สำหรับเรื่องนี้คือดีเกินที่คาดหมายไว้พอสมควร เพราะตอนแรกคิดว่าจะมาแนวใสๆ แบ๊วๆ เน้นขายความน่ารักฉบับบาร์บี้ แต่พอเราได้ดูจริงๆ ตัวหนังมันมีอะไรมากกว่านั้น ตัวหนังมีทั้งการเสียดสีสังคมและหยิบจับประเด็นเรื่องการหาตัวตนมาเล่นได้อย่างแยบยล หนังเปิดด้วยโลกสุดน่ารักสดใสสีชมพูในบาร์บี้แลนด์ โลกที่สาวๆ เป็นใหญ่และทำทุกอย่างได้ตามต้องการ ในขณะเดียวกันในโลกแห่งนี้ผู้ชายอย่างเหล่า Ken ก็ต้องกลายเป็นเพศที่อ่อนแอยิ่งกว่าสาวๆ มันเป็นความต่างกันแบบสุดขั้วของโลก 2 ใบที่ทำให้เราได้เห็นชัดๆ เลยว่าไม่ว่าจะเป็นโลกที่ชายเป็นใหญ่หรือผู้หญิงเป็นใหญ่ มันก็ต่างมีข้อเสียกันทั้งคู่ ดังนั้น โลกที่ทุกคนเท่าเทียมกัน เคารพซึ่งกันและกัน ให้เกียรต์กันคงจะเป็นโลกที่สมบูรณ์กว่า
จากนั้นหนังก็ตัดให้เราไปยังโลกแห่งความจริง โลกที่ผู้ชายเป็นใหญ่มาตลอดตามประวัติศาสตร์ แถมฉลาดที่เลือกให้ทั้ง Barbie และ Ken มาโลกแห่งความจริงด้วยกัน เราเลยได้เห็นพัฒนาการของทั้งคู่ Barbie ที่ชีวิตเพอร์เฟคมาตลอดก็เริ่มได้เห็นความจริง ว่าโลกมันไม่ได้สวยงามขนาดนั้นและเริ่มมีความฝันที่อยากมีชีวิตเป็นของตัวเอง ในด้านของ Ken ที่ทั้งชีวิตคือต้องตามติด Barbie และยอมเธอมาตลอด พอได้เห็นความจริงว่าผู้ชายเป็นอะไรได้มากกว่านั้น เขาจึงกลับไปเปลี่ยนบาร์บี้แลนด์ให้กลายเป็นโลกของชายชาตรี หนังปิดท้ายตอนจบด้วยการที่บาร์บี้เข้าใจความเป็นมนุษย์มากขึ้น แม้ตัวหนังจะมีความเป็นเฟมินีสต์สูง แต่ก็ไม่ได้สุดโต่งขนาดนั้น เพราะประโยคท้ายสุดบาร์บี้ได้บอกเองว่า โลกนี้เป็นของทุกคน ไม่ว่าชายหรือหญิง พร้อมบอก Ken ว่าผู้ชายเองก็อ่อนแอและร้องให้ได้
มันเป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นเลยว่าไม่ว่าโลกแห่งความจริงหรือบาร์บี้แลนด์ ผู้ชายก็มักถูกปลูกฝังมาตลอดว่าห้ามอ่อนแอ นั่นเป็นเพราะคนที่สร้างบาร์บี้แลนด์ก็คือมนุษย์นี่แหละ จึงไม่แปลกที่เหล่า Ken จะต้องเก๊กมาดเท่ตลอดเวลา แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่ว่าเราจะเป็นเพศไหน ทุกคนต่างก็มีอารมณ์และความรู้สึกที่อ่อนไหวซ่อนเอาไว้ไม่ต่างกัน นอกจากนี้การตัดสินใจสุดท้ายของ Barbie ที่เลือกจะไม่อยู่กับ Ken แล้วไปใช้ชีวิตในโลกมนุษย์นั้นก็เป็นการตัดสินใจที่ดีมากอีกด้วย เหตุผลของเธอคือเราควรมีสิทธิ์ในการเลือกเส้นทางชีวิตของตัวเอง ชีวิตเราไม่ควรเป็นแบบที่คนอื่นบอกหรือคนอื่นกำหนดไว้ นับว่าเป็นหนังที่สนุกดูเพลินและยังให้ข้อคิดดีๆ อีกด้วย นักแสดงทุกคนในเรื่องก็แสดงดีกันหมด งานภาพและงานโปรดักชันก็ยอดเยี่ยมไร้ที่ติ ฉากทุกฉากที่สร้างขึ้นมาสวยหมดแบบไร้ที่ติ ไปจนถึงฉากร้องเพลงเองก็ทำได้ดีมากเช่นกัน สรุปโดยรวมเลยคือนี่คือหนังอีกเรื่องที่ทุกคนควรดูและเข้าถึงคนดูได้ทุกกลุ่ม ทุกเพศ ทุกวัย อาจไม่ได้ดีจนไร้ที่ติแต่ก็มีดีพอให้เสียเวลาไปดูอย่างแน่นอน