Blonde (2022) ภาพยนตร์ดราม่าชีวประวัติเรื่องใหม่ของ Netflix กำกับและเขียนบทโดย Andrew Dominik ซึ่งดัดแปลงมาจากนวนิยายในชื่อเดียวกันของ Joyce Carol Oates ว่าด้วยเรื่องราวสุดอื้อฉาวของเด็กกำพร้า Norma Jeane (รับบทโดย Ana de Armas) หรือที่ทั้งโลกรู้จักกันในชื่อ Marilyn Monroe เส้นทางสู่ดวงดาวของเธอไม่ใช่เรื่องง่าย หัวใจเธอต้องสลายเป็นพันครั้งเมื่อต้องพลีกายสนองตัณหาให้ชายสุดโสมม

ภาพยนตร์เรื่อง Blonde (2022) นอกจากจะเป็นชีวประวัติของ Marilyn Monroe แล้ว ยังเป็นภาพยนตร์ดราม่าที่น่าหดหู่ใจมากๆ Marilyn เคยเป็นสัญลักษณ์แห่งความร่าเริงสดใส แรงดึงดูดทางเพศ และค่านิยมความสวยช่วงปลายยุค 40’s ถึงต้นยุค 60’s และยังเป็นบุคคลทรงอิทธิพลในวงการฮอลลีวูดอีกด้วย แต่ในความจริงแล้ว เธอมีอีกตัวตนที่เก็บซ่อนเอาไว้ นั่นคือ เด็กหญิง Norma Jeane เด็กน้อยที่มีแม่วิกลจริต เด็กน้อยที่ไม่รู้ว่าพ่อจริงๆ ของเธอคือใคร ตลอดชีวิตของ Norma Jeane เธอไม่เคยได้รับความรักอย่างที่สมควรจะได้ หรือแท้จริงแล้ว…โลกไม่ได้อนุญาตให้เธอมีความสุข

สวัสดีครับผม Chonla3 หลังจากดูภาพยนตร์เรื่อง Blonde (2022) ผมก็มีความคิดว่าหนังความยาวเกือบ 3 ชั่วโมงเรื่องนี้อาจได้รับรางวัลในเวทีออสการ์สักสาขาในปีหน้า ไม่ว่าจะเป็นเนื้อเรื่อง เสียงประกอบ การถ่ายทำ การจัดแสง การแสดง มันดูสมบูรณ์แบบไปหมด จุดแรกที่ผมสังเกตได้คือเทคนิคการถ่ายทำ ภาพยนตร์ส่วนใหญ่มักจะใช้ขนาดภาพและโทนสีแบบเดียวตลอดทั้งเรื่อง แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่เหมือนใคร พวกเขาใช้ขนาดของภาพและโทนสีเพื่อสื่ออารมณ์ของตัวละคร เท่าที่รู้ผมเห็นประมาณ 4 อย่าง หรืออาจจะมากกว่านั้น ได้แก่

• ภาพขาวดำขนาด 4:3
• ภาพสีขนาด 4:3
• ภาพขาวดำขนาด 16:9
• ภาพสีขนาด 16:9
  

ด้วยความรู้ที่ผมพอมีอยู่บ้าง ขนาดหน้าจอและสีมันมีความหมายที่แตกต่างกันตามสถานการณ์ และอย่างที่เรารู้กันว่านางเอกของเรื่องมีสองตัวตน ซึ่งทีมผู้สร้างใช้สีของหนังเพื่อแบ่งแยก Marilyn Monroe และ Norma Jeane ออกจากกัน

ขอเริ่มต้นที่ภาพสีขนาด 4:3 หนังได้เพิ่มแสงและโทนสีพาสเทลเพื่อให้ Norma Jeane ดูโดดเด่นขึ้นมา มันต้องการสื่อถึงมุมมองของ Norma Jeane ที่มีต่อโลก เราจะเห็นภาพแบบนี้เมื่อ Norma Jeane ใช้ชีวิตส่วนตัว หรือทำกิจกรรมอย่างอื่นที่ไม่เกี่ยวกับการแสดง เรียกง่ายๆ คือ ภาพสีขนาด 4:3 เป็นเรื่องราวในมุมมองส่วนตัวของ Norma Jeane อีกอย่างคือ… มันให้อารมณ์ภาพยนตร์สีช่วงปลายยุค 60’s ด้วย

ภาพขาวดำขนาด 4:3 เป็นขนาดภาพของโทรทัศน์มาตรฐานในสมัยนั้น มักจะถูกใช้บ่อยๆ ในช่วงที่ Marilyn Monroe ถ่ายทำภาพยนตร์หรือเปิดตัวออกสื่อ ถือว่าเลือกใช้ได้ดี เพราะสิ่งนี้เป็นภาพจำของผู้คนสมัยนั้นที่มองดาราผ่านหน้าจอโทรทัศน์

ภาพสีขนาด 16:9 เปรียบได้กับมุมมองของคนที่รู้จัก Norma Jeane ภาพแบบนี้ถูกใช้กับตัวละครที่ที่ได้เห็นตัวตนแท้จริงของเธอ เช่น ตัวละครนักเขียนที่ไม่ระบุชื่อของ Adrain Brody ให้อารมณ์ประมาณภาพรวมของเธอในฐานะผู้หญิงธรรมดา

ภาพขาวดำขนาด 16:9 ใช้ในตอนที่ Marilyn อยู่ท่ามกลางคนหมู่มาก มันเหมือนมุมมองจากคนที่จ้องเธออยู่ห่างๆ ด้วยความที่เธอเป็นผู้หญิงในอุดมคติของชายหลายคน ความกว้างของภาพอาจสื่อถึงความปรารถนาและความคาดหวังในตัวเธอจากผู้คนทั่วไป

เรื่องของเสียงก็เก็บรายละเอียดได้ดีมาก เราได้ยินเสียงฝีเท้า เสียงก้องในที่แคบๆ เสียงโทรศัพท์ หรือแม้กระทั่งเสียงลมหายใจ แถมยังมีการเลือกใช้เพลงประกอบจากเพลงที่ Marilyn เคยร้องจริงๆ มาสอดแทรกในแต่ละฉาก โดยได้ Vanessa Lemonides ที่มีน้ำเสียงคล้ายตัวจริง มารับหน้าที่ร้องแทน Ana de Armas

เนื้อเรื่องของ Blonde (2022) เต็มไปด้วยความหดหู่อย่างคาดไม่ถึง จนผมนึกว่ามันเป็นหนังโศกนาฎกรรมมากกว่าชีวะประวัติเสียอีก และยังมีการเปิดเผยทัศนคติเรื่องเพศที่น่าสะอิดสะเอียน ซึ่งนักแสดงสาว Ana de Armas ก็ถ่ายทอดความปวดร้าวของ Norma Jeane ได้อย่างไร้ที่ติ แม้ก่อนหน้าที่หนังจะฉาย มักจะมีเสียงวิจารณ์เกี่ยวกับเชื่อชาติของนักแสดง แต่เธอได้พิสูจน์แล้วว่าสิ่งนั้นไม่เป็นอุปสรรคในการแสดงเลย ต้องขอบคุณความทุ่มเทของ Ana de Armas ที่ยอมเปลือยกายเล่นฉากหวิวในเรื่องนี้ ยังมีหลายสิ่งหลายอย่างให้พูดถึงเกี่ยวกับ Blonde (2022) หากใครได้ชมแล้วก็มาพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดกันได้ที่ช่องคอมเมนท์ ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านรีวิวครับ

สามารถรับชม Blonde (2022) แบบซับไทยและพากย์ไทยได้ที่ Netflix