Disney มีความภาคภูมิใจมาอย่างยาวนานในการมอบประสบการณ์และเนื้อหาสำหรับทั้งครอบครัว แต่สิ่งนี้ก็เริ่มเปลี่ยนไปเมื่อแคมเปญการตลาดในเชิงรุกภายใต้การแนะนำของ Bob Iger ด้วยการใช้สตรีมมิง Hulu ที่ได้ให้ทุนสนับสนุนเนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่อย่าง Pam & Tommy และ The Kardashians อย่างไรก็ตาม เขายังคงให้ความสำคัญกับเนื้อหาที่เป็นมิตรกับครอบครัวอยู่ดี แต่เมื่อผู้สืบทอดตำแหน่งของเขาอย่าง Bob Chapek ได้เข้ามา ดูเหมือนว่าเป้าหมายด้านเนื้อหาก็เริ่มเปลี่ยนไป

ในบทความใหม่ของ Wall Street Journal ทางด้าน Bob Chapek ยอมรับว่าเขาได้เปิดรับแนวคิดและการสร้างเนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่ใน Disney+ หากเป็นสิ่งที่ผู้ชมต้องการจากบริการนี้ เขากล่าวว่า:

ผมอยากให้เกียรติแบรนด์นี้ แต่ในขณะเดียวกัน ผมก็รู้ว่าความเข้าใจเกี่ยวกับ Disney ของเรา มันอาจจะมีค่ามากกว่าผู้บริโภคเกินไป

เมื่อฐานของผู้บริโภคมีความยืดหยุ่นมากขึ้น เราอาจจะต้องรับฟังผู้ชมของเรามากขึ้น ซึ่งหมายความว่าเรามีระดับของเสรีภาพมากกว่าที่เราคิด

Disney+ เปิดตัวแรกๆ อย่างเคร่งครัดด้วยภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์ที่เหมาะสำหรับครอบครัว แต่เมื่อเวลาผ่านไป แพลตฟอร์มนี้ก็เริ่มที่จะเพิ่มรายการเรต R และรายการ TV-MA เข้ามา อย่างในกรณีของซีรีส์ในจักรวาล DefendersVerse ที่มีเนื้อหารุนแรงอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นซีรีส์ The Punisher และ Jessica Jones และในขณะเดียวกันภาพยนตร์อย่าง Deadpool ทั้งสองภาค และ Logan (2017) ก็ถูกเพิ่มเข้ามาอย่างเด่นชัดและพร้อมให้สตรีมอยู่ในขณะนี้

ในขณะที่ Disney+ ส่วนใหญ่ยังคงเป็นเรต PG-13 หรือเบากว่านี้ แต่กลุ่มผู้ปกครองต่างก็พยายามโจมตีในส่วนดังกล่าว โดยได้ตำหนิความเป็นผู้นำของแพลตฟอร์มที่ได้ผิดสัญญาในตอนแรกที่สร้างสตรีมมิง

จนถึงปัจจุบัน ภาพยนตร์เรื่องเดียวใน Marvel Cinematic Universe (MCU) ที่ได้รับการยืนยันให้มีการจัดเรต R ก็คือ Deadpool 3 ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการเขียนบท และจะเปิดตัวในปลายเดือนพฤศจิกายน 2024 และด้วยเหตุนี้ ก็เป็นไปได้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกที่มีการจัดเรตสำหรับผู้ใหญ่ของ Marvel Studios