Netflix ได้ทำการบันทึกการสูญเสียสมาชิกเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี โดยสูญเสียผู้สมัครสมาชิกไปทั้งหมด 200,000 ราย และยังมีแนวโน้มจะสูญเสียผู้สมัครสมาชิกเพิ่มมากขึ้นอีกในไตรมาสที่ 2 ของปี 2022

แม้แต่ในโลกของความบันเทิงของผู้ให้บริการสตรีมมิงที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้บริโภคสามารถเปลี่ยนจากแพลตฟอร์มหนึ่งไปอีกแพลตฟอร์มหนึ่งได้อย่างง่ายดาย หากมีการเปิดตัวผู้ให้บริการสตรีมมิงรายใหม่ ซึ่งผู้ให้บริการสตรีมมิงเจ้าดังอย่าง Netflix เอง ก็ถือเป็นหนึ่งในบริษัทผู้ให้บริการสตรีมมิงที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด นับตั้งแต่การเปิดตัวครั้งแรกในปี 2007 ซึ่งเดิมทีเป็นธุรกิจให้เช่าภาพยนตร์แบบรายเดือน แถมยังมีบริการเช่าภาพยนตร์ผ่านเว็บไซต์และจะจัดส่งให้ทางไปรษณีย์อีกด้วย ก่อนที่ก้าวเข้ามาเป็นผู้นำในด้านสตรีมมิงด้วยการสร้างคอนเทนต์เป็นของตัวเองอย่างซีรีส์ House of Cards และ Orange Is the New Black ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมาก นับแต่นั้นมา Netflix ก็เริ่มเดินหน้าผลิตคอนเทนต์ของตัวเองออกมามากขึ้น สิ่งนี้ถือเป็นการเดินเกมที่ชาญฉลาด

แต่ถึงแม้ว่า Netflix จะเป็นผู้นำในตลาดสตรีมมิงมาตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่ดูเหมือนว่าปัจจุบันนี้จะไม่เป็นแบบนั้นแล้ว เนื่องจากมีหลายบริษัททำการเปิดตัวแอปสตรีมมิงของตัวเองออกมาในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทั้ง Warner Bros. ที่เปิดตัว HBO MAX และ Disney ที่ได้ทำการเปิดตัว Disney+ ที่มีคอนเทนต์ออริจินัลจากจักรวาล Star Wars และ Marvel เป็นของตัวเอง ซึ่งถือเป็นคู่แข่งที่น่ากลัว แถมยังมีแอป Amazon Prime Video ของบริษัท Amazon และล่าสุดคือแอป Paramount+ ของสตูดิโอ Paramount เพราะเหตุนี้ทำให้ตลาดการแข็งขันของผุ้ให้บริการสตรีมมิงรุนแรงขึ้น แต่ถึงอย่างนั้นผลงานของ Netflix ก็ยังคงดีอยู่ ในปีก่อนก็มีคอนเทนต์ยอดฮิตอย่าง Red Notice และ ซีรีส์ Squid Game ส่วนต้นปีนี้ก็มี The Adam Project และซีรีส์ Bridgerton ซีซัน 2 ที่มียอดเข้าชมมหาศาลเช่นเดียวกัน

ล่าสุด Variety ได้รายงานผลประกอบการไตรมาสแรก ประจำปี 2022 ของ Netflix ซึ่งมีจำนวนผู้สมัครสมาชิกติดลบครั้งแรกในรอบ 10 ปี โดยได้สูญเสียสมาชิกไปทั้งหมด 200,000 ราย จากเดิมมีทั้งหมด 221.84 ล้านคน ปัจจุบันเหลือเพียง 221.64 ล้านคน ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการหยุดให้บริการในประเทศรัสเซียเนื่องจากเหตุการณ์สงครามระหว่าง ยูเครนและรัสเซีย ถ้าหากไม่แบนรัสเซีย พวกเขาจะมีจำนวนผู้สมัครสมาชิกมากว่านี้อีก 500,000 คน แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น ก็ยังคงไม่ถึงเป้าที่พวกเขาตั้งไว้ว่าจะมีผู้สมัครสมาชิกในไตรมาสนี้เพิ่มขึ้นทั้งหมด 2.5 ล้านคนอยู่ดี

นอกจากนี้ Netflix ยังคาดการณ์ถึงการสูญเสียครั้งใหญ่ในไตรมาสที่ 2 โดยคาดว่าจะสูญเสียสมาชิกอีก 2 ล้านคน และหลังจากการประกาศครั้งนี้ หุ้นของบริษัทก็ร่วงลงไปมากถึง 22 % ซึ่งแผนในอนาคตของ Netflix คือมุ่งเน้นไปที่การให้บริการเนื้อหาที่มีความน่าสนใจ และดึงดูดผู้ชม โดยพวกเขาวางแผนที่จะใช้เงิน 1 หมื่น 8 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 609,668 บาท ตามอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราปัจจุบัน) ในภาพยนตร์และซีรีส์ในปี 2022 เพียงปีเดียว รวมถึงแผนที่ปรับปรุงเรื่องการแชร์ค่าสมัครกันในรหัสเดียว โดยแผนนี้จะนำมาใช้เพื่อแข่งขันกับ Disney+ ซึ่งท้ายสุดแล้วจะเป็นอย่างไร ค่าบริการของ Netflix จะแพงกว่าเดิมหรือว่าจะถูกลง พวกเราคงต้องรอติดตามกันต่อไป