ไขความลับพีระมิดลึกลับใน 1899 คืออะไรกันแน่?

หมายเหตุ: เนื้อหาด้านล่างนี้มีสปอยล์เนื้อเรื่องบางส่วนของ 1899

หลังจากเปิดตัวได้ 1 สัปดาห์ 1899 ได้ทำให้ผู้ชมบางกลุ่มต้องกลับไปดูซ้ำ เกี่ยวกับปริศนาใหม่

s1xnjbOIQtwGObPnydTebp74G2c

อย่างไรก็ตาม ในขณะที่ซีซันที่ 1 ของ 1899 ได้ตอบคำถามมากมายและทำให้เราได้เห็นอนาคตที่น่าตื่นเต้นของโครงเรื่อง แต่ยังมีบางจุดที่ยังคงเป็นความลับที่มีเงื่อนงำซึ่งต้องใช้ความเข้าใจเกี่ยวกับจักรวาลของเรื่อง เช่นเดียวกับสิ่งประดิษฐ์ทรงพีระมิดสีดำที่ Elliot รับบทโดย Fflyn Edwards พกติดตัวไปด้วยทุกที่

แม้ว่าซีรีส์เรื่องนี้จะให้คำอธิบายที่ดีเกี่ยวกับจุดประสงค์ของพีระมิด แต่วิธีที่ Daniel รับบทโดย Aneurin Barnard และ Henry รับบทโดย Anton Lesser กล่าวถึงวัตถุนั้นอาจเป็นการบอกใบ้ถึงวิธีการทำงานของการจำลองได้ นั่นเป็นเพราะสิ่งประดิษฐ์รูปทรงพีระมิดนั้นเป็นรหัสทางออกที่ต้องเข้าถึงโดย ‘กุญแจ’ ซึ่งเป็นแนวคิดที่สำคัญในตรรกะการเขียนโปรแกรม

วิธีที่ 1899 ใช้สิ่งประดิษฐ์รูปพีระมิดสีดำ

Screen Shot 2565-11-27 at 17

ใน 1899 สิ่งประดิษฐ์รูปทรงพีระมิดนี้เริ่มมีบทบาทขึ้นเมื่อ Kerberos พบกับเรือ Prometheus ที่หายสาปสูญไปในทะเล เรือถูกทิ้งร้างเอาไว้ยกเว้นเด็กชายที่ชื่อว่า Elliot ซึ่งเขาได้ถือสิ่งประดิษฐ์นี้อยู่ ในหลายๆ ตอน Elliot มีการใช้สิ่งประดิษฐ์นั้น ซึ่งดูเหมือนว่ามันจะเป็นที่มาของคำสาปบางอย่างที่นำไปสู่การก่อความไม่สงบหรือก่อกบฎขึ้นบนเรือ ทำให้ผู้คนบนเรือ Kerberos แตกแยกกันเป็น 2 กลุ่ม

เมื่อซีซันที่ 1 ดำเนินเรื่องไปเรื่อยๆ เราได้เรียนรู้ว่าเรือ Kerberos นั้นเป็นเพียงการจำลองเหตุการณ์ซ้ำไปซ้ำมา และทุกๆ คนบนเรือจะถูกลบความทรงจำทิ้งทั้งหมดก่อนที่จะเริ่มต้นเดินทางครั้งใหม่ผ่านโลกเสมือนจริงภายนอกเรือ แต่ภายในแบบจำลองนั้นมี Henry ซึ่งคอยสังเกตเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซ้ำๆ ของเรือทุกครั้ง ในขณะที่เขาตามหา Elliot และสิ่งประดิษฐ์รูปทรงพีระมิด นั่นเป็นเพราะ แม้ว่า Henry จะมีเอกลัษณ์เฉพาะตัวเมื่อเทียบกับคนอื่นๆ บนเรือในเกมจำลองนี้ แต่เขาก็เป็นหนึ่งในคนที่ต้องติดอยู่ในโลกเสมือนจริงแบบทุกคน และสิ่งประดิษฐ์ที่เขาพยายามเรียกคืนมานั้นมีรหัสทางออกที่จะช่วยให้ใครก็ตามที่เปิดใช้งานสามารถออกจากการจำลอง และกลับสู่ความเป็นจริงได้

ที่พีระมิดสีดำอันนี้มีรูกุญแจอยู่ และต้องมีคนนำกุญแจมาไขเพื่อเปิดใช้งาน และกดรหัสสู่ทางออก นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนจบของซีซันแรก Deniel ได้แฮ็กแบบจำลองและทำการเปลี่ยนรหัส แต่แทนที่คุณสมบัติของวัตถุประสงค์ จะแปลงรูปแบบให้เป็นรหัสทางออก เขาได้ทำการเปลี่ยนเป็นแหวนแต่งงานของ Maura รับบทโดย Emily Beecham เป็นกุญแจดอกใหม่

ดังนั้นเมื่อ Henry พยายามใช้สิ่งประดิษฐ์ของ Elliot เขาได้รีบูตการจำลองกลับไปสู่การวนซ้ำครั้งแรก โดยที่ Deniel ได้ซ่อนวัตถุรูปทรงพีระมิดชิ้นใหม่ไว้ Maura ได้ใช้แหวนของเธอเป็นกุญแจในวัตถุใหม่นี้ ซึ่งกระบวนการนี้ทำให้เธอสามารถออกจากการจำลองและตื่นขึ้นมาในโลกแห่งความจริงอีก 200 ปีข้างหน้าได้

ขณะที่ช่วงสุดท้ายของซีซันทำให้เกิดคำถามขึ้นมากมาย ว่าวิธีที่สิ่งประดิษฐ์รูปทรงพีระมิดถูกนำมาใข้ในซีรีส์นี้นั้น ดูเหมือนว่าจะได้แรงบันดาลใจมาจากตรรกะในการเขียนโปรแกรม นั่นเป็นเพราะ ‘กุญแจ’ ที่มักจะใช้ดึงข้อมูลที่จำเป็นจากชิ้นส่วนของโค้ด

กุญแจ และ การให้ความสำคัญ

Screen Shot 2565-11-27 at 17

เมื่อโปรแกรมเมอร์เริ่มสร้างซอฟต์แวร์ พวกเขาต้องเก็บข้อมูลจำนวนมหาศาลที่ต้องการจะเข้าถึงไว้ในภายหลัง แม้ว่าจะมีหลากหลายวิธีในการจัดเก็บข้อมูลภายในโค้ด แต่หนึ่งในกลไกที่ใช้บ่อยที่สุดคือการใช้คีย์และค่า ตามชื่อที่ถูกกำหนดซ้อนเอาไว้ ค่าที่ถูกตั้งไว้ในรหัสอาจเป็นอะไรก็ได้ โดยข้อมูลเหล่านี้อาจเป็นข้อมูลเกี่ยวกับรูปลักษณ์ และบุคลิกภาพของตัวละคร บันทึกการจำลอง จำนวนสิ่งของภายในห้อง หรือแม่แต่ลำดับของห้องที่ควรทิ้งไว้ในสภาพแวดล้อมที่เสมือนจริง

ค่าหรือข้อมูลใดๆ ที่จำเป็นสำหรับโปรแกรมเมอร์ในการจัดเก็บ แต่ละค่านั้นสามารถเข้าถึงได้จากทุกที่ในโค้ด ช่วยให้โปรแกรมเมอร์เข้าถึง และรับข้อมูลที่ต้องการได้โดยไม่ต้องคำนึงถึงงานปัจจุบัน เพื่อเป็นการติดตามค่าเหล่านี้ สิ่งที่โปรแกรมเมอร์ต้องการคือแอดเดรส หรือที่อยู่ หรือเรียกอีกอย่างว่า ‘คีย์’ ที่จะเป็นกุญแจสำหรับการเขียนโค้ด โปรแกรมเมอร์มักจะสร้างแผนที่หรือพจนานุกรมเพื่อเก็บข้อมูล หรือที่เรียกว่า ‘ค่า’ เพื่อให้เข้าถึงข้อมูลในภายหลังได้ โปรแกรมเมอร์ยังได้กำหนด ‘คีย’ ให้กับค่าเหล่านั้นด้วย

เมื่อใช้การเปรียบเทียบ คีย์-ค่า เราสามารถพูดได้ว่าสิ่งประดิษฐ์รูปทรงพีระมิดนั้นคือแผนที่เก็บค่าต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น รหัสทางออก กุญแจที่ Maura ใส่ไว้ในวัตถุคือที่อยู่ที่จะนำไปสู่รหัสทางออกเฉพาะนี้ และในขณะที่สิ่งนี้ฟังดูสมเหตุสมผลในตัวเอง พร้อมกับได้แก้ไขปริศนาของสิ่งประดิษฐ์รูปทรงพีระมิดได้แล้ว การใช้กลไก คีย์-ค่า ภาในการจำลองนี้บ่งชี้ว่าซีรีส์เรื่องนี้กำลังขุดลึกลงไปในทฤษฎีการเขียนโปรแกรมเพื่อสร้างเป็นกฎของโลกจำลองแห่งนี้

Screen Shot 2565-11-27 at 17

ตั้งแต่ตอนแรกของ 1899 เราได้เห็นข้อผิดพลาดในการจำลองที่เราไม่อาจเข้าใจได้ จนกว่าเราจะได้เรียนรู้ว่าเรือ Kerberos นั้นเป็นเพียงสภาพแวดล้อมเสมือนจริง นอกจากนี้ยังมีบั๊กที่ใช้เขียนทับฟังก์ชันการทำงานของประตูบางบานเอาไว้ด้วย ไวรัสที่แพร่กระจายและทำให้ข้อมูลเสียหาย รวมถึงไฟล์ที่เก็บไว้ถาวรที่ใช้สำหรับการวนซ้ำของสถานการณ์จำลองเมื่อเกิดความล้มเหลว เห็นได้ชัดว่าผู้สร้าง Friese และ bo Odar จงใจใช้คำที่มาจากโดเมนการเขียนโปรแกรม และเนื่องจาก Dark สอนเราว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นโดยบังเอิญ เราจึงควรพิจารณาผลที่จะตามมาของทั้งคู่โดยใช้กุญแจเพื่อเข้าถึงรหัสเฉพาะ นั่นเป็นเพราะไม่มีโปรแกรมเมอร์คนไหนสร้างแผนที่ด้วยข้อมูลเพียงชิ้นเดียวได้ มิฉะนั้นพวกเขาจึงไม่จำเป็นต้องจัดระเบียบทุกอย่างด้วยกุญแจ

หากมีกุญแจสำหรับรหัสทางออก อาจมีกุญแจอื่นๆ ภายในสภาพแวดล้อมเสมือนที่สามารถเข้าถึงฟังก์ชันต่างๆ ได้ เรายังไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในซีซันที่ 2 ของ 1899 อย่างไรก็ตามหากรายการยังคงสำรวจการเดินทางของผู้คนที่ติดอยู่ภายในสถานการณ์จำลอง เป้าหมายต่อไปของพวกเขาก็คือการค้นหากุญแจใหม่ที่จะช่วยให้พวกเขาควบคุมสถานการณ์จำลองได้ และเนื่องจากกุญแจสามารถเป็นอะไรก็ได้ในโลกเสมือนจริง Friese และ bo Odar อาจซ่อนบางอย่างเอาไว้ใต้จมูกของเรา นั่นเป็นเพราะหนึ่งในตัวละครหลักของซีรีส์ Eyk รับบทโดย Andreas Pietschmann เป็นตัวย่อของ ‘คีย์’ แน่นอนว่านั่นคือการคาดเดาทั้งหมดในตอนนี้ แต่เราควรมองหาเงื่อนงำอื่นๆ ที่มาจากการเขียนโปรแกรม ที่เราหวังว่าจะสามารถแก้ไขปริศนาของเรือ Kerberos ได้

ที่มา: Collider
0 ความคิดเห็น

คุณต้อง สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ ก่อน เพื่อที่จะสามารถแสดงความคิดเห็นได้

ข่าวจัดอันดับ

ประจำเดือนนี้