ภาพยนตร์ไล่เชือดที่กำลังเป็นที่พูดถึงอย่างมากในช่วงนี้คงหนีไม่พ้นภาพยนตร์เรื่อง Terrifier 2 ได้กลายเป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้ทะลุบ็อกซ์ออฟฟิศในสหรัฐอเมริกา ล่าสุด Damien Leone ผู้กำกับจากภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ออกมาเปิดเผยถึงความเป็นไปได้ในการสร้างภาคที่ 3

ในช่วงเทศกาลฮาลโลวีนของปีนี้ มีภาพยนตร์สยองขวัญหลายเรื่องที่เปิดตัวในโรงภาพยนตร์ แต่ดูเหมือนว่าจะมีภาพยนตร์เพียงเรื่องเดียวที่กลายเป็นกระแสไปทั่วบนโลกออนไลน์ และภาพยนตร์เรื่องนั้นก็คือ Terrifier 2 เนื่องจากมีผู้ชมหลายคนที่ได้รับชมภาพยนตร์เรื่องนี้ไปแล้วออกมาโพสต์บนโซเชียลมีเดียว่า ความสยองขวัญของภาพยนตร์เรื่องนี้ทำให้ผู้ชมหลายคนอาเจียน บางคนกลัวจนถึงกับหมดสติไป และมีอีกหลายคนที่ทนดูไม่ไหวจนต้องเดินออกจากโรง อย่างไรก็ตาม สำหรับแฟนๆ ชาวไทยที่อยากดูภาพยนตร์เรื่องนี้คงต้องรอลุ้นหน่อย แต่มีโอกาสน้อยมากที่จะถูกนำมาเข้าฉายในไทย

Terrifier 2 เปิดตัวในโรงภาพยนตร์ในอเมริกาครั้งแรกเมื่อวันที่ 6 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยนับตั้งแต่เปิดตัวจนถึงปัจจุบัน ภาพยนตร์สยองขวัญเรื่องนี้ทำรายได้ในอเมริกาไปแล้วทั้งสิ้น 7.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งนับว่าประสบความสำเร็จอย่างมากเนื่องจากมีรายงานออกมาว่าภาพยนตร์เรื่องนี้มีงบประมาณการสร้างที่ต่ำเพียง 250,000 ดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้มีแฟนๆ และผู้ชมหลายคนต่างพร้อมใจกันออกมาตั้งคำถามว่าแฟรนไชส์นี้จะได้ไปต่อในภาคที่ 3 หรือไม่

เมื่อไม่นานมานี้ Damien Leone ผู้กำกับของภาพยนตร์เรื่องนี้ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับทาง Variety ซึ่งเขายืนยันว่าเขากำลังพิจารณาภาคต่อที่ไม่ใช่แค่ภาคเดียวเท่านั้น แต่จะเป็นถึง 2 ภาคติดต่อกัน โดยเขาได้กล่าวว่า

ผมมี ‘ภาคที่ 3’ อยู่ในใจ ในตอนที่เขียนภาคที่ 2 อยู่ มีคำถามมากมายเกิดขึ้นในภาคที่ 2 ที่ยังไม่ได้รับคำตอบ และนั่นเป็นส่วนหนึ่งของการออกแบบ เพราะผมรู้ว่าผมกำลังจะเข้าสู่ภาคที่ 3 ผมเกือบจะพร้อมแล้วสำหรับการสร้างภาคที่ 3 แต่มันใหญ่มากจนสามารถแบ่งออกเป็นภาคที่ 4 ด้วยได้ เพราะผมไม่อยากสร้างหนังยาว 2 ชั่วโมง 20 อีกแล้ว ดังนั้น เราจะได้เห็นกัน

ความกลัวของผมคือกลัวว่าท้ายที่สุดแล้วบ่อน้ำจะแห้ง เราจะจบลงด้วยการลดคุณภาพจนคนไม่สนใจ หรือไม่มีอะไรจะเล่าเกี่ยวกับตัวละครนี้แล้ว มันเกิดขึ้นกับแฟรนไชส์มากมายที่ผมยังคงเป็นแฟนตัวยง ฉันเคยดูทั้งภาค 10 และภาค 13 มาหมดแล้ว แต่บางครั้งนั่นก็อาจทำให้แฟรนไชส์ทั้งหมดเสียหายได้ สำหรับพวกเขาการที่ภาคต่ออ่อนแอลง ไม่มีเรื่องที่น่าสนใจมากพอ หรือไปคนละทิศละทางจากต้นฉบับ สิ่งเหล่านี้อาจสร้างความเสียหายให้กับแฟรนไชส์โดยรวม ผมจึงอยากลองหลีกเลี่ยงสิ่งนั้น