อาจจะเป็นที่ทราบกันดีไม่มากก็น้อยว่า Flash Gordon (1936) เป็นแรงบันดาลใจให้ George Lucas ได้เนรมิตสร้างสรรค์เรื่องราวแห่งสงครามอวกาศอย่าง Star Wars แต่ว่าอิทธิพลเบื้องหลังของภาพยนตร์อีกเรื่องของเขาอย่าง Indiana Jones นั้นก็ค่อนข้างจะมีความคลุมเครืออยู่ไม่น้อย

Raiders of the Lost Ark (1981) ซึ่งเป็นภาคแรกในแฟรนไชส์ Indiana Jones ประสบความสำเร็จอย่างมากกับผู้ชมและนักวิจารณ์ เพราะเต็มไปด้วยฉากแอ็กชันที่น่าตื่นเต้นและมีชีวิตชีวาที่เกิดขึ้นในภาพยนตร์ ซึ่งก็ไม่ใช่เฉพาะในแฟรนส?ไชส์อย่าง James Bond เท่านั้นที่ผู้ชมจะได้เห็นการแสดงผาดโผนที่ท้าทาย ความซับซ้อน และเต็มไปด้วยจินตนาการ และทางด้านผู้กำกับ Steven Spielberg ก็ปรับปรุงให้พวกเขาด้วยการมีจังหวะที่แปลกใหม่และมีความปราดเปรียวอย่างที่ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นกับโรงภาพยนตร์ในขณะนั้น

ตั้งแต่ฉากไล่ล่าที่ต้องวิ่งหนีก้อนหินขาดยักษ์ไปจนถึงการต่อสู้ข้างเครื่องบินที่ยุ่งเหยิง ผู้ชมรุ่นเยาว์ต่างก็รู้สึกชื่นชอบเป็นอย่างยิ่งกับอันตรายที่ Jones (รับบทโดย Harrison Ford) ต้องเข้ามาเผชิญอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่สำหรับผู้ชมที่อายุมากกว่า ฉากแอ็กชันบางส่วน และจุดเด่นอื่นๆ อีกหลายอย่าง ของแฟรนไชส์ Indiana Jones นี้ จะถูกจดจำได้อย่างรวดเร็วหรือถูกมองว่าเป็นการลอกเลียนแบบในทันที

สำหรับใครก็ตามที่เติบโตทันภาพยนตร์และซีรีส์เรื่อง Matinée ในยุค 30s และ 40s ซึ่งหากยึดหลักของรูปแบบภาพยนตร์ Indiana Jones ก็จะรู้สึกคุ้นเคยเป็นอย่างยิ่ง ผู้สร้าง George Lucas เองก็เป็นส่วนหนึ่งของผู้ชมกลุ่มนั้น โดยได้ชมภาพยนตร์ที่ออกฉายใหม่เหล่านี้ในช่วงทศวรรษที่ 50s และเช่นเดียวกับ Star Wars ในที่รับแรงบันดาลใจก่อนหน้านั้น ซีรีส์ Indiana Jones จึงได้กลายเป็นการผสมผสานจุดเด่นของภาพยนตร์ที่เขาชื่นชอบในขณะที่เขาเติบโตขึ้น เช่นเดียวกับ Flash Gordon และเรื่องราวอื่นๆ ที่นำไปสู่ Star Wars ในส่วนของ Indiana Jones จึงถือกำเนิดมาจากแรงบันดาลใจจากซีรีส์ของ Zorro เช่น Zorro’s Fighting Legion (1939) และ Zorro Rides Again (1937) เช่นเดียวกับการผจญภัยในสงครามโลกครั้งที่สองของ Spy Smasher (1942) นอกจากนี้ ความรักของ Lucas และ Spielberg ที่มีต่อภาพยนตร์ของ Alan Ladd และ Charlton Heston ก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ามีอิทธิพลเป็นอย่างมาก

อีกเบาะแสหนึ่งที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดของจากอิทธิพลเหล่านี้ ก็อยู่ในรูปแบบของเครื่องแต่งกายและอาวุธของ Indy ไม่ว่าจะเป็นหมวกที่เป็นเอกลักษณ์ แจ็กเก็ตหนัง สีกากี แส้วัว และปืนลูกโม่ .45 ก็ล้วนมาจากการยึดถือในรูปแบบของภาพยนตร์ผจญภัยที่แปลกใหม่ซึ่งเกิดขึ้นในหลายทศวรรษก่อนที่ Raiders of the Lost Ark จะเกิดขึ้น และเชื่อว่า “ลุคของอินเดียน่า โจนส์” ที่โด่งดังในตอนนี้ ก็น่าจะเป็นสิ่งที่ฝังแน่นในจิตใจของ Spielberg และ Lucas ในวัยหนุ่ม ที่ได้สร้างสรรค์ตัวละครในฐานะการปรากฏตัวของนักผจญภัยตามแบบต้นฉบับก่อนหน้า

รูปลักษณ์นี้ปรากฏชัดที่สุดในภาพยนตร์ผจญภัย ซึ่งเป็นในหนังจีนเกรดบี ในปี 1943 ที่นักแสดง Alan Ladd รับบทบาทชื่อ Jones ไม่เพียงแต่พิสูจน์ให้เห็นว่าเป็นชื่อเดียวกับ Indy เท่านั้น แต่เขายังสวมชุดที่เหมือนกันกับ Harrison Ford พร้อมด้วยแจ็กเก็ตเก่าๆ และหมวกทรงเฟดอร่าอันโด่งดัง อีกทั้ง Charlton Heston ยังเคยสวมบทบาทของ Harry Steel ผู้เป็นนักล่าสมบัติที่ค้นหามาชูปิกชูเพื่อหาสิ่งประดิษฐ์ของชาวอินคาโบราณในภาพยนตร์ปี 1954 เรื่อง Secret of the Incas แฟนหนังมักสังเกตเห็นว่าสิ่งหลังนี้มีอิทธิพลมากที่สุดให้กับ Indiana Jones และ Deborah Nadoolman Landis ผู้ออกแบบเครื่องแต่งกายของภาค Raiders ก็ยอมรับเช่นกัน

ตามที่ Landis กล่าวว่า Raiders เป็นภาพยนตร์รีเมคแบบฉากต่อฉากจากภาพยนตร์ของ Heston ซึ่งเธอและทีมงาน Raiders ก็ได้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้หลายรอบเพื่อหาแรงบันดาลใจ นอกเหนือจากการออกแบบเครื่องแต่งกายแล้ว Secret of the Incas ยังมีความคล้ายคลึงที่โดดเด่นอื่นๆ กับ Raiders ในแง่ของโครงเรื่อง ตัวละคร และฉาก ตัวอย่างเช่น ตัวเอกเป็นนักโบราณคดีที่กล้าหาญแต่บกพร่องในการแสวงหาโชคลาภและความรุ่งโรจน์ ระหว่างทางเขาถูกผู้ช่วยที่เห็นแก่ตัว เขาได้พบกับนักโบราณคดีที่อยู่ข้างหน้า และใช้ห้องแผนที่เพื่อเปิดเผยความลับผ่านแสง นอกจากนี้ Steele ยังล่องแพในแม่น้ำและได้มอบสิ่งประดิษฐ์ดังกล่าวให้ชาวพื้นเมืองในท้ายที่สุด ลำดับเหตุการณ์ที่คล้ายคลึงกันก็ปรากฏใน Indiana Jones and the Temple of Doom (1984) แม้ว่าฉากแพในแม่น้ำจะเขียนขึ้นเป็นครั้งแรกสำหรับภาพยนตร์เรื่องแรกก็ตาม

ก่อนหน้า Secret of the Incas ยังมีซีรีส์หลายเรื่องที่สร้างโดย Republic Pictures ซึ่งท้ายที่สุดก็มีบทบาทสำคัญในการแสดงผาดโผนของ Indiana Jones ส่วนภาพยนตร์เรื่อง Zorro’s Fighting Legion นำเสนอซีเควนซ์ที่ตัวเอกควงแส้วัวเพื่อดึงตัวลงมาจากรถม้าและถูกลากไปข้างหลังเกวียนก่อนที่เขาจะปีนกลับขึ้นไปและเข้าหาคนขับ ฉากต่างๆ สะท้อนภาพในห้องขังใน Temple of Doom ซึ่ง Zorro (รับบทโดย Reed Hadley) ติดอยู่ระหว่างกำแพงที่ปิดช้าๆ ไม่ว่าจะเป็นการลอกเลียนแบบหรือการแสดงความรัก ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า Spielberg และ Lucas กำลังสร้างซีเควนซ์เหล่านี้ใหม่ด้วยไดนามิกและพลังงานที่สดใหม่กว่า และทำให้ผู้ชมภาพยนตร์อายุน้อยมีความประทับใจ ซึ่งกับผู้สร้างภาพยนตร์ในอดีตก็ได้เคยทำให้พวกเขาประทับใจเช่นเดียวกัน