ผู้กำกับ Paul Feig ออกมาพูดถึงแนวคิดในการสร้างภาคต่อของ The School for Good and Evil

ภาพยนตร์เรื่อง The School for Good and Evil ได้เปิดตัวทาง Netflix ไปเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งดัดแปลงมาจากหนังสือเล่มแรกของนวนิยายในชื่อเดียวกันที่เขียนโดย Soman Chainani ล่าสุด Paul Feig ผู้กำกับของภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ออกมาเปิดเผยถึงแนวคิดในการสร้างภาคต่อ

1

The School for Good and Evil กำกับโดย Paul Feig ผู้กำกับจาก Spy (2015) และ Ghostbusters (2016) ซึ่งหลังจากที่ภาพยนตร์เปิดตัวทาง Netflix ไปเมื่อวันที่ 19 ตุลาคมที่ผ่านมา ก็ได้มีแฟนๆ หนังสือหลายคนสงสัยว่า Netflix จะอนุมัติให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ไปต่อในภาคที่ 2 หรือไม่ แม้ว่าภาพยนตร์จะยาวถึง 2 ชั่วโมง 27 นาที แต่ในฉบับนิยายก็ยังมีเรื่องราวให้เล่าต่อได้อีกมากมาย ทว่าภาคต่อจะได้เกิดขึ้นหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับความสำเร็จของภาคแรก แม้ว่า The School for Good and Evil จะได้รับคะแนนวิจารณ์บนเว็บไซต์ Rotten Tomatoes อยู่แค่เพียง 37% ในฝั่งนักวิจารณ์ แต่ดูเหมือนว่าในฝั่งของผู้ชมนั้นจะต่างออกไป เนื่องจากภาพยนตร์เรื่องนี้มีคะแนนอยู่ที่ 72% ในฝั่งผู้ชม

Paul-Feig-

ล่าสุด Paul Feig ผู้กำกับของภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ให้สัมภาษณ์กับ Entertainment Weekly (EW) และได้กล่าวถึงแนวคิดในการสร้างภาคต่อ โดยผู้กำกับได้กล่าวว่า

ฟังนะ ถ้าเราจะถ่ายทำทุกอย่างในหนังสือเล่มแรก หนังเรื่องนี้จะมีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ [หัวเราะ] คุณใช้สิ่งที่คนดู ผู้อ่าน และแฟนๆ ชอบจากหนังสือ แล้วนำไปปรับปรุงใหม่ในรูปแบบที่ยังคงเป็นของคุณเอง แต่ต้องเป็นไปในทิศทางที่จะทำให้ผู้ชมมีความสุข เพราะยังมีผู้ชมที่ไม่รู้จักหนังสือต้นฉบับมาก่อน หรือผู้ชมที่เข้ามาดูโดยที่ไม่รู้เนื้อหาด้วยซ้ำ ผมต่อต้านหนังทุกเรื่องที่คุณต้องรู้เรื่องราวก่อนรับชม

การดูหนังที่ดัดแปลงมาจากหนังสือการ์ตูนเป็นเรื่องสนุก ถ้าคุณโตมากับหนังสือการ์ตูนและรู้จักตัวละครเหล่านั้นทั้งหมด เพราะมันจะมีไข่อีสเตอร์ (Easter eggs) มากมาย แต่ผมก็พบว่ามันทำให้ผู้ชมหลายคนไม่อยากดู สำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ คุณไม่จำเป็นต้องรู้เรื่องราวในหนังสือมาก่อน คุณสามารถเข้ามาสนุกกับมันได้ สนุกไปกับตัวละครเหล่านี้ แล้วถ้าคุณอยากจะไปอ่านหนังสือหลังจากนั้น ก็ถือเป็นเรื่องที่ดี ทั้งภาพยนตร์และหนังสือต้องยืนได้ด้วยตัวเอง และหวังว่าเราจะทำอย่างนั้นต่อไปในภาคต่อ

1

เรื่องย่อ The School for Good and Evil

ในหมู่บ้านกาวาลดอน คู่หูเพื่อนสนิทคู่ซี้สองคนอย่าง Sophie (Sophia Anne Caruso) และ Agatha (Sofia Wylie) ทั้งคู่มีความแตกต่างกันจนไม่น่าเป็นเพื่อนสนิทกันได้ Sophie เป็นสาวผมบลอนด์ทำอาชีพเป็นช่างเย็บผ้า เธอมีความใฝ่ฝันที่จะหนีจากชีวิตอันแสนเศร้าของเธอและไปเป็นเจ้าหญิง ในขณะที่ Agatha กับแม่ที่สวยสง่าและผิดปกติของเธอ ได้ทำการสร้างแม่มดขึ้นมาในคืนพระจันทร์สีเลือด จากนั้นพลังอันรุนแรงได้พัดพาพวกเธอไปยังโรงเรียนแห่งความดีและความชั่ว สถานที่ซึ่งเรื่องราวเทพนิยายที่ยิ่งใหญ่ทุกเรื่องถูกสร้างขึ้น จากนั้น Sophie ได้ถูกทิ้งให้เข้าเรียนในโรงเรียนแห่งความชั่วร้าย ดำเนินการโดย Lady Lesso (Charlize Theron) ส่วน Agatha เธอถูกส่งไปยังโรงเรียนแห่งความดีที่ดูแลโดย ศาสตราจารย์ Dovey (Kerry Washington) ผู้เปรียบเสมือนแสงสว่างและแสนใจดี

โดยโรงเรียนแห่งความดีจะเป็นที่ในการฝึกฝนเหล่าฮีโร่ ส่วนโรงเรียนแห่งความชั่วจะเป็นที่ฝึกฝนของเหล่าวายร้าย ซึ่งในโรงเรียนแห่งนี้มีทั้งลูกหลานของแม่มดที่ชั่วร้ายอย่าง Hester (รับบทโดย Freya Parks), ลูกชายของกัปตัน Hook (รับบทโดย Earl Cave) และบุตรชายผู้ห้าวหาญของกษัตริย์ Arthur (รับบทโดย Jamie Flatters) อย่างไรก็ตาม การที่ทั้งคู่อยู่คนละโรงเรียนทำให้สายสัมพันธ์ของพวกเธอเปลี่ยนไป โดยตามคำกล่าวของอาจารย์ใหญ่ (รับบทโดย Laurence Fishburne) ได้บอกว่ามีเพียงการจุมพิตกับรักแท้เท่านั้นที่จะสามารถเปลี่ยนกฎเกณฑ์ละส่งสาวๆ ไปยังโรงเรียนและโชคชะตาที่ถูกต้องได้ แต่เมื่อร่างที่มืดมิดและอันตราย (รับบทโดย Kit Young) ที่มีความสัมพันธ์ลึกลับกับ Shopie ได้เข้าควบคุมเธอและขู่ว่าจะทำลายโรงเรียนและโลกภายนอกให้สิ้นซาก ด้วยเหตุนี้ Agatha จึงต้องหาทางหยุดยั้งแผนการอันชั่วร้าย และช่วยเพื่อนสนิทของเธอให้กลับมาเป็นคนเดิมอีกครั้ง โดยภาพยนตร์เรื่อง The School for Good and Evil มีกำหนดการเปิดตัวในวันที่ 19 ตุลาคมนี้ทาง Netflix

ที่มา: Comic Book
ชอบดูหนังเป็นชีวิตจิตใจ เพราะหนังให้อะไรมากกว่าที่คุณคิด
0 ความคิดเห็น

คุณต้อง สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ ก่อน เพื่อที่จะสามารถแสดงความคิดเห็นได้

poster

Paul Feig

พอล เฟก

รู้จักกันในฐานะ

ผู้กำกับ

วันเกิด

17-09-1962 (61 ปี)

เพศ

ผู้ชาย

สถานที่เกิด

Royal Oak, Michigan, USA

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวจัดอันดับ

ประจำเดือนนี้