมีนักล่าทาสคอยติดตามอย่างเร่งรีบ Fassel รู้สึกว่า Peter ฉลาดกว่าใครในกลุ่ม และน่าจะสร้างเกมที่น่าตื่นเต้นที่สุดให้กับเขาได้ เขาจึงเลือกที่จะไล่ล่า Peter เป็นเป้าหมาย ภายหลัง John ถูกยิงโดย Fassel และคนของเขา

ก่อนที่พวกเขาจะแยกทางกัน Gordon ผู้หวาดระแวงได้เตือน Peter ว่า “มีหลายวิธีที่จะตายในหนองน้ำ” และในระหว่างการเดินทางอันทรหดของพวกเขาสู่อิสรภาพ เราก็ได้เห็น Peter ต่อสู้กับทั้งจรเข้ เผชิญหน้ากับงูพิษ ตัดปลิงออกจากร่างกาย และถูกแมลงรุมตอม ฉากเหล่านี้มีพื้นฐานมาจากความเป็นจริงที่เกิดขึ้น ตามบันทึกในช่วงเวลานั้นของคนอื่นๆ ด้วยเช่นกัน เช่น Solomon Northup จาก 12 Years a Slave (2013) ก็ได้ยืนยันว่าหนองน้ำในหลุยเซียน่าเต็มไปด้วยอันตรายจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นจระเข้ งูพิษ ยุง โรคภัยไข้เจ็บ และยังเต็มไปด้วยอันตรายอีกนับไม่ถ้วน ชายหญิงที่หลบหนีซึ่งเลือกที่จะใช้ชีวิตอยู่ในกำมือของตัวเอง และยอมที่จะเผชิญหน้ากับอันตรายเหล่านั้นจากธรรมชาติ แทนที่จะอดทนต่อการถูกกดขี่ข่มเหงต่อไป

ชาวบอสตันบอกเราว่า Peter, Gordon และชายคนที่ 3 มาถึงค่ายสหภาพด้วยสภาพอิดโรยและหิวโหย เท้าของพวกเขาบวมและมีเลือดออก เขาต้องหลบหนีจากสุนัขล่าเนื้อ ลุยน้ำทุกสายที่พบเจอระหว่างทาง ว่ายน้ำในแม่น้ำอาไมท์ที่ขุ่นมัว และยังต้องถูหัวหอมกับวัชพืชที่มีกลิ่นเหม็นเพื่อกลบกลิ่น และเรายังได้เห็น Peter และ Gordon วิ่งเข้าหากันในหนองน้ำ Peter พบหัวหอมป่า เขากัดเพื่อผ่าครึ่งแล้วถูกับเสื้อผ้าของเขา แต่ Gordon ไม่เชื่อ เขาคิดว่ากลิ่นจะทำให้สุนัขล่าเนื้อของ Fassel ไล่ตาม

ในความเป็นจริงเราไม่รู้ว่า Peter และ Fassel เคยข้ามเส้นทางกันหรือไม่ และไม่ว่า Fassel จะเสียชีวิตอย่างไร แต่ใน Emancipation นั้น Fassel ไล่ตาม Peter ทันทีที่เขาไปถึง Union Lines และถูกทหารผิวดำยิงเข้าที่คออย่างจังในค่ายสหภาพ Peter ได้รับการดูแลโดยเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ และช่างภาพสงคราม เมื่อพวกเขาเห็นรอยแผลเป็นของเขา ช่างภาพจึงได้โน้มน้าวขอถ่ายภาพแผ่นหลังเพื่อต้องการเผยแพร่ให้พลเมืองทางเหนือได้เห็นความน่ากลัวที่แท้จริงของการเป็นทาส

ไม่นานหลังจากนั้น Peter ได้รับแจ้งจากนายพลผิวขาวขาวว่าจริงๆ แล้วเขายังไม่ได้เป็นอิสระ แต่อาจจะเป็นเหมือนคนเถื่อน ซึ่งเป็นคล้ายๆ กับทรัพย์สินที่ถูกขโมยมา ตราบใดที่มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับสงคราม และเขาสามารถไปทำงานในฟาร์มของสหภาพ หรือเข้าร่วมกับกองทัพทหารผิวสี และ Peter เลือกที่จะเข้าร่วมกับกองทัพ และเอาชีวิตรอดจากการต่อสู้อันน่าสยดสยองอย่างน้อยก็ 1 ครั้งระหว่างทางไปไร่ Lyons ที่ซึ่งในที่สุดเขาก็ได้กลับมาอยู่กับครอบครัวอีกครั้ง น่าเศร้าที่เราไม่รู้ว่า Peter ตัวจริงได้กลับมาหาภรรยาของเขาอีกหรือไม่ และแม้ว่าเราจะไม่รู้ว่าเขาสมัครเป็นทหารจริงๆ อย่างที่ Harper กล่าวอ้างหรือไม่ แต่ทหารผิวดำก็มีบทบาทสำคัญในการเอาชนะสมาพันธรัฐของสหภาพ กองทหารผิวดำกว่า 180,000 นาย บางคนก็เคยเป็นทาสมาก่อน และบางคนเกิดมาเป็นไทในภาคเหนือ และได้ทำหน้าที่ในช่วงสงครามกลางเมือง รวมถึงศัลยแพทย์ ภาคทัณฑ์ และเจ้าหน้าที่

ภาพของ Peter เป็นหนึ่งในภาพถ่ายที่แพร่หลาย และเป็นที่รู้จักมากที่สุดเกี่ยวกับการละเมิดทาส และในเฟรมสุดท้ายของ Emancipation พวกเขาได้ให้เครดิตกับภาพนี้ ในขณะที่มีภาพยนตร์เกี่ยวกับยุคนั้นเป็นจำนวนมากที่ได้บรรยายถึงทาสที่ยอมจำนน และเชื่อฟัง Emancipation ได้รวบรวมเอาจิตวิญญาณของคนนับพันที่ท้าทายเมื่อเผชิญกับการลงโทษอันน่าสยดสยอง ผู้ซึ่งไม่เคยหยุดวิ่ง กบฏ และต่อสู้เพื่อิสรภาพของตนเอง