ในขณะที่ภาพยนตร์เรื่อง It ของ Stephen King มักถูกเรียกว่าเป็นภาพยนตร์แนวไล่เชือด หรือ ภาพยนตร์แนวสแลชเชอร์ (Slasher) แต่รูปแบบการทำงานของจอมวายร้ายจากภาพยนตร์เรื่องนี้อย่าง Pennywise ในทางเทคนิคอาจจะไม่เข้าเกณฑ์สำหรับคำอธิบายของหนังประเภทนี้

ภาพยนตร์แนวสแลชเชอร์เป็นหัวหอกสำคัญในแนวย่อยของภาพยนตร์สยองขวัญ เช่นเดียวกันกับผู้แต่งเรื่องราวอย่าง Stephen King ตั้งแต่แฟรนไชส์ Friday the 13th ไปจนถึงซีรีส์ Scream ที่ทำให้ภาพยนตร์แนวสแลชเชอร์ทำให้ผู้ชมหวาดกลัวมาตั้งแต่ช่วงปลายทศวรรษที่ 1970

ในทำนองเดียวกัน King ก็ได้สร้างความหวาดกลัวให้กับผู้อ่านและผู้ชมมาตั้งแต่เปิดตัวนวนิยาย Carrie ในปี 1974 อย่างไรก็ตาม ถึงแม้มันจะดูไม่น่าเป็นไปได้ เนื่องจาก King ไม่เคยเขียนเรื่องราวแนวสแลชเชอร์ที่เป็นต้นฉบับ ด้วยความตั้งใจบางอย่างของเขา เช่น The Dark Half ที่ก็หลงเข้าใกล้กับแนวสยองขวัญนี้ และในครั้งหนึ่งเขาเคยนำเสนอนวนิยายเรื่อง Friday the 13 จากมุมมองของ Jason Voorhees ในหัวข้อชื่อ “I Jason” อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าผู้เขียนจะมีผลงานมากมายและสถานะที่โดดเด่นของเขาในฐานะนักเขียนแนวสยองขวัญ แต่ Stephen King ก็ไม่เคยเขียนเรื่องราวแนวสแลชเชอร์แบบตรงไปตรงมา อาจเป็นเพราะข้อเท็จจริงนี้จึงเป็นสิ่งที่น่าแปลกใจ ถึงการดัดแปลงบทภาพยนตร์เรื่อง It ของ Stephen King ในปี 2017 (ซึ่งเร็วๆ นี้จะได้รับภาคต่อทางซีรีส์ทีวี) มักถูกระบุว่าเป็นหนึ่งในหนังแนวสแลชเชอร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในทศวรรษที่ 2010 แต่ด้วยเหตุผลที่เหยื่อของ Pennywise ส่วนใหญ่จะไม่ตาย แม้ว่าตัวร้ายของเรื่องนี้จะทำการไล่ล่าตัวละครทั้งหมด แต่จำนวนคนตายของภาพยนตร์เรื่องนี้ก็น้อยมาก มันจึงยากที่จะนับว่าเป็นหนังสยองขวัญแนวสแลชเชอร์ วิธีการทำงานที่ผิดปกติของ Pennywise ทำให้เขาแทบไม่ได้ฆ่าตัวละครใดๆ บนหน้าจอ หลังจากที่ Henry Bowers หลุดพ้นจากการถูกครอบงำ เขาก็มีชีวิตที่มากพอๆ กับตัวร้ายหลักของเรื่อง ดังนั้นเรื่องนี้จึงได้รับผลกระทบจากการเปรียบเทียบของภาพยนตร์แนวสแลชเชอร์ และการตีความภาพยนตร์ในปี 2017 ก็ยังไม่ถือว่าเป็นภาพยนตร์แนวสแลชเชอร์เต็มรูปแบบ

เนื่องจากการตัดสินใจที่จะดัดแปลงเรื่องราวสุดคลาสสิกของนวนิยายต้นทาง มันจึงมีข้อถกเถียงกันว่า It ถูกทำให้เป็นภาพยนตร์แนวสแลชเชอร์ ด้วยการตัดหลายอย่างออกไม่ว่าจะเป็น ตัวละคร Maturin the Turtle ไปจนถึงพิธีกรรม Ritual of Chud (ซึ่งอย่างน้อยก็สามารถเห็นได้ในภาคต่อปี 2019 แต่ก็ยังน้อยอยู่) ภาพยนตร์ It ปี 2017 ทำหน้าที่เป็นเรื่องราวแบบสแตนด์อโลนที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งเหยื่อวัยเยาว์ของเขาจะถูกสะกดรอยตามทีละคนด้วยลำดับการไล่ล่าที่สร้างสรรค์ ก่อนที่ตัวละครที่น่าสะพรึงกลัวจะทำการโจมตีกลุ่มเด็กๆ เมื่อคำนึงถึงคำอธิบายนี้แล้ว จึงทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้คล้ายกับต้นแบบภาพยนตร์สแลชเชอร์จากหลายๆ เรื่อง ดังนั้นภาพยนตร์เรื่องนี้จึงถูกเรียกว่าเป็นประเภทย่อยของหนังสยองขวัญดังที่กล่าวมา อย่างไรก็ตาม ภาพยนตร์แนวสแลชเชอร์ไม่เพียงแต่จะต้องมีจำนวนคนตายที่มากมายเท่านั้น แต่ยังต้องให้ความสนใจกับตัวร้ายมากกว่าการดัดแปลงของ Stephen King อีกด้วย

ภาพยนตร์แนวสแลชเชอร์สุดคลาสสิกอย่าง Friday the 13th และ Halloween มีลักษณะที่เป็นมุมมองของฆาตกร ในขณะที่ภาพยนตร์เรื่อง Scream ไปไกลถึงขั้นสร้างฉากให้ตัวละครหลักเป็นฆาตกร สำหรับ It ของ Stephen King อาจพลาดกลวิธีของภาพยนตร์แนวสแลชเชอร์ เนื่องจากภาพยนตร์เรื่องนี้มุ่งเน้นไปที่การหาประโยชน์ของกลุ่มเด็กๆ แห่ง Loser’s Club มากกว่าตัวร้ายอย่าง Pennywise ดังนั้น แม้ว่าภาพยนตร์เรื่อง It ของ Stephen King จะมีจุดเด่นมากมายสำหรับการเป็นภาพยนตร์แนวสแลชเชอร์ แต่การดัดแปลงก็กลับไม่เข้าเกณฑ์ที่จะรวมอยู่ในภาพยนตร์ประเภทนี้