ย้อนกลับไปในภาพยนตร์ Zombieland ในปี 2009 ได้มีการปรากฎตัวของนักแสดงในตำนานอย่าง Bill Murray ที่โผล่ออกมาในฐานะดารารับเชิญ และก็ถูกฆ่าทิ้งแบบดื้อๆ จนกลายเป็นฉากในตำนานไปโดยปริยาย ล่าสุดหนึ่งในผู้เขียนบทของภาพยนตร์เรื่องนี้อย่าง Rhett Reese ได้ออกมาเปิดเผยว่า เดิมทีแล้วนักแสดงที่เขาอยากให้มารับบทนี้คือ Joe Pesci

การปรากฎตัวของ Bill Murray ใน Zombieland ได้ช่วยสร้างชื่อเสียงให้กับ Murray อย่างมากในช่วงปี 2010 เขาได้กลายเป็นมีมบนโลกออนไลน์จากการปรากฎตัวในครั้งนี้ ซึ่งภายหลัง Rhett Reese หนึ่งในมือเขียนบทของภาพยนตร์เรื่องนี้ ได้ออกมาเปิดเผยว่า Murray ไม่ได้อยู่ในความคิดของเขาเลย ซึ่งมีนักแสดงอีกหลายคนที่เขาหมายตา เช่น Patrick Swayze นักแสดงผู้โด่งดังจาก Dirty Dancing (1987), Road House (1989), Ghost (1990) และ Point Break (1991) ทว่าเขาไม่สามารถมาแสดงได้เนื่องจากปัญหาในด้านสุขภาพ และท้ายที่สุดเขาก็ได้เสียชีวิตลงด้วยวัย 57 ปี ในเดือนกันยายนปี 2009 ซึ่งเป็นเดือนเดียวกันกับที่ภาพยนตร์ Zombieland เปิดตัวในโรงภาพยนตร์

นอกจาก Patrick Swayze แล้วนั้น ยังมีนักแสดงในตำนานอีกหลายคนที่ Rhett Reese อยากนำมายำเละเหมือนที่เขาทำกับ Bill Murray ซึ่งนักแสดงที่เขาสนใจ ได้แก่ Jean-Claude Van Damme จาก Bloodsport (1988), Sylvester Stallone พระเอกชื่อดังจากแฟรนไชส์ Rocky และ Rambo, Dwayne Johnson หรือ The Rock, Kevin Bacon จาก Hollow Man (2000) และคนสุดท้ายคือ Mark Hamill นักแสดงเจ้าของบทบาท Luke Skywalker แห่งแฟรนไชส์ Star Wars แต่ดูเหมือนว่ามีนักแสดงอีกหนึ่งคนที่ Reese คิดไว้ในตอนแรกแต่เขาดันทำหลุดมือไป นักแสดงคนนั้นคือ Joe Pesci นักแสดงมากฝีมือจาก GoodFellas (1990), My Cousin Vinny (1992), Casino (1995) และ The Irishman (2019)

Rhett Reese มือเขียนบทสุดเกรียนจาก Zombieland และเป็นผู้อยู่เบื้องหลังบทสุดห่ามฮาในแฟรนไชส์ Deadpool ล่าสุดเขาได้ใช้บัญชี Twitter ส่วนตัวของเขาออกมาเปิดเผยถึงนักแสดงคนแรกที่เขาอยากให้มารับบทของ Bill Murray โดยเขาได้ทวีตไว้ว่า

เราต้องการ Joe Pesci สำหรับบทที่กลายเป็นของ Bill Murray ใน Zombieland เราเตือนตัวแทนของ Pesci ว่ามันเป็นแค่ฉากเล็กๆ [ในเรื่อง] แต่เขากล่าวว่า ‘ไม่มีฉากเล็กๆ อะไรทั้งนั้น มีแต่เงิน [ค่าจ้าง] ที่น้อยเกินไป’ คำตอบคือไม่

ในภาพยนตร์ Zombieland นักแสดงในตำนานอย่าง Bill Murray ได้รับบทเป็นตัวของเขาเองซึ่งเป็นนักแสดงชื่อดัง เขาปรากฎตัวมาในเวอร์ชันล้อเลียนตัวเอง โดยการเดินไปรอบๆ คฤหาสน์ขนาดยักษ์ของเขา พร้อมกับการแต่งหน้าตัวเองเป็นซอมบี้ด้วยความคิดที่ว่า เมื่อเขาเจอซอมบี้เขาจะได้ไม่ถูกกัด หรือง่ายๆ ก็คือ ปลอมตัวเป็นซอมบี้นั่นเอง ซึ่งมันดูเหมือนจะเป็นแผนการที่ดี [หรอ?] แต่สิ่งที่เขาไม่ได้คำนึงถึงก็คือ “Human Error” หรือ “ความผิดพลาดของมนุษย์” เพราะท้ายที่สุดแล้ว พระเอกของเรื่องอย่าง Columbus (รับบทโดย Jesse Eisenberg) ได้เดินเข้ามาในปราสาทพร้อมกับสาดกระสุนใส่ Bill Murray เพราะคิดว่าเขาเป็นซอมบี้จริงๆ ซึ่งก็แค่นั้นเลย เขาโผล่มาเพียงไม่นานและก็ถูกสังหารไปเพราะความเข้าใจผิด ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ฉากนี้กลายเป็นอีกหนึ่งฉากสำคัญที่ผู้ชมทั่วโลกจำกันได้เป็นอย่างดี

Zombieland มีงบประมาณการสร้างที่ต่ำ ซึ่งน้อยกว่า 25 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่กลับได้รับความนิยมจนสามารถกวาดรายได้บนบ็อกซ์ออฟฟิศทั่วโลกไปมากถึง 102 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ยังสร้างรายได้มหาศาลจากตลาดโฮมวิดีโอและเช่าวิดีโอ ซึ่งในปี 2010 ยังคงเป็นสิ่งที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ต่างจากในปัจจุบันที่ตลาดโฮมวิดีโอได้ล้มหายตายจากไป หลังจากการมาถึงของผู้ให้บริการสตรีมมิง ภาพยนตร์เรื่องนี้ถือว่าได้รับความนิยมในทันที แต่กระแสก็อยู่ไม่นานมากนัก และได้จางหายไปหลังจากนั้นไม่นาน อย่างไรก็ตาม แฟนๆ ของ Zombieland ต่างตั้งความหวังและออกมาเรียกร้องของภาคต่อของภาพยนตร์เรื่องนี้ แต่เมื่อ The Hangover Part III ไม่ประสบความสำเร็จในบ็อกซ์ออฟฟิศในปี 2013 ส่งผลให้ภาคต่อของ Zombieland ไม่ได้เกิดขึ้น ทว่าในท้ายที่สุดภาคต่อของเรื่องนี้ก็ได้เกิดขึ้นจริงๆ ในปี 2019 ซึ่งกลับมาพร้อมกับชื่อภาคว่า Zombieland: Double Tap โดยสามารถทำได้ดีในระดับเดียวกันกับภาคแรก ด้วยการกวาดรายได้ทั่วโลกไปทั้งสิ้น 122 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากงบประมาณการสร้างราวๆ 40 ถึง 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ