เดิมทีภาพยนตร์เรื่อง Everything Everywhere All At Once (2022) เป็นภาพยนตร์ที่ถูกเขียนขึ้นมาเพื่อให้ Jackie Chan หรือ เฉินหลง (ต่อจากนี้ขอเรียกว่า เฉินหลง เลยนะครับ เข้าใจง่ายดี) มารับบทนำ และภาพยนตร์เรื่องนี้จะมีความแตกต่างจากที่เราเห็นอย่างมากถ้าหากเขาได้แสดงนำ

Everything Everywhere All At Once (2022) ภาพยนตร์แนว แอ็กชัน-คอมเมดี้ ของผู้กำกับ Dan Kwan และ Daniel Scheinert นำแสดงโดย Michelle Yeoh รับบทเป็น Evelyn Wang เจ้าของร้านซักรีด ที่เจอกับปัญหาเรื่องภาษีและกำลังถูกกรมสรรพากรตรวจสอบ ซึ่งถ้าหากไม่ผ่าน ร้านเธอจะต้งถูกยึด และในระหว่างที่เดินทางไปยังกรมสรรพากร จู่ ๆ สามีของเธอ Waymond (รับบทโดย Ke Huy Quan) ก็บอกว่ามาจากจักรวาลอื่น และขอร้องให้ Evelyn ช่วยเขากอบกู้ทุกจักรวาล

แม้ว่าการแสดงของ Yeoh ในฐานะ Evelyn จะได้รับการยกย่องอย่างสูงจากทั้งนักวิจารณ์และผู้ชม แต่ก็อาจจะแตกต่างออกไปถ้าหากผู้กำกับ Dan Kwan และ Daniel Scheinert เลือกทางเลือกเดิมในการให้เฉินหลงมารับบทนำในภาพยนตร์เรื่องนี้ ซึ่งความแตกต่างส่วนใหญ่นั้นอยู่ที่ต้นแบบของตัวละครทั้งของ Michelle Yeoh และเฉินหลง เพราะถ้าหากเฉินหลงได้แสดงนำ ตัวละครหลักจะเป็น Waymond แทน ทว่าสุดท้ายได้ Michelle Yeoh ทางผู้กำกับและทีมงานจึงแก้บทให้ตัวละคร Evelyn กลายมาเป็นตัวละครหลัก

ในตลอดอาชีพการแสดงผาดโผนของเฉินหลง เขาได้แสดงในภาพยนตร์มากมาย ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นแนว แอ็กชัน-คอมเมดี้ เขามักได้รับบทเป็นนักสู้ตกอับ ที่ต้องฝ่าฟันอุปสรรคและต่อสู้กับผู้ร้ายด้วยทักษะการต่อสู้ที่น่าเหลือเชื่อ แต่ก็ยังมีผสมความตลกเข้าไปอย่างลงตัว นอกจากนี้เขายังขึ้นชื่อเรื่องการเล่นจริงเจ็บจริง ไม่ใช้ตัวแสดงแทน และในช่วงไม่กี่ปีให้หลังมานี้ เฉินหลงได้เริ่มพยายามพลิกบทบาทของตัวเองไปแสดงในบทบาทที่หลากหลายมากขึ้น อย่างไรก็ตาม เรื่องราวใน Everything Everywhere All At Once (2022) ก็ดูเหมือนจะเหมาะกับเฉินหลง เพราะมีทั้งแอ็กชันและคอมเมดี้ ที่จะไม่เหมาะก็คงเป็นเรื่องจักรวาลคู่ขนาน เพราะไม่เคยเห็นเขาแสดงแนวไซไฟหลุดโลกแบบนี้มาก่อน ส่วนในด้านของ Michelle Yeoh ส่วนใหญ่แล้วเธอมักจะแสดงในเป็นนางเอกที่แข็งแกร่งและมีความสามารถมาตลอด ไม่ใช่นางเอกสายหวานหรืออ่อนแอ ทำให้บทบาท Evelyn ผู้โชคร้ายนี้ กลายเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญสำหรับเธอ

ฉากแอ็กชันและศิลปะการต่อสู้ของ Everything Everywhere All At Once (2022) ล้วนได้รับอิทธิพลอย่างมากจากภาพยนตร์แอ็กชันของฮ่องกง ดังนั้นการที่ Michelle Yeoh ที่เป็นคนเอเชียได้แสดงนำ พร้อมกับทักษะต่อสู้แบบฮ่องกง ภาพที่ออกมามันจึงดูเป็นธรรมชาติ และถ้าหากเป็นเฉินหลงแสดงนำ ภาพก็คงจะออกมาเป็นธรรมชาติเช่นกัน ลองนึกภาพถ้าเป็นนักแสดงที่เป็นฝรั่งมาแสดงนำ คงจะแปลก ๆ อย่างไรก็ตาม ถ้าหากว่าเฉินหลงได้มาแสดงนำจริง ๆ ภาพยนตร์เรื่องนี้อาจจะเป็นสิ่งที่ช่วยดึงให้เขาได้กลับมาโลดแล่นในแวดวงฮอลลีวูดอีกครั้ง จึงน่าเสียดายที่เขาไม่ได้รับบทนี้ หลังจากที่ก่อนหน้านี้เขาเคยแสดงในภาพยนตร์ของฮอลลีวูดอย่าง The Karate Kid (2010) และ The Foreigner (2017) ของผู้กำกับ Martin Campbell

แม้ช่วงหลังเฉินหลงจะเริ่มหันไปแสดงในบทบาทที่หลากหลาย แต่ผู้ชมส่วนใหญ่ก็รู้จักเขาจากภาพยนตร์ แอ็กชัน-คอมเมดี้ จากภาพยนตร์หลายเรื่องที่เขาแสดง เช่น Rush Hour (1998), Shanghai Noon (2000), Rush Hour 2 (2001), Shanghai Knights (2003), Rush Hour 3 (2007) เป็นต้น ส่วนในด้านของ Michelle Yeoh ก็เคยแสดงในภาพยนตร์แอ็กชันมาก่อน ได้แก่ Magnificent Warriors (1987) และ Silver Hawk (2004) นอกจากนี้ยังเคยแสดงในภาพยนตร์คอมเมดี้ อย่าง Crazy Rich Asians (2018) และ Last Christmas (2019) แม้ว่าจะแสดงมาเยอะแต่ Michelle Yeoh ก็ยังไม่เคยแสดงในภาพยนตร์ แอ็กชัน-คอมเมดี้มาก่อน ซึ่งภาพยนตร์เรื่อง Everything Everywhere All At Once (2022) ถือเป็นครั้งแรกของเธอที่ได้แสดงในแนวนี้

อย่างไรก็ตาม การแสดงของ Michelle Yeoh ในบทบาท Evelyn ก็ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้ Everything Everywhere All At Once (2022) ได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากทั้งนักวิจารณ์และผู้ชม กวาดรายได้ไปมหาศาลทั้งที่ไม่ใช่ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ จนสามารถกลายเป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้ในอเมริกาสูงที่สุดของสตูดิโอ A24 ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว เฉินหลงได้เคยพิจารณารับบทบาทนี้ในเบื้องต้นแล้ว แต่ดูเหมือนว่าเขารู้สึกอึดอัดที่จะต้องแสดงภาพยนตร์แนวนี้ จึงได้ปฏิเสธไป อาจเพราะว่าเขาอยากเปลี่ยนไปแสดงในบทแบบอื่นที่ท้าทายกว่า แต่ถึงเขาจะได้รับบทนี้จริง ๆ ก็คงจะเป็นภาพที่เราคุ้นตากันอยู่ เพราะเรื่องนี้เป็นแนว แอ็กชัน-คอมเมดี้ แบบที่เฉินหลงแสดงมาตลอดหลายสิบปี ซึ่งต่างจาก Michelle Yeoh ที่ไม่เคยแสดงภาพยนตร์แนวนี้มาก่อน Everything Everywhere All At Once (2022) ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของเธอ และเธอก็ทำออกมาได้ดีอย่างน่าเหลือเชื่อ