Colin Trevorrow เกือบทำให้หนัง Jurassic World แต่ละเรื่องมีชื่อเรื่องที่แตกต่างกันออกไป
ผู้กำกับที่นำผู้ชมและแฟนภาพยนตร์กลับมาที่ Isla Nublar ที่เต็มไปด้วยไดโนเสาร์เป็นครั้งแรกในรอบ 22 ปีกับ Jurassic World ซึ่งโปรเจกต์ยักษ์ใหญ่ด้านภาพยนตร์ในปี 2015 และมีแผนที่ยิ่งใหญ่สำหรับไตรภาคที่ 2 ของแฟรนไชส์นี้ หนึ่งในแนวคิดที่ยิ่งใหญ่ของเขาคือการตกแต่งทุกสิ่งอย่างหมดจด เขาต้องการให้ชื่อเรื่องมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ Jurassic World: Fallen Kingdom หรือ Jurassic World Dominion ที่ไม่มีเครื่องหมายโคลอน ภาพยนตร์เหล่านี้เขาต้องการสะท้อนให้เห็นว่ามันเป็นงานเดี่ยว เปรียบเทียบเหมือนเป็นหนัง James Bond หรือ Blondie นั่นเอง
ในการให้สัมภาษณ์กับ Steve “Frosty” Weintraub จาก Collider ผู้กำกับได้อธิบายถึงตรรกะในการตั้งชื่อของเขาไว้ว่า:
ตอนเข้ามาครั้งแรก ผมอยากเปลี่ยนชื่อเรื่องทุกครั้ง ซึ่งตอนคิดย้อนกลับไปผมอาจจะบ้าไปแล้วเพราะเราอยู่ในสังคม แต่ผมอยากจะบอกว่ามันก็เหมือนกับ ‘Jurassic World’, ‘Jurassic Earth’, ‘Jurassic Kingdom’ ผมแค่อยากเปลี่ยนมันไปเรื่อยๆ และผมคิดว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะผมต้องการสร้างภาพยนตร์ต้นฉบับ ผมอยากรู้สึกเหมือนว่าพวกเขาเป็นงานเดี่ยวของตัวเอง
มันไม่ใช่ความคิดที่แย่ที่สุด แม้ว่าเขาตั้งเป้าไว้ต่ำเกินไป แต่การที่ได้สร้าง “Jurassic World” แล้วก็ไปเป็น “Earth” อาจจะซ้ำซ้อน และก็เป็น “Kingdom” อยู่ห่างออกไปหลายก้าวจากโลกทั้งใบ เราอาจจะเลือก “Jurassic County” หรือ “Jurassic Principality” ก็เป็นได้ แต่เห็นได้ชัดว่า ถ้าเราเริ่มต้นจากภายใต้ท้องฟ้า ขั้นตอนต่อไปก็อาจจะเป็นการไปสู่จักรวาล และถ้าหากแฟรนไชส์ The Amityville Horror สามารถไปในอวกาศได้ แล้วทำไมไดโนเสาร์ดัดแปลงพันธุกรรมจะไม่สามารถเข้าไปในอวกาศได้?
และในขณะนี้ Jurassic World Dominion เข้าฉายในบ้านเราแล้วทุกโรงภาพยนตร์
คุณต้อง สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ ก่อน เพื่อที่จะสามารถแสดงความคิดเห็นได้