รีวิว Jurassic World: Fallen Kingdom (2018) ของเผ่าพันธุ์ไดโนเสาร์

เมื่อเอ่ยถึงหนังแฟรนไชส์ไดโนเสาร์อย่าง jurassic world ผู้เขียนเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่ามากกว่า 90% จะต้องรู้จักและเคยรับชมภาพยนตร์เรื่องนี้มาแล้วไม่ต่ำกว่า 1 ภาค ซึ่ง จูราสสิค เวิลด์ อาณาจักรล่มสลาย (2018) เป็นเรื่องราวต่อเนื่องจากสถานการณ์ที่สวนสนุก jurassic world แห่งเกาะอิสลานูบลาได้ถูกยึดครองด้วยไดโนเสาร์ไปหมด จึงทำให้ที่แห่งนี้รกร้างและไร้ซึ่งผู้คนมาตลอดระยะเวลา 3 ปี ซึ่งภาคนี้ยังคงคุณภาพของหนังแฟรนไชส์ที่มีมาหลายปี เรียกว่าได้ลุ้นระทึกและรู้สึกสนุกได้ตั้งแต่ 10 นาทีแรกของการรับชมเลยก็ว่าได้

หนังว่าด้วยความพยายามของ แคลร์ หัวหน้าองค์กรอนุรักษ์ไดโนเสาร์ที่ร่วมมือกับ โอเว่น อดีตเจ้าหน้าที่พิเศษผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับไดโนเสาร์บนเกาะอิสลานูบลา โดยมีคุณเบนจามิน ล็อควูด เศรษฐีและอดีตนักวิทยาศาสตร์ที่เป็นผู้ให้การสนับสนุนการช่วยเหลือเหล่าไดโนเสาร์จากเกาะ ที่กำลังจะมอดไหม้จากการระเบิดของภูเขาไฟ แต่ทว่าภารกิจของทีมช่วยเหลือกลับไม่ราบรื่นนัก เมื่อภายหลังได้ทราบว่าผู้ที่ใกล้ชิดกับคุณเบนจามิน มีเจตนาจะค้าไดโนเสาร์เหล่านั้น เพื่อนำไปพัฒนาเป็นอาวุธที่มีความแข็งแรงและแข็งแกร่งมากที่สุด ฝูงไดโนเสาร์จะรอดจากการระเบิดของภูเขาไฟได้หรือไม่ แล้วแคลร์กับโอเว่นจะทำอย่างไร ต้องติดตามใน จูราสสิค เวิลด์ อาณาจักรล่มสลาย (2018)

จูราสสิค เวิลด์ อาณาจักรล่มสลาย (2018) ถือเป็นหนังในดวงใจสำหรับคนที่ชื่นชอบและรักในไดโนเสาร์มากเป็นพิเศษ เพราะในเรื่องจะมีการใช้เทคนิคพิเศษในการถ่ายทำ เพื่อทำให้ผู้ชมได้เห็นถึงขนาดของไดโนเสาร์ที่ใหญ่โตอลังการ นอกจากนี้ยังมีความสมจริงทั้งการเคลื่อนไหว การขยับเขยื้อนใบหน้าและกล้ามเนื้อในบริเวณต่างๆ อย่างชัดเจน ซึ่งถือเป็นการใส่รายละเอียดให้กับไดโนเสาร์ที่สมบูรณ์แบบ จนนักวิจารณ์หนังและคอหนังไดโนเสาร์ได้ออกมาชื่นชม และบอกว่านี่คือการพัฒนาการอีกขั้นของภาพยนตร์ที่เกี่ยวกับสัตว์ดึกดำบรรพ์ที่สมจริงมากๆ backdrop-0

นอกจากนี้ใน จูราสสิค เวิลด์ อาณาจักรล่มสลาย (2018) ยังคงความคลาสสิคในเรื่องของความตื่นเต้น การลุ้นระทึกในฉากต่างๆ ที่ทีมงานและผู้กำกับพยายามสร้างเข้ามาในหนังอย่างตั้งใจ ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก เพราะในแต่ละครั้งที่เกิดการหลีกหนีไดโนเสาร์หรือจะต้องเข้าไปใกล้ชิดกัน ต่างก็ทำให้คนดูรู้สึกหายใจหายคอแทบไม่ทัน หรือต้องกลั้นหายใจกันเลยทีเดียว เพราะกลัวการได้ปะทะกับสัตว์ที่ใหญ่ที่สุดในอดีตเท่าที่โลกของเราเคยมีมา

ส่วนสิ่งที่ค่อนข้างสะเทือนใจ จนทำให้ผู้เขียนรู้สึกเศร้าและสงสารไดโนเสาร์มากๆ คงจะหนีไม่พ้นฉากที่เรือเคลื่อนย้ายสัตว์ได้ค่อยๆ ถอยห่างออกมาจากเกาะ แต่หนังยังคงฉายให้เราเห็นการหนีเอาตัวรอดของสัตว์ใหญ่ ที่จะทำให้เราเสียน้ำตาให้กับฉากนี้ได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องมีบทสนทนาใดๆ เลยแม้แต่น้อย backdrop-1

ซึ่งทั้งหมดของความสนุกและความลุ้นระทึกที่มีอยู่ในหนังเรื่องนี้ ทำให้ตลอดระยะเวลาของการรับชมหนังไม่น่าเบื่อเลย และผู้เขียนก็รู้สึกอยากให้มันฉายไปเรื่อยๆ นานๆ เพราะมันดีต่อใจมากๆ ทั้งตัวละครที่มีอยู่ในเรื่อง ทั้งเหล่าไดโนเสาร์ที่ดูเหมือนมีชีวิตจริงๆ และการดำเนินเรื่องที่ทำให้เราอยากติดตามตลอดเวลา จึงไม่แปลกใจเลยที่ใครๆ ต่างก็ตั้งตารอให้ จูราสสิค เวิลด์ อาณาจักรล่มสลาย (2018) ออกฉายโดยเร็วที่สุด

avatar
รีวิวโดย Chomnapa
0 0

9.7 / 10

รายละเอียดคะแนน

circle

คุณภาพด้านการแสดง

9.0 / 10

circle

คุณภาพของบทภาพยนตร์

10.0 / 10

circle

คุณภาพด้านเทคนิคการสร้าง

10.0 / 10

circle

คุณภาพด้านเสียง

9.5 / 10

circle

ความคุ้มค่าเวลาในการรับชม

10.0 / 10

ข้อมูลภาพยนตร์

แอ็กชัน|แอดเวนเจอร์|ไซไฟ|ระทึกขวัญ|

The park is gone.

PG-13

129

นาที

Michael Crichton

ตัวละคร

J. A. Bayona

ผู้กำกับ

Colin Trevorrow

นักเขียน

แสดงเพิ่มเติม

ภาษาต้นฉบับ

อังกฤษ

ทุนการสร้าง

$170,000,000

รายได้

$1,310,466,296

IMDB

6.1

TMDB

6.5

0 ความคิดเห็น

คุณต้อง สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ ก่อน เพื่อที่จะสามารถแสดงความคิดเห็นได้