รีวิว My Dad the Bounty Hunter ซีซัน 1 แอนิเมชันคุณภาพที่สุดมันส์ บู๊พรั่น สนั่นอวกาศ ฉายแล้วบน Netflix

เตรียมตะลุยอวกาศไปใน My Dad the Bounty Hunter (คุณพ่อฉันเป็นนักล่าค่าหัว) แอนิเมชันซีรีส์เรื่องใหม่จากทาง Netflix ที่เพิ่งปล่อยยานพุ่งทะลุเข้าฉายไปเมื่อเร็วๆ นี้ ผ่านฝีมือของผู้สร้างแอนิเมชันในตำนาน Everett Downing Jr. ที่มีผลงานชื่อดังอย่าง Up (2009), WALL·E (2008), Ratatouille (2007) และสุดยอดผลงานอีกมากมายที่เชื่อว่าหลายๆ คนจะต้องเคยดูกันมาอย่างแน่นอน โดยในเรื่องนี้จะพาผู้ชมเข้าไปสัมผัสการผจญภัยอันแสนสนุกสนานและน่าตื่นเต้นเร้าใจในโลกอวกาศที่เต็มไปด้วยเอเลี่ยนมากมาย แบบไม่ซ้ำหน้าซ้ำตาและอีกสารพัดรูปแบบ รับประกันความมันส์และความบ้าคลั่งที่อบอุ่นหัวใจอย่างน่าเหลือเชื่อ

ว่าด้วยเรื่องราวของ Terry (รับบทโดย Laz Alonso) คุณพ่อวัยใสผู้บ้างานหรือที่รู้จักกันอีกชื่อใน Sabo Brok นักล่าค่าหัวอวกาศผู้ช่ำชอง เขาได้รับมอบหมายให้ไปทำภารกิจตามล่า Vax (รับบทโดย Jamie Chung) อาชญากรผู้หลบหนีไปในอวกาศ ในขณะที่เขากำลังจะเตรียมตัวมุ่งหน้าไปทำภารกิจลูกๆ ทั้งสองคนของเขา Lisa (รับบทโดย Priah Ferguson) และ Sean (รับบทโดย JeCobi Swain) ได้แอบตามเขาไปทำภารกิจด้วย และเริ่มต้นการผจญภัยอันวุ่นวายและโกลาหลที่สุดในอวกาศขึ้น พวกเขาทั้งหมดจะสามารถทำภารกิจได้สำเร็จและเอาตัวรอดจากอวกาศนี้ไปได้หรือไม่

สำหรับแอนิเมชันซีรีส์เรื่องนี้จะประกอบไปด้วยทั้งหมด 10 ตอน แบ่งออกตอนละประมาณ 20 นาที ซึ่งก็ถือว่าเป็นระยะเวลาที่กำลังสนุกมากๆ ชวนดูได้เพลินๆ แป๊ปเดียวก็ดูจบได้ง่ายๆ เลย ด้วยเนื้อเรื่องและการเล่าที่ถูกลำดับมาเป็นอย่างดี ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้มีไดนามิกที่ดีและสนุกมาก

backdrop-0

ในตอนแรกที่ได้ดูแอบเซอร์ไพรส์อยู่พอสมควร เนื่องจากงานภาพนั้นยอดเยี่ยมอยู่ในระดับที่สามารถกลายเป็นแอนิเมชันภาพยนตร์เข้าฉายได้อย่างจริงจังเลย ทั้งการใส่เอฟเฟกต์ ระดับคุณภาพสี การออกแบบตัวละคร การเคลื่อนไหวและทุกอย่างในเรื่องนี้นั้นไปถึงขั้นคุณภาพจริงๆ ทุกอย่างลื่นไหล ลงตัวและถูกผสมผสานกันมาได้เป็นอย่างดี รายละเอียดของภาพ องค์ประกอบแสง และการคุมโทนอารมณ์ในซีรีส์ก็เรื่องนี้ก็สามารถเก็บบรรยากาศได้ยอดเยี่ยมจริงๆ นอกจากนี้ก็ยังเลือกใช้มุมกล้องเพื่อถ่ายทอดเรื่องราวออกมาได้ดูทันสมัยมาก ด้วยความที่มันเป็นแอนิเมชัน ดังนั้นกล้องมันจะตั้งอยู่ตรงไหนก็ได้ในเรื่อง ซึ่งเขาก็สามารถเลือกและหยิบจับมุมแต่ละมุมออกมาได้น่าสนใจ ดูน่าตื่นเต้นและมีความเป็นไซไฟมากๆ

ไม่เพียงจะมีงานภาพอันยอดเยี่ยมแล้วเท่านั้น งานเพลงประกอบก็ขั้นเทพ เลือกเพลงมาใช้ได้ดีมาก พอเอามารวมใช้กับฉากไล่ล่าในแต่ละอันแล้วสมบูรณ์แบบทุกฉาก มันทั้งมันส์ บ้า และก็บิ้วอารมณ์ผู้ชมได้ถึงเครื่องจริงๆ รวมไปถึงเสียงเอฟเฟกต์และเสียงนักแสดงที่มาให้เสียงก็ลงตัวมาก เข้ากับตัวละครและทำเสียงทุกอย่างออกมาได้อย่างดีจริงๆ

backdrop-1

นอกจากนี้ในการออกแบบตัวละครและและการออกแบบโลกอวกาศก็คือที่สุด อย่างตัวเอเลี่ยนแต่ละตัวมีเอกลักษณ์ที่น่าจดจำมาก แม้จะไม่ใช่ตัวละครหลักแต่ก็ยังบอกได้เลยว่าโดดเด่นและน่ารักมากแบบจริงจัง แถมในเอเลี่ยนแต่ละเผ่าพันธุ์ก็ยังมีเรื่องราวให้เล่าได้อีกไม่รู้จบ โดยส่วนตัวชอบตัวเผ่าน้อง Pulga และน้อง Chilla ที่น่ารักแบบตะโกน! ทุกตัวละครมีดีเทล มีอะไรให้น่าค้นหาและน่าติดตามต่อไปมากๆ

ส่วนวิธีการเล่าเรื่องในซีรีส์เรื่องนี้นั้นน่าประทับใจมากๆ มันไม่ใช่แอนิเมชันที่ดราม่าหนัก หรือลุยบู๊พรั่นแบบบ้าคลั่งขนาดนั้น แต่มันคือการหยิบจับทุกอย่างมาผสมผสานกันได้อย่างลงตัวและเล่าออกมาได้ละมุนละม่อมมากๆ แม้จะเป็นเรื่องราวการผจญภัยในอวกาศที่มีจนล้นตลาด แต่! ในซีรีส์เรื่องนี้กลับมีเสน่ห์และกลิ่นอายที่ไม่เหมือนใคร มันสนุกสนาน ลึกซึ้งและชวนฮากับความน่ารักและความตลกแปลกๆ ของเหล่าตัวละครตลอด นอกจากนี้ก็ยังมีการเล่าเรื่องราวเพื่อเสริมพื้นฐานของเรื่องให้แน่นขึ้นด้วยการใช้เทคนิคการเล่าแบบ Comic มาเสริมก็ทำให้ซีรีส์มีมิติ มีชั้นเชิงการเล่าที่ดีมากขึ้น

backdrop-2

ในพาร์ทที่เล่าเรื่องความสัมพันธ์ตัวละครค่อนข้างดีมากเลยทีเดียว ตัวซีรีส์พยายามจะนำเสนอเรื่องราวของครอบครัว การปะทะกันของพ่อแม่และลูกๆ ที่ก็ต้องมีช่วงเวลาที่ขัดแย้ง ไม่เข้ากันใจกันบ้าง ความคิดของแต่ละช่วงวัยที่ไม่ตรงกันที่ก็เป็นปัญหาที่ทุกคนสามารถจะอินตามร่วมกันได้ง่ายๆ และยังมีเนื้อหาโดยรวมที่ไม่ยากนัก เล่าออกมาได้ง่าย เด็กๆ ดูแล้วก็น่าจะสามารถเข้าใจได้ง่ายและสำหรับผู้ใหญ่ที่ได้ดูก็น่าจะอินกับเรื่องราวเหล่านี้ได้ด้วยเช่นกัน

ซึ่งซีรีส์เรื่องนี้ก็ยังมีเผยให้เห็นการเติบโตของเหล่าตัวละครที่ต่างเรียนรู้จากเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้น ทุกตัวมีแง่มุม มีบาดแผลที่ต้องฝ่าฟันมันไปให้ได้ มันมีรายละเอียด มันมีความประณีตอยู่พอสมควรเลยทีเดียวสำหรับแต่ละตัวละคร แอนิเมชันซีรีส์เรื่องนี้มันสามารถส่งพลังบวกกลับออกมาให้แก่ผู้ชมได้จริงๆ มันเป็นความสดใสแบบบริสุทธิ์ที่พอได้ดูแล้วก็สดชื่น อบอุ่นหัวใจอย่างบอกไม่ถูก

backdrop-3

สรุป My Dad the Bounty Hunter (คุณพ่อฉันเป็นนักล่าค่าหัว) แอนิเมชันซีรีส์ดีมีคุณภาพเยี่ยมที่อยากแนะนำให้ดูจริงๆ มันสนุกสนาน ฮาไม่หยุดและยังส่งพลังดีๆ มาเติมเต็มหัวใจได้แบบจุกๆ อีกด้วย ใครที่กำลังมองหาแอนิเมชันแนวอวกาศ บ้าๆ บู๊ๆ ลุยมันส์ กดเปิด Netflix แล้วดูพร้อมกันได้เลย มีพากย์ไทยแล้วด้วยนะ! สำหรับใครที่ดูกันมาแล้วก็มารอติดตามซีซัน 2 กันได้เลย 🎬🚩

avatar
รีวิวโดย Cmbyurfilm
ชอบดูหนังและเชื่อว่าถั่วงอกเป็นสิ่งชั่วร้าย
0 0

8.2 / 10

รายละเอียดคะแนน

circle

คุณภาพด้านการแสดง

8.0 / 10

circle

คุณภาพของบทภาพยนตร์

8.0 / 10

circle

คุณภาพด้านเทคนิคการสร้าง

8.5 / 10

circle

คุณภาพด้านเสียง

8.0 / 10

circle

ความคุ้มค่าเวลาในการรับชม

8.5 / 10

ข้อมูลซีรีส์

แอนิเมชัน|คอเมดี้|ครอบครัว|แอ็กชันแอดเวนเจอร์|

Defending the galaxy is a family affair.

ฉายตอนแรกเมื่อ Feb 9, 2023

ภาษาต้นฉบับ

อังกฤษ

เรต

TV-Y7

ซีซันและตอน

2 ซีซัน 19 ตอน

TMDB

7.6

Rotten Tomatoes

rotten tomatoes 100%
rotten tomatoes 92%

ตัวอย่างซีรีส์

trailer

นักแสดง

profile

Laz Alonso

Terry / Sabo Brok (voice)

profile

Priah Ferguson

Lisa (voice)

profile

JeCobi Swain

Sean (voice)

profile

Jim Rash

The Fixer (voice)

แสดงเพิ่มเติม

0 ความคิดเห็น

คุณต้อง สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ ก่อน เพื่อที่จะสามารถแสดงความคิดเห็นได้