Avatar (2005) ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ที่บุกเบิกโลกแห่งแฟนตาซีหวนกลับมาฉายอีกครั้งในโรงภาพยนตร์ในช่วงเวลาจำกัดเพียงแค่ 2 อาทิตย์ ที่เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ทั้งในระบบ IMAX3D และ 4DX(3D)

ถ้าพูดถึงภาพยนตร์ที่ครองใจแฟนๆ ขึ้นหิ้งไปตลอดกาลคงจะหนีไม่พ้น Avatar (2005) บอกได้เลยว่าเป็นหนังที่คุ้มค่าสำหรับการรับชมทั้ง ภาพ แสง สี เสียง และเอฟเฟกต์สุดยิ่งใหญ่ตระการตา เรื่องราวของ เจค ซัลลี่ นาวิกโยธินผู้พิการทางขา ที่ต้องรับภารกิจเข้าแทรกแซงชนเผ่าตัวสีฟ้า '“ชาวนาวี” เพื่อเรียนรู้วิถีชีวิตและหาจุดอ่อนของพวกเขาเพื่อกดดันให้พวกเขาออกไปจากพื้นที่ ทั้งหมดนี้ภายใต้ชื่อภารกิจว่า “Avatar” ภารกิจนี้ทำให้ชีวิตของพลทหารหนุ่มเจคเปลี่ยนไปตลอดกาล ติดตามการหวนคืนสู่ดาวแพนดอร่าอีกครั้ง

การกลับมาฉายครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อเป็นการปูพื้นให้กับแฟนๆ ที่จดจ่อยรอคอยการกลับมาของมหากาพย์ภาพยนตร์วิทยาศาสตร์ฟอมยักษ์ Avatar ภาค 2 ยาวนานถึง 10 ปี หลังจากความสำเร็จจากการฉายภาคแรกในปี 2009 ซึ่งสามารถทำรายได้ไปถึง 2,845 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 93,000 ล้านบาทครองอันดับ Box Office ทำเงินสูงสุดตลอดการ เข้าชิงออสการ์ 9 สาขา คว้ารางวัลออสการ์มาได้ 3 สาขา กำกับภาพยอดเยี่ยม, วิชวลเอฟเฟกต์ยอดเยี่ยม และกำกับศิลป์ยอดเยี่ยม ครั้งนี้ก็จะกลับมาให้แฟนๆ ได้หวนคืนความทรงจำอีกครั้งใน (อวตาร Re-Release)

การกลับมาฉายรอบนี้ ถ้าดูจากทางฝั่ง North America ภาพยนตร์คว้ารายได้ไปถึง 29% ของรายได้ในประเทศรอบเปิดตัวจำนวน 386 จอ ต่างประเทศทั้งลอนดอน, ฮ่องกง, ญี่ปุ่น, และ เกาหลีใต้ ที่ทำรายได้ไปถึง 3.1 ล้านดอลล่าห์สหรัฐฯ ในจอ IMAX ซึ่งทาง Box Office ยังไม่ได้เผยตัวเลขรายได้จอธรรมดาที่คาดว่าจะทำรายได้ไปอีกหลักร้อยล้านดอลล่าห์สหรัฐฯ ภายในไม่กี่สัปดาห์ต่อจากนี้ นี่อาจเป็นการคอนเฟิร์มได้ว่าภาค 2 อาจมีกองกำลังแฟนคลับที่ซุ่มรออยู่เพื่อเตรียมทำลายสถิติรายได้ของภาคใหม่ก็เป็นได้

ชมความคิดเห็นของผู้กำกับ James Cameron และนักแสดงนำอย่าง Sam Worthington, Sigourney Weaver, Michelle Rodriguez และ Zoe Saldaña ใน (อวตาร Re-Release) ที่ด้านล่าง!