Fantastic Beasts และ Cursed Child ต่างก็มีฉากย้อนอดีตของ Harry Potter อยู่มากมาย แต่ใน Fantastic Beasts ดูเหมือนว่าจะกระทบกับจักรวาลหลักของ Harry Potter อยู่มากพอสมควร

การเพิ่มประวัติตัวละครใน Fantastic Beasts and Where to Find Them ได้ส่งผลกระทบต่อจักรวาลหลักของ Harry Potter มากกว่าในหนังสือ Harry Potter and Cursed Child เรื่องราวใดๆ ก็ตามที่มีการรวมเหตุการณ์ในอดีตเข้ากับการเล่าเรื่องนั้น ต้องแน่ใจว่าจะไม่มีสิ่งใดที่ขัดแย้งกันในภายหลังกับเส้นเรื่องปัจจุบันที่มีอยู่ก่อนแล้ว แต่ในภาพยนตร์เรื่องสัตว์มหัศจรรย์นี้ แฟรนไชส์ภาคก่อน และบทละครของเด็กต้องคำสาป ซึ่งเป็นเรื่องราวการเดินทางข้ามเวลา ทั้งสองเรื่องพยายามไม่ทำให้สับสนหรือเกิดความขัดแย้งโดยตรงกับสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วในแฟรนไชส์ Harry Potter ที่เป็นต้นฉบับของทุกอย่าง

ภาพยนตร์ต้นฉบับอย่าง Harry Potter ได้สร้างเว็บไซต์ของตัวละครและเหตุการณ์ที่ซับซ้อน ทำให้ยากต่อการเพิ่มเติมหรือเสริมเรื่องราวใหม่ๆ ลงไป อย่างไรก็ตาม Fantastic Beasts and Cursed Child ก็ได้นำเสนอช่องว่างของโครงเรื่อง และเพิ่มเติมในส่วนของการประวัติตัวละครมากมายจนบางครั้งดูไม่สมเหตุสมผลกับเส้นเรื่องหลัก ถึงแม้ว่า Cursed Child ดูจะมีปัญหากับโครงเรื่องหลักอย่าง Harry Potter แต่สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า Fantastic Beasts นั้นมีอะไรที่มากกว่านี้

Fantastic Beasts & Cursed Child มีการเพิ่มประวัติตัวละครมากเกินไปจนกระทบกับโครงเรื่องหลักอย่าง Harry Potter

ทั้งซีรีส์ Fantastic Beasts & Cursed Child เป็นการย้อนรอยจากเรื่อง Harry Potter ซึ่งช่องโหว่สำคัญอย่างหนึ่งในภาพยนตร์ Fantastic Beasts คือ Credence ซึ่งเขาเป็นคนแรกที่แนะนำว่าเป็นน้องชายของ Albus Dumbledore ซึ่งเป็นลูกชายของ Aberforth อย่างไรก็ตามการเปิดเผยนี้ทำให้เกิดคำถามเพิ่มเติม เช่น เพราะเหตุใดแม่ของ Credence ถึงไม่เคยกล่าวถึงเขาใน Harry Potter เลย และทำไมความสัมพันธ์ของ Albus และ Aberforth ถึงได้ตึงเครียดมากขึ้นหลังจากที่พวกเขาเพิ่งจะปรับความเข้าใจกันใน Fantastic Beasts 3 สายเลือดที่ดูจะสับสนอีกตระกูลคือทางฝั่ง Lestrange ใน Fantastic Beasts 2 มีการบอกเป็นนัยๆ ว่าการขายของ Leta Lestrange ได้ยุติสายเลือดของครอบครัวเธอ ถึงแม้ว่าท้ายที่สุดแล้ว Bellatrix จะแต่งงานกับ Lestrange ก็ตาม เกิดอะไรขึ้นกับ Nagini ในระหว่างการปรากฎตัวครั้งสุดท้ายของเธอใน Fantastic Beasts 2 และใน Harry Potter เธอได้กลายไปเป็นมากกว่าผู้รับใช้ของ Voldemort ได้อย่างไ*ร ซึ่งดูจะเป็นคำถามที่ Fantastic Beasts ไม่มีการให้คำอธิบายที่ชัดเจนให้ผู้ชมได้ทราบ นอกจากนี้ยังมีความไม่สอดคล้องกันเล็กน้อยอีกมากมายทั้ง 2 ซีรีส์ เช่น การปรากฎตัวของ Minerva McGonagall ในฐานะศาสตราจารย์ของ Hogwarts Fantastic Beasts 2 ที่เกิดขึ้นเมื่อ 8 ปีก่อนเธอจะเกิดซะอีก ใน Fantastic Beasts ยังทำให้เห็นถึงการปรากฎสถานที่ตั้งของ Hogwarts ซึ่งใน Harry Potter ได้แสดงให้เห็นว่าสถานที่นี้ไม่ควรถูกเปิดเผยและควรป้องกันด้วยเวทย์มนต์

Cursed Child พยายามแบ่งสัดส่วนระหว่างการเพิ่มประวัติตัวละคร และการย้อนอดีตของโครงเรื่อง ซึ่งมันคือการเดินทางข้ามเวลา ใน Harry Potter and the Prisoner of Azkaban ได้อธิบายกฏของการเดินทางข้ามเวลาไว้อย่างชัดเจนแล้วว่า “เป็นไปไม่ได้ที่จะเปลี่ยนอดีต เพราะสิ่งที่คนย้อนเวลาได้ทำไปแล้วนั้นได้ถูกทำไว้แล้ว” แต่ใน Cursed Child การย้อนเวลากลับได้เปลี่ยนแปลงอดีต ความลึกลับอีกประการหนึ่งเกี่ยวข้องกับ Time-Turners ซึ่งควรจะถูกทำลายไปทั้งหมดในกระทรวงเวทมนตร์ อย่างไรก็ตามเห็นได้ชัดว่า Theodore Nott ได้สร้างเวอร์ชันที่เหนือกว่าของตนเอง และมอบให้ Lucius Malfoy ซึ่งในจักรวาล Harry Potter ได้แสดงให้เห็นชัดเจนอยู่แล้วว่าแผลเป็นของ Harry นั้นคือเศษเสี้ยววิญญาณของ Voldemort ที่อยู่ในตัวเขา แต่ได้ถูกทำลายในตอนจบของภาพยนตร์ Harry Potter ไปแล้ว อย่างไรก็ตามแผลเป็นมักจะกลับมาเจ็บปวดอีกครั้งเมื่อ Voldemort ขู่ว่าจะกลับมา การเพิ่มประวัติที่ใหญ่ที่สุดของ Cursed Child คือลูกของ Voldemort กับ Bellatrix Lestrange เป็นเรื่องที่น่าสงสัยเป็นอย่างมาก เพราะเขาไม่เคยคิดที่จะมีทายาทด้วยซ้ำ เขาวางแผนที่จะมีชีวิตอยู่อย่างเป็นอมตะ ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากจะเชื่อว่า Bellatrix จะซ้อนการตั้งครรภ์ของเธอไว้ได้ เนื่องจากเธอจะต้องตั้งครรภ์ในช่วงเวลาการดำเนินเรื่องของ Harry Potter and the Deathly Hallows

การเพิ่มประวัติตัวละครของ Fantastic Beasts ส่งผลกระทบต่อจักรวาล Harry Potter อย่างไร?

แม้ว่าแฟรนไชส์ทั้ง 2 เรื่องจะเต็มไปด้วยช่องโหว่และความไม่สอดคล้องกัน ซึ่งในจักรวาลของ Fantastic Beasts ก็ได้สร้างความเสียหายให้กับโครงเรื่องหลักของ Harry Potter ได้มากกว่าความปรารถนาของภาพยนตร์ที่จะรวมตัวละครจากซีรีส์ Harry Potter ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ซึ่งมันก่อให้เกิดปัญหามากมาย เช่นเดียวกับจุดเล็กๆ ของ Minerva McGonagall อีกตัวอย่างหนึ่งคือ Fantastic Beasts 2 เปิดเผยว่า Nagini งูของ Voldemort เคยเป็นผู้หญิงที่ถูกสาป แต่การเปิดเผยนั้นกลับทำให้เกิดคำถามมากกว่าที่จะตอบเกี่ยวกับสาเหตุว่าทำไมเธอถึงเลือกที่จะเข้าร่วมกับ Voldemort โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาจุดยืนของเธอที่มีต่อเวทมนตร์แห่งความมืดและอำนาจ การมีส่วนตัวร่วมของ Aberforth Dumbledore ใน Fantastic Beasts 3 ก็ดูเหมือนจะหักล้างความสัมพันธ์ของเขากับ Albus ใน Harry Potter ด้วย Fantastic Beasts ได้แสดงให้เห็นว่าพวกเขาค่อนข้างที่จะพูดคุยกันมากกว่านี้

เส้นเวลาของภาพยนตร์ที่เป็นเรื่องราวก่อนหน้าเส้นเรื่องหลักก็ไม่สมเหตุสมผลเช่นกัน การดวลกันอันโด่งดังของ Albus Dumbledore กับ Gellert Grindelwald ในตอนนั้นเขาเอาชนะพ่อมดแห่งศาสตร์มืดด้วยการยุติความพยายามในการปฏิวัติของเขา มันไม่ได้เกิดขึ้นจนในปี 1945 แต่นั่นก็ไม่ได้ผลเช่นกันหลังจาก Fantastic Beasts 3 ได้มีการยุติความสับสนที่เกิดขึ้นจากสนธิสัญญาเลือด และบอกเป็นนัยๆ ว่า Albus เต็มใจและจะสามารถหยุดพ่อมดได้ทุกเมื่อ ทั้งหมดนี้มีผลกระทบที่จับต้องได้อย่างมากต่อโครงเรื่องหลักของ Harry Potter ซึ่งมีการตัดเนื้อหาของภาพยนตร์ต้นฉบับบางส่วนออกไป

ทำไมการเพิ่มประวัติของ Cursed Child จึงมีความสำคัญน้อยกว่าสำหรับจักรวาล Harry Potter

Cursed Child อาจมี การเพิ่มประวัติที่มากกว่า Fantastic Beasts โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแนะนำลูกสาวของ Voldemort การเดินทางข้ามเวลาเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำเกิดความเป็นไปได้ เนื่องจากใน Cursed Child ได้แก้ไขโครงเรื่องบางส่วนในตอนท้าย ซึ่งมีผลกระทบต่อหลักการโดยรวมน้อยกว่า ตัวละครที่มีการเพิ่มประวัติที่ไม่ได้รับคำอธิบายเพิ่มได้รับการให้อภัยเนื่องจากการสื่อสารของตัวละครที่ไม่ได้เชื่อมโยงกันมาก ทำให้ผู้ชมไม่ได้นึกถึงช่องโหว่ตรงนี้มากเท่าที่ควร

การเพิ่มประวัติจากตัวละครใน A Cursed Child มีผลกระทบต่อโครงเรื่อง Harry Potter โดยตรง

การโต้เถียงกันในเรื่องของการเพิ่มประวัติตัวละครของ Fantastic Beasts แสดงให้เห็นถึงปัญหากับภาพยนตร์ Cursed Child ซึ่งความเป็นไปได้ที่จะปรับ Cursed Child สู่บทภาพยนตร์นั้นได้ถูกปรับตั้งแต่ก่อนเปิดตัวแล้ว ผู้ชมจำนวนมากได้ชี้ให้เห็นว่าเป้นทิศทางที่สดใสสำหรับโปรเจกต์ Harry Potter ในอนาคตมากกว่า Fantastic Beasts 3 อย่างไรก็ตาม ภาพยนตร์ที่สร้างจาก Cursed Child นั้นไม่ใช่ความคิดที่ดีซะทีเดียว บทละครยังมีข้อบกพร่องบางประการอยู่ ในตอนที่นำไปผลิตเป็นละครเวที การนำไปทำเป็นภาพยนตร์จึงเสี่ยงที่จะขยายปัญหาเหล่านั้นให้เห็นชัดขึ้น และเหมือนเป็นการเชิญชวนให้วิพากษ์วิจารณ์ข้อบกพร่องของตัวละครมากขึ้นไปอีก ภาพยนตร์ Harry Potter และ The Cursed Child คงไม่ดีไปกว่า Fantastic Beasts หากมีผลการตอบรับที่แย่มันย่อมส่งผลต่อตัวละครอันเป็นที่รักบางตัวรวมถึง Harry ด้วย ในทางกลับกันโครงการในอนาคตที่ตั้งอยู่ในโลกของ Harry Potter นั้นควรเป็นการสำรวจเรื่องราวใหม่ๆ ที่ห่างไกลจากโครงเรื่องหลักดั้งเดิม เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเมื่อต้องนำตัวละครมารวมตัวกัน