สาเหตุที่ภาพยนตร์และซีรีส์ที่ดัดแปลงจากวิดีโอเกมมักสร้างออกมาแย่

การดัดแปลงวิดีโอเกมเป็นหนังและซีรีส์เปรียบได้กับการเข็นครกขึ้นภูเขาที่บ่อยครั้งฮอลลีวูดมักล้มเหลวไม่เป็นท่า ว่าแต่เพราะเหตุใด การสร้างงานดัดแปลงจากวิดีโอเกมถึงได้ยากเย็นแสนเข็ญนัก?

Video-Game-Adaptations-Ugly-Sonic-and-The-Weapon-2

ความใฝ่ฝันของเหล่าเกมเมอร์ที่จะได้เห็นวิดีโอเกมโปรดได้รับการดัดแปลงเป็นภาพยนตร์และซีรีส์ทางโทรทัศน์มีมานับตั้งแต่สื่อทั้ง 3 ชนิดถือกำเนิดขึ้น และดูเหมือนฮอลลีวูดกำลังพยายามรวบรวมเกมมาเป็นวัตถุดิบสร้างงานให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เรื่องที่สร้างดัดแปลงจากวิดีโอเกมได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนแทบไม่ต่างจากการ์ตูนคอมิก แต่กระนั้นหลายเรื่องก็ล้มเหลวในการถ่ายทอดความดีงามที่เกมต้นฉบับมีตั้งแต่แรก

เมื่อไม่นานมานี้ Sony เพิ่งประกาศว่าจะสร้างซีรีส์จากเกม Horizon Zero Down ฉายทาง Netflix ซีรีส์จากเกม God of War ฉายทาง Amazon Prime และหนังจากเกม Gran Turismo ซึ่งจะมี Neill Blomkamp เป็นผู้กำกับ ที่ผ่านมาข่าวประกาศซึ่งควรเป็นเรื่องให้แฟนเกมได้ตื่นเต้นมักกลับกลายเป็นนิทานสอนใจให้พึงหลีกเลี่ยงการสร้างงานดัดแปลงจากวิดีโอเกม อันเนื่องมาจากเสียงตอบรับในแง่ลบที่ผลงานเรื่องก่อน ๆ ทิ้งเอาไว้ ถึงแม้นาน ๆ ทีจะมีเพชรน้ำดีอย่างหนัง Sonic the Hedgehog (2020) แต่มันก็ถูกบดบังไว้ภายใต้กองหนังห่วยอย่าง Super Mario Bros. (1993) หลายสิบเรื่อง

ugly-sonic

การตัดสินใจที่ชวนให้เกาหัวแกรก ๆ เกี่ยวกับการสร้างสรรค์งานดัดแปลงจากวิดีโอเกมต่าง ๆ ทำให้เกิดข้อสงสัยว่า หนังและซีรีส์เหล่านี้ทำขึ้นมาให้ใครดูกันแน่ ตัวอย่างที่เห็นเด่นชัดที่สุดคือดีไซน์สุดอุบาทว์ของโซนิก เม่นสายฟ้า ในตัวอย่างดั้งเดิมของภาพยนตร์ Sonic the Hedgehog ซึ่งนอกจากจะไม่เคารพดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ของตัวละครต้นฉบับแล้ว ยังดูน่าเกลียดเสียจนแฟน ๆ ประณามก่นด่าทั่วโลกออนไลน์ จนทางค่ายต้องยอมเปลี่ยนดีไซน์ในที่สุด การออกแบบโซนิกให้มีฟันแบบมนุษย์และสัดส่วนร่างกายสมจริงนับว่าเป็นข้อผิดพลาดใหญ่หลวงที่ไม่มีใครต้องการให้เกิด ต้องขอบคุณพลังของแฟน ๆ ที่ทำให้หนังของโซนิกเรื่องนี้เป็นภาพยนตร์สร้างดัดแปลงจากวิดีโอเกมที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา

ตัวอย่างสำคัญอีกกรณีคือซีรีส์ Halo (2022) ของค่าย Paramount ซึ่งนำเกมยิงแบบมุมมองบุคคลที่ 1 ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในประวัติศาสตร์มาเปลี่ยนแปลงช่วงเวลาจนกลายเป็นเรื่องไซไฟดาด ๆ ที่มีเรื่องน่าสงสัยเต็มไปหมด บาปร้ายแรงของซีซันนี้คือการโชว์หน้าตาของหัวหน้าใหญ่ตลอดทั้งซีซัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ในเกมไม่เคยเปิดเผยเลยสักครั้ง การที่หัวหน้าใหญ่เวอร์ชันซีรีส์ถอดหมวกเกราะออกครั้งแล้วครั้งเล่าขัดกับประเด็นในเกมที่อธิบายไว้แต่ต้นถึงสาเหตุที่ตัวละครนี้ไม่เคยเผยหน้าตาให้ใครเห็น และมีแค่ผู้ชมที่ไม่เคยเล่น Halo หรือสนใจในตัวเกมเพียงน้อยนิดเท่านั้นที่รู้สึกพอใจเมื่อได้เห็นหน้าตาแท้จริงของหัวหน้าใหญ่

Halo_Master-Chief-1

การบิดผันเนื้อเรื่องเช่นนี้เป็นหลักฐานยืนยันว่า ส่วนใหญ่แล้วผู้สร้างงานที่ดัดแปลงจากวิดีโอเกมไม่เข้าใจว่า อะไรที่ทำให้ตัวเกมต้นฉบับเป็นที่ชื่นชอบของแฟน ๆ ตั้งแต่แรก ในกรณีของ Sonic สิ่งที่แฟน ๆ ชอบคือโลกการ์ตูนสีสันสดใสและแอ็กชันความเร็วสูง ไม่ใช่ตัวละครสัตว์รูปร่างหน้าตาสมจริงเที่ยวผูกมิตรไปมากับมนุษย์เป็นโขยงในโลกยุคปัจจุบัน สำหรับ Uncharted (2022) มันคือเสน่ห์และปฏิสัมพันธ์ต่อกันของนักล่าสมบัติมากประสบการณ์เหล่านี้ ไม่ใช่นักแสดงที่แคสต์บทมาผิดฝาผิดตัวสุด ๆ ไม่พอ ยังมัวแต่ห่วงมาดเท่ ๆ มากกว่าจะสนใจสร้างความผูกพันระหว่างกัน ถึงแม้ 2 เรื่องที่ว่ามานี้จะมีบางอย่างที่ทำได้ตรงตามแฟรนไชส์ต้นฉบับ ทว่าในภาพรวมก็เข้าไม่ถึงเสน่ห์ดึงดูดแท้จริงของวิดีโอเกมเหล่านี้อยู่ดี

การดัดแปลงวิดีโอเกมให้เป็นภาพยนตร์หรือซีรีส์นับว่าเป็นการแปลรูปแบบหนึ่ง และปัญหาอีกประการที่เกิดขึ้นเป็นประจำคือ เกมหลายเกมไม่เหมาะที่จะนำไปสร้างดัดแปลงเป็นสื่อชนิดอื่น ภาพยนตร์และซีรีส์โทรทัศน์เป็นกิจกรรมที่เน้นการเล่าเรื่องโดยมีผู้เสพเป็นผู้รับสารเพียงอย่างเดียว ไม่ต้องการการมีส่วนร่วมใด ๆ ในขณะที่เกมหลายเกมประสบความสำเร็จเพราะการมีส่วนร่วมจากผู้เล่นล้วน ๆ Gran Turismo เป็นแฟรนไชส์วิดีโอเกมที่มีรากฐานจากความปรารถนาเรียบง่ายในการขับรถจริง ๆ ในพื้นที่เสมือน แต่ถ้าหนัง Gran Turismo ที่มีโครงการสร้างในอนาคตไม่ได้ทำให้ผู้ชมมีส่วนร่วมในการขับรถจริง ๆ การสร้างดัดแปลงครั้งนี้ก็ถือว่าไม่ตอบโจทย์วัตถุประสงค์โดยสิ้นเชิง

uncharted-movie-a

Uncharted เป็นแฟรนไชส์เกมที่ประสบความสำเร็จเพราะยินยอมให้ผู้เล่นออกผจญภัยในสไตล์ Indiana Jones ในรูปแบบของตัวเอง ทว่าพอสร้างดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ มันก็กลายเป็นแค่หนังเลียนแบบ Indiana Jones อีกเรื่องหนึ่งเท่านั้น การให้ผู้เสพสื่อมีส่วนร่วมคือปัจจัยที่ก่อให้เกิดความแตกต่างสำคัญ อย่างไรก็ตาม Horizon Zero Dawn และ God of War ต่างก็เป็นวิดีโอเกมที่เน้นเนื้อเรื่องเป็นหลัก ดังนั้นมีโอกาสอย่างมากที่พอดัดแปลงเป็นซีรีส์โทรทัศน์แล้วจะไปได้สวย ผู้มีความคิดสร้างสรรค์ในระดับที่เหมาะสมสามารถประสบความสำเร็จในการสร้างงานดัดแปลงจากวิดีโอเกมได้ ขอเพียงหาจังหวะเหมาะ ๆ และใส่ใจมากพอ

ไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่เกมซึ่งสร้างดัดแปลงจากภาพยนตร์และการ์ตูนคอมิกจะทำออกมาได้ดีกว่าภาพยนตร์และซีรีส์ที่สร้างดัดแปลงจากเกม วิดีโอเกมคือหนึ่งในงานศิลป์ไม่กี่รูปแบบที่ผสมผสานงานเขียน ดนตรี และรูปภาพเข้าด้วยกันกับการมีส่วนร่วม ซึ่งเป็นการยกระดับให้ขึ้นมาเหนือกว่าสื่อที่เสพด้วยการฟังและการมองเท่านั้น การขาดความเคารพในเกมต้นฉบับและความมีส่วนร่วมคือปัจจัยที่ทำให้ภาพยนตร์และซีรีส์ที่สร้างดัดแปลงจากเกมประสบความล้มเหลว เราก็คงได้แต่หวังว่า วงการอุตสาหกรรมหนังและซีรีส์จะเรียนรู้จากข้อผิดพลาดของตัวเอง

ที่มา: CBR
PoomNamvol
นักอักษรศาสตร์มือรองบ่อน ผู้สนุกกับการรีวิวสื่อบันเทิงประเภทต่าง ๆ ด้วยไพ่ทาโรต์ในเพจ Facebook: ไพ่เราเผาเรื่อง
0 ความคิดเห็น

คุณต้อง สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ ก่อน เพื่อที่จะสามารถแสดงความคิดเห็นได้

poster
Sonic the Hedgehog

โซนิค เดอะ เฮดจ์ฮ็อก

Feb 12, 2020

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวจัดอันดับ

ประจำเดือนนี้