Idris Elba แง้มว่าไฮม์ดัลล์อาจกลับมามีบทบาทใน MCU
Idris Elba นักแสดงผู้รับบทเป็นไฮม์ดัลล์ (Heimdall) ทวารบาลแห่งแอสการ์ด ซึ่งล่าสุดปรากฏตัวใน Thor: Love and Thunder (2022) ให้สัมภาษณ์เป็นนัยถึงโอกาสที่ตัวละครดังกล่าวอาจกลับมามีบทบาทใน Marvel Cinematic Universe (MCU) ในอนาคต
ในการสัมภาษณ์กับ SYFY WIRE Elba ได้แง้มพรายเป็นเชิงว่า ตัวละครที่เขารับบทใน MCU อาจมีโอกาสกลับมามีบทบาทอีกครั้ง “ไฮม์ดัลล์เป็นตัวละครที่ใคร ๆ ก็รัก ผมชอบเล่นเป็นตัวนี้ ไม่แน่ว่าอาจมีแผนการอะไรรออยู่ก็ได้” ก่อนจะกล่าวต่อว่าตนไม่ค่อยแน่ใจนักว่าตัวละครดังกล่าวจะได้กลับมาเมื่อไร หรือแม้กระทั่งจะได้กลับมาจริงหรือไม่ แต่ Elba ก็ไม่อาจปฏิเสธได้เต็มปากเช่นกันว่าเรื่องนี้ไม่น่าเกิดขึ้นได้
ใครคือไฮม์ดัลล์แห่ง MCU?
ไฮม์ดัลล์เปิดตัวใน Thor (2011) ในฐานะทวารบาลแห่งอาณาจักรแอสการ์ดผู้มีหน้าที่ดูแลสะพานไบฟรอสต์ จากนั้นตัวละครนี้ซึ่งรับบทโดย Elba ก็ปรากฏตัวใน Thor: The Dark World (2013), Avengers: Age of Ultron (2015) และ Thor: Ragnarok (2017) ก่อนจะถูกฆ่าใน Avengers: Infinity War (2018) ไฮม์ดัลล์กลับเข้ามาใน MCU เพียงชั่วเวลาสั้น ๆ ในตอนท้ายของ Thor: Love and Thunder โดยเขาเป็นผู้ต้อนรับ เจน ฟอสเตอร์ / ไมตี้ธอร์ เข้าสู่วัลฮัลลา ในภาพยนตร์เรื่องเดียวกันนี้ยังเปิดตัวแอกเซิล (Axl) ลูกชายของไฮม์ดัลล์ ซึ่งมีบทบาทเด่นในเรื่องอีกด้วย
ในช่วงต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา Elba กล่าวถึงไฮม์ดัลล์ในแง่มุมอื่นที่ MCU ยังไม่เคยนำเสนอ พร้อมทั้งเน้นย้ำเป็นพิเศษว่า คงน่าสนใจไม่น้อยถ้าจะมีการสำรวจประเด็นเรื่อง ‘ความเป็นอมตะที่อยู่รอบตัวละครนี้’ ในการสัมภาษณ์ครั้งนั้น Elba ตั้งข้อสังเกตว่า “โลกของ Marvel แผ่ขยายออกไปทุกที ๆ เราไม่มีทางรู้เลยครับว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง”
ขณะนี้ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าไฮม์ดัลล์จะได้กลับเข้าสู่ MCU หรือไม่ หรือจะได้กลับมาอย่างไร แต่ก็เป็นไปได้ว่าในอนาคตอาจมีการคืนชีพให้ตัวละครนี้ในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง อีกทั้งที่ผ่านมาก็มีหนังหลายเรื่องที่ดำเนินเหตุการณ์ในช่วงอดีตของ MCU เช่น Black Widow (2021) ดังนั้นจึงเป็นไปได้มากที่ไฮม์ดัลล์จะมาปรากฏตัวในโปรเจกต์หนังในอนาคตสักเรื่อง
Thor: Love and Thunder กับตัวเลขผลตอบรับในด้านต่าง ๆ
Thor: Love and Thunder ซึ่งเป็นผลงานเรื่องล่าสุดในแฟรนไชส์หนังเดี่ยวของเทพสายฟ้าแห่ง MCU กอบโกยรายได้จากบ๊อกซ์ออฟฟิศทั่วโลกไปมากกว่า 723 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากต้นทุนถ่ายทำราว ๆ 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐ กลายเป็นหนังที่ทำรายได้สูงสุดเป็นอันดับ 2 ในแฟรนไชส์ Thor ต่อจาก Thor: Ragnarok ซึ่งทำรายได้รวม 850 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ตาม Thor: Love and Thunder ได้รับเสียงตอบรับทั้งในแง่บวกและลบผสมปนเปกันไป ปัจจุบันภาพยนตร์เรื่องนี้มีคะแนนรีวิวบนเว็บไซต์ Rotten Tomatoes อยู่ที่ 65% ซึ่งต่ำที่สุดในบรรดาหนัง Thor
Thor: Love and Thunder ยังคงฉายตามโรงภาพยนตร์ และจนถึงตอนนี้ยังไม่มีกำหนดการออกมาแน่ชัดว่าจะเข้าสู่ Disney+ หรือบริการสตรีมมิงอื่น ๆ เมื่อไร นอกจากนั้นยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าผลงานเรื่องต่อไปในแฟรนไชส์เทพสายฟ้าจะออกฉายหรือถ่ายทำเมื่อไรเช่นกัน
คุณต้อง สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ ก่อน เพื่อที่จะสามารถแสดงความคิดเห็นได้