Sonic the Hedgehog 2 ทำลายสถิติ Box Office กลายเป็นภาพยนตร์จากวิดีโอเกมที่สามารถเปิดตัวสุดสัปดาห์แรกได้ด้วยรายได้สูงสุดตลอดกาล ที่ 71 ล้านดอลลาร์ หรือปราะมาณ 2,389 ล้านบาท (ตามอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา ณ ปัจจุบัน)

บทความที่เกี่ยวข้อง : โปรดิวเซอร์ของ Sonic the Hedgehog 2 บอกว่าเขาจะไม่แคสต์นักแสดงในบท Dr. Robotnik ใหม่ แม้ว่า Jim Carrey จะเกษียณจากการแสดงไปแล้วก็ตาม

ในอดีตที่ผ่านมา การดัดแปลงวิดีโอเกมมาเป็นภาพยนตร์ ถือเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง เนื่องจากมีคนจำนวนมากที่มีประสบการณ์และรับรู้เรื่องราวของตัวละครผ่านการเล่นเกม ดังนั้นเมื่อวิดีโอเกมที่เรารู้จักและชื่นชอบถูกหยิบมาดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ จึงไม่แปลกที่คนกลุ่มนี้จะตั้งความคาดหวังกับภาพยนตร์เอาไว้สูงมากเสมอ นับตั้งแต่ ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ Super Mario Bros ใน ปี 1993, Tomb Raider ในปี 2001 หรือแม้แต่ Warcraft ในปี 2016 ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะทำออกมาได้ไม่ดี เพราะบางทีผู้สร้างไม่ใช่แฟนเกมตัวจริง หรืออาจจะตีความใหม่จนไม่ถูกใจแฟนเกม แต่ก็มีภาพยนตร์จากเกมหลายเรื่องที่ประสบความสำเร็จเช่นกัน ได้แก่ Pokémon Detective Pikachu (2019), Uncharted (2022) และ Sonic the Hedgehog (2020) ที่ดูเหมือนจะเป็นความหวังใหม่ ที่จะนำพาสู่ยุคสมัยใหม่ของภาพยนตร์ที่ดัดแปลงจากเกม

Sonic the Hedgehog ภาคแรกในปี 2020 ถือเป็นแนวหน้าของภาพยนตร์ที่ดัดแปลงจากวิดีโอเกมที่ประสบความสำเร็จ แต่กว่าจะสำเร็จได้ ก็ต้องเคยผิดพลาดกันมาก่อน ย้อนกลับไปในตอนที่ทางผู้สร้างได้เปิดตัว ตัวละคร Sonic ที่พวดเขาออกแบบสำหรับเวอร์ชันภาพยนตร์มาให้แฟน ๆ ได้รับชมกัน ปรากฎว่าแบบแรกที่ปล่อยออกมาโดนเหล่าแฟนเกม วิจารณ์ไปทางลบอย่างมาก จนหลาย ๆ คนหมดหวังกับภาพยนตร์เรื่องนี้แล้ว และคิดว่าต้องออกมาห่วยเหมือนภาพยนตร์จากเกมเรื่องอื่น ๆ แต่ปรากฎว่าทางผู้สร้างได้ตัดสินใจแก้ไขตัวละคร Sonic ใหม่อีกครั้ง เพื่อให้ตรงใจกับแฟนเกม ซึ่งต้องยอมเลื่อนกำหนดการฉายออกไป และลงทุนเพิ่มมหาศาล เพราะตัวหนังทำเกือบเสร็จหมดแล้ว แต่ต้องกลับไปแก้เกือบทุกฉากที่ Sonic ปรากฎตัว จนสุดท้าย Sonic the Hedgehog ก็ได้เข้าฉายในอเมริกาวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2020

ซึ่งปรากฎว่า หลังจาก Sonic the Hedgehog เข้าฉายภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ประสบความสำเร็จอย่างมาก สามารถสถิติภาพยนตร์จากวิดีโอเกมที่เปิดตัวสุดสัปดาห์ด้วยรายได้สูงสุดตลอดกาลถึง 58 ล้านดอลลาร์ ซึ่งสุดท้ายสถิตินี้ได้ถูกทำลายลงด้วยหนังภาคต่ออย่าง Sonic the Hedgehog 2 ที่เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกด้วยรายได้ 71 ล้านดอลลาร์ และเหตุผลที่ภาคแรกประสบความสำเร็จ คงเป็นเพราะ บทที่ไม่ได้แย่จนเกินไป และยังมีนักแสดงมากความสามารถอย่าง Jim Carrey ที่มารับบทเป็นวายร้ายหลักของเรื่องอย่าง Dr. Robotnik และการแสดงของเขาก็ยอดเยี่ยมมาก ๆ จนสามารถเอาชนะใจแฟนเกมได้สำเร็จ และช่วยส่งให้ Sonic the Hedgehog กลายเป็นภาพยนตร์จากเกมที่ทำรายได้สูงสุดในอเมริกาเหนือภาพยนตร์ที่ดัดแปลงจากเกมทุกเรื่อง

จากรายงานของ Variety ได้ระบุว่า Sonic the Hedgehog 2 ได้ทำลายสถิติของตัวเองที่เคยทำไว้ในภาคแรก และกลายเป็นภาพยนตร์จากวิดีโอเกมที่เปิดตัวด้วยรายได้สูงสุดตลอดกาล นอกจากนี้ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังอันดับหนึ่งเหนือ Morbius และ Ambulance โดยทำรายได้ไปกว่า 71 ล้านดอลลาร์ หรือปราะมาณ 2,389 ล้านบาท (ตามอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา ณ ปัจจุบัน) ซึ่งความสำเร็จนี้ อาจนำไปสู่การทำรายได้อย่างมหาศาลทั่วโลก ถ้าหากว่าคะแนนจากวิจารณ์ และคะแนนจากผู้ชมของ Sonic the Hedgehog 2 ยังเป็นไปเชิงบวกอยู่แบบนี้ ต้องรอติดตามกันต่อไป ว่าจะจบที่รายได้เท่าไหร่กันแน่

บทความที่เกี่ยวข้อง : Sonic the Hedgehog 2 เปิดตัวได้น่าประทับใจกวาดรายได้ไป 67 ล้านดอลลาร์

นอกจากนี้ Sonic the Hedgehog 2 ยังมีโอกาสโกยรายได้อีกมาก เพราะ ในช่วงนี้ถือเป็นช่วงปิดเทอมฤดูใบไม้ผลิสำหรับโรงเรียนหลายแห่งในอเมริกา ทำให้มีแนวโน้มว่าครอบครัวที่มีเด็กเล็กส่วนใหญ่ จะมีโอกาสที่จะพาลูก ๆ ของพวกเขาไปรับชมภาพยนตร์เรื่องนี้ แถมเมื่อไม่นานมานี้ Jim Carrey ก็พึ่งออกมาประกาศอำลาวงการ พร้อมบอกว่า Sonic the Hedgehog 2 อาจจะเป็นเรื่องสุดท้ายของเขาในฐานะนักแสดง ซึ่งอาจทำให้แฟนหนังบางคนตัดสินใจที่จะเข้าไปรับชมภาพยนตร์เรื่องนี้ เพื่อดูผลงานการแสดงสุดท้ายของดาราเบอร์ใหญ่อย่าง Jim Carrey จากเหตุผลทั้งหมดนี้ จะแปลเปลี่ยนมาเป็นแรงส่งที่ดีให้กับ Sonic the Hedgehog 2 ในการกอบโกยรายได้มหาศาล

ส่วนในด้านของสตูดิโอผู้สร้างภาพยนตร์เรื่องนี้อย่าง Paramount ก็ได้ออกมาประกาศสร้างภาคที่ 3 ของ Sonic the Hedgehog อย่างเป็นทางการแล้วซึ่งเห็นได้ชัดว่าเป็นการเคลื่อนไหวที่ชาญฉลาดหลังจากความสำเร็จของทั้งสองภาคแรก นอกจากนี้ Paramount ยังได้ประกาศว่าจะมีการสร้างภาคภาคแยก (Spin-off) ของตัวละคร Knuckles อีกด้วย ส่วนใครที่ยังไม่ได้ดูภาคสอง ตอนนี้ Sonic the Hedgehog 2 กำลังเข้าฉายอยู่ในบ้านเรา ใครที่อยากดูก็ไปดูกันได้ มีรอบฉายทุกโรงภาพยนตร์ และผมขอรับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน