ในระหว่างพูดคุยในรายการทอล์คโชว์เมื่อเร็วๆ นี้ ของผู้กำกับที่เคยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์อย่าง Quentin Tarantino เขาก็ได้เรียกแฟรนไชส์ ​​The Hunger Games ว่าเป็นการลอกเลียนแบบ Battle Royale ภาพยนตร์ญี่ปุ่นในปี 2000

ผู้กำกับชื่อดังมีภาพยนตร์ที่อยู่ในการรับผิดชอบและได้รับรางวัลมามากมาย อย่างเช่น Pulp Fiction (1994), Reservoir Dogs (1992), Django Unchained (2012) และ Once Upon A Time In Hollywood (2019) ทางด้าน Tarantino ยังกล่าวไว้ว่าเขาตั้งใจที่จะเกษียณหลังจากกำกับภาพยนตร์เรื่องที่ 10 ของเขา

Quentin Tarantino เริ่มต้นอาชีพผู้สร้างภาพยนตร์ด้วย Reservoir Dogs หนังระทึกขวัญอาชญากรรมปี 1992 จากนั้น Tarantino ก็ได้มีพื้นที่ของตัวเองในหน้าประวัติศาสตร์ของฮอลลีวูดยุคใหม่ได้อย่างรวดเร็ว เขาเป็นที่รู้จักจากรูปแบบของพล็อตเรื่องที่ไม่มีเส้นเรื่องที่ชัดเจนตายตัวและความไม่เหมือนใครในวิธีการถ่ายทอดเรื่องราว ตลอดจนการใช้ความรุนแรงเชิงภาพ ผู้กำกับยังได้เลือกใช้เรื่องราวที่หลากหลาย ตั้งแต่ชีวิตในอาชญากรรมร่วมสมัย ภารกิจลับสุดยอดในสงครามโลกครั้งที่สอง เรื่องราวการแก้แค้นทั่วดินแดนตะวันตก และด้านมืดของลอสแองเจลิสในยุค 60s ในขณะที่ผู้กำกับก็ยังคงรักษาสไตล์ที่โดดเด่นของเขาในผลงานและการถ่ายทำในทุกเรื่องเสมอ… Tarantino เปิดเผยในปี 2016 ว่าเขาจะเกษียณหลังจากภาพยนตร์เรื่องที่สิบของเขา เขาได้กล่าวก่อนการเปิดตัว Once Upon A Time In Hollywood ซึ่งเป็นภาพยนตร์เรื่องที่เก้าของเขา แม้ว่า Tarantino จะยังห่างไกลจากการเกษียณอายุอยู่อีกเรื่องหนึ่ง แต่เขาก็ได้ให้ความมั่นใจว่าจะยังคงเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านภาพยนตร์และจะแบ่งปันความคิดเห็นเกี่ยวกับมุมมองของภาพยนตร์ต่อไป เช่นเดียวกับการที่เขาทำในการให้สัมภาษณ์เมื่อเร็วๆ นี้

ในระหว่างการเป็นแขกรับเชิญในรายการ The Jimmy Kimmel Show ทางด้าน Tarantino ถูกถามโดย Dana Carvey ผู้เป็นพิธีกรว่า “ภาพยนตร์เรื่องใดที่ Tarantino อยากจะกำกับเอง?” หลังจากที่ Carvey พูดถึงภาพยนตร์ญี่ปุ่นที่มีอิทธิพลต่องานของ Tarantino ผู้กำกับก็เปิดเผยว่าเขาอยากจะกำกับภาพยนตร์ที่ดัดแปลงจาก Battle Royale ของ Kinji Fukasaku ในปี 2000 ซึ่งเป็นภาพยนตร์ที่มีเด็กนักเรียน 42 คนถูกทิ้งให้ต่อสู้เพื่อหนีความตายและเอาชีวิตรอดบนเกาะร้างแห่งหนึ่ง แต่ก่อนที่ Tarantino จะยืนยันความปรารถนาของเขาที่จะกำกับ Battle Royale เอง เขาก็ได้พูดแซวหยอกล้อไปที่แฟรนไชส์ The Hunger Games ของ Lionsgate ว่าได้ทำการลอกเลียนนวนิยายของ Koushun Takami จากญี่ปุ่นในปี 2000 อ่านความคิดเห็นของ Taratino ด้านล่างนี้:

โอ้ ว้าว! เป็นคำถามที่ดี จริงๆ แต่ในความเป็นจริง… มันคงจะดีมากในฐานะที่ผมเป็นแฟนตัวยงของภาพยนตร์ญี่ปุ่นเรื่อง Battle Royale ซึ่งก็เป็นตัวตั้งต้นของ Hunger Games ที่สร้างขึ้น อ่า…ใช่แล้ว Hunger Games ได้ลอกเลียนมา พูดตรงๆ ลอกเลียนมา และมันคงเยี่ยมมากถ้าผมได้กำกับ Battle Royale

เมื่อผู้กำกับมองย้อนกลับไปและไตร่ตรองถึงอาชีพ 30 ปีของเขา Tarantino ได้เปิดเผยภาพยนตร์เรื่องแรกของเขากับลูกชายที่ได้ดูด้วยกัน ในระหว่างการสัมภาษณ์ในเดือนกรกฎาคมและภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวก็คือ Despicable Me ซึ่งเป็นทางเลือกที่ธรรมดาอย่างน่าประหลาดใจสำหรับผู้กำกับที่มีความหลากหลายอย่างเขา แต่ที่น่าแปลกใจน้อยกว่าคือความเห็นของ Tarantino เกี่ยวกับ The Hunger Games เนื่องจากเขาจะไม่ใช่คนแรกที่กล่าวหาแฟรนไชส์ที่นำแสดงโดย Jennifer Lawrence ว่าลอกเลียนแบบมาจาก Battle Royale แต่ก็เป็นการเปรียบเทียบที่ส่วนใหญ่จบลงด้วยสมมติฐานที่ว่าทั้งสองเรื่องเป็นเรื่องราวที่ “เด็กฆ่าเด็กด้วยกัน” ทางด้าน Suzanne Collins นักเขียนนวนิยาย Hungers Games ก็ยังยืนยันว่าเธอเพิ่งจะรู้จัก Battle Royale ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้เอง ในช่วงที่ภาพยนตร์ต่างประเทศกลายเป็นกระแสหลักมากขึ้นในอเมริกา การยืนกรานของเธอนั้นก็น่าเชื่อถืออยู่ไม่น้อย อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้สร้างภาพยนตร์อย่าง Tarantino ที่มักทำให้ภาพยนตร์ของเขาเต็มไปด้วยการแสดงความเคารพต่อภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ ดังนั้นความคล้ายคลึงกันระหว่าง The Hunger Games และ Battle Royale นั้นก็ยากเกินที่คนอย่างเขาจะเมินเฉยได้ และหากให้เลือกระหว่างหนังทั้งสองเรื่องนี้ ก็น่าจะรู้กันได้อย่างชัดเจนว่าเขาชอบอะไร…

ตลอดอาชีพผู้กำกับของเขา Tarantino ได้สร้างคุณลักษณะที่โดดเด่นและน่าจดจำที่สุดบางส่วนเอาไว้ ซึ่งก็กินระยะเวลามาเกือบสามทศวรรษแล้ว สิ่งเหล่านี้ก่อให้เกิดเป็นรูปแบบของเขาที่เป็นที่รู้จักในทันที ด้วยอิทธิพลที่มาจากตะวันออกที่เขาชื่นชอบก็จะเห็นได้ในภาพยนตร์อย่าง Kill Bill ทั้งสองภาค เช่นเดียวกับการใช้ความรุนแรงเชิงกราฟิคของเขา จึงเป็นเรื่องง่ายที่จะเข้าใจว่าทำไม Tarantino ถึงมองว่า Hunger Games เป็นการลอกเลียนแบบ Battle Royale ในขณะที่ Tarantino กำลังจะเตรียมที่จะออกหนังสือของตัวเองที่พูดถึงทฤษฎีภาพยนตร์และคำวิจารณ์… แฟนๆ ที่ชื่นชอบผลงานการถ่ายทำภาพยนตร์ของเขาก็สามารถตั้งตารอที่จะได้เห็นข้อมูลเชิงลึกมากขึ้นเกี่ยวกับงานและความคิดเห็นอื่นๆ เกี่ยวกับการสร้างภาพยนตร์ของเขาเอง