หลังจากที่ได้มีการหยิบยกเอาตัวละครสุดคลาสิกได้กลายเป็นสมบัติสาธาณะก็มีจับนำมาพลิกโฉมตัวละครนั้นกันอย่างหลากหลาย และแน่นอนว่า Rhys Frake-Waterfield ก็ไม่พลาดเช่นเดียวกันที่จะเปิดโฉมหน้าใหม่ของหมีพูห์ ที่เป็นตัวละครสุดน่ารักในวัยเด็กของใครหลายๆ คน ให้กลายเป็นความน่าสะพรึงกลัวที่กำลังจะมาถึงเร็วๆ นี้ใน Winnie the Pooh: Blood & Honey ที่กำลังจะเตรียมเข้าฉายที่โรงภาพยนตร์ในวันที่ 15 กุมภาพันธ์นี้ โดยล่าสุดผู้สร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ได้เปิดเผยถึงผลงานที่มีอิทธิต่อการทำงานของเขา ตลอดจนเผยถึงข้อมูลสำคัญที่มีต่อภาพยนตร์เรื่องนี้ที่อาจจะเกิดขึ้น

ซึ่งก่อนหน้านี้เองก็ได้มีการปล่อยภาพโปสเตอร์และตัวอย่างออกมาให้แฟนๆ ได้ดูกันแล้ว เรียกได้ว่าพลิกโฉมหน้าของเจ้าหมีพูห์สุดน่ารักให้กลายเป็นนักฆ่าผู้หิวโหย และเพื่อหลีกเลี่ยงจากปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์ Frake-Waterfield จึงได้ดัดแปลงเจ้าหมีพูห์นี้ให้แตกต่างจากเวอร์ชันของ Disney เขาได้บอกว่า “แฟรนไชส์หลักๆ ที่ผมคิดไว้ตอนทำ Halloween, Texas Chainsaw Massacre และ Wrong Turn แม้มันจะไม่ยิ่งใหญ่เท่ากับภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ แต่มันก็เป็นภาพยนตร์สยองขวัญเรื่องแรกที่อยู่ในลิสต์หนังสยองขวัญที่รักของผม และตอนนี้ Terrifier 2 ก็เป็นอีกหนึ่งผลงานสำคัญของผมที่กำลังจะสานต่อ ผมแน่ใจว่ามันต้องออกยิ่งใหญ่และจัดเต็มเหมือนกับที่เคยทำ ผมอยากจะทำมันออกมาให้ยิ่งใหญ่ยิ่งกว่าเดิมด้วย”

Rhys Frake-Waterfield มารับหน้าที่เป็นผู้กำกับภาพยนตร์ Winnie the Pooh: Blood and Honey โดยอยู่ภายใต้การอำนวยการผลิตของ Jagged Edge Productions และนำแสดงโดย Amber Doig-Thorne, Maria Taylor และ Danielle Scott ว่าด้วยเรื่องราวของ Christopher Robin ที่กำลังมุ่งหน้าไปเรียนที่วิทยาลัยแห่งใหม่ของเขา เขาได้ตัดความสัมพันธ์กับเพื่อนเก่าๆ ไปหมด ก่อนที่จะนำเขาไปสู่อ้อมกอดของสองสัตว์ประหลาดคู่หู แต่ก็ดูเหมือนว่า Christopher Robin จะห่างเหินออกไป และเขาก็ไม่ได้คอยมาให้อาหารสัตว์ประหลาดพวกนี้เลย จนทำให้ทั้งพูห์และพิกเล็ตมีชีวิตที่ยากลำบากมาก แต่หลังจากที่พวกเขาทั้งคู่ได้ลิ้มรสเลือดแทนน้ำผึ้งแสนหวาน พวกเขาก็เริ่มออกอาละวาดอย่างบ้าคลั่งและกลายเป็นสิ่งมีชีวิตสุดโหด พร้อมกับการนำแสดงโดย Amber Doig-Thorne, Maria Taylor และ Danielle Scott