เผยประวัติของครอบครัว Dumbledore ในภาพยนตร์ชุด 'สัตว์มหัศจรรย์'
ในที่สุด ภาพยนตร์ภาคล่าสุดของ สัตว์มหัศจรรย์ ก็ได้เปิดเผยข้อมูลเจาะลึกของประวัติศาสตร์ครอบครัว Dumbledore ที่มีทายาทมากมายหลายรุ่น รวมไปถึงความลับที่คนในครอบครัวต่างเก็บงำกันเอาไว้ให้เรารู้จักพวกเขามากขึ้นเสียที ตกลงแล้ว Credence เป็นใคร? หรือว่า Albus นั้นเป็นอะไรกับ Grindelwald กันแน่? มาหาคำตอบกัน!
ข้อความจากผู้เขียนบทความ : เนื้อหาต่อไปนี้อาจมีการเปิดเผยเนื้อหาสำคัญของภาพยนตร์ สัตว์มหัศจรรย์: ความลับของดัมเบิลดอร์
หลังจากมีการเลื่อนกำหนดฉายไปหลายรอบเนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ภาพยนตร์ สัตว์มหัศจรรย์: ความลับของดัมเบิลดอร์ (2022) ก็ได้เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ไปเมื่อวันที่ 15 เมษายน ปี 2022 ที่ผ่านมา และได้ฉายรอบปฐมทัศน์ทางช่อง HBO Max ไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่ COVID-19 ก็ไม่ใช่เพียงอุปสรรคเดียวที่ทำให้ภาคต่อของภาพยนตร์ แฮร์รี่ พอตเตอร์ (2001-2011) ประสบกับความล่าช้าในการถ่ายทำ แต่ภาพยนตร์ชุด สัตว์มหัศจรรย์ นั้นได้มีการโต้เถียงมากมายตลอดขั้นตอนการผลิต อีกทั้งแฟนๆ ก็ยังสับสนกับจุดประสงค์ที่แท้จริงของแฟรนไชส์นี้อีกด้วย แม้ว่าภาพยนตร์ชุดนี้จะได้ออกมายืนยันแล้วก็ตามว่าจะมีถึงห้าภาคก็ตาม โดยภาพยนตร์เรื่องนี้เดิมทีได้บอกว่าจะเน้นไปที่เรื่องของ “สัตว์วิเศษ” ที่ได้รับมาจากหนังสือคู่มือเรียนของ J.K. Rowling ที่ถูกตีพิมพ์ออกมาเมื่อปี 2001 และแฟรนไชส์ภาพยนตร์ชุดนี้นั่นจะบอกเล่าเรื่องราวของเหล่าพ่อมดแม่มดก่อนที่จะถึงยุคที่แฮร์รี่ พอตเตอร์จะกำเนิดขึ้น ซึ่งในยุคนั้นก็ได้มีสงครามระหว่างพ่อมดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งยุคเกิดขึ้นด้วย
ในภาพยนตร์ภาคก่อนหน้าอย่าง สัตว์มหัศจรรย์: อาชญากรรมของกรินเดลวัลด์ (2018) ได้ทำการเปิดตัว Jude Law ในบทบาทของศาสตร์ตราจารย์ Albus Dumbledore ในช่วงปี 1920 นานก่อนที่เขาจะขึ้นเป็นอาจารย์ใหญ่ของโรงเรียนเวทมนตร์ Hogwarts โดย Dumbledore นั้นทำหน้าที่เป็นครูสอนวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืด ในยุคหลังจากสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง โลกของชุมชนผู้วิเศษก็ได้อยู่ในภาวะชะงัก เนื่องจาก Gellert Grindelwald (ที่ในภาคนั้นแสดงโดย Johnny Depp) ได้รับความนิยมและการสนับสนุนจากหมู่พ่อมดแม่มดหลายคนจากการที่มีความเชื่อเดียวกันกับเขาว่าพวกที่ไม่มีเวทมนตร์นั้นต่ำต้อยกว่าพวกเขา ทว่า Dumbledore และคนอื่นๆ อีกหลายคนก็กลัวว่าความเชื่อแบบสุดโต่งของ Grindelwald อาจจะก่อให้เกิดความขัดแย้งขึ้นระหว่างสองโลก
Dumbledore นั้นรู้ถึงความสามารถและความอันตรายของ Grindelwald ดีจากประสบการณ์ของเขาเอง ตามข้อมูลที่ได้เคยเปิดเผยในหนังสือ แฮร์รี่ พอตเตอร์กับเครื่องรางยมฑูต และในภาพยนตร์ชื่อเดียวกันทั้งสองภาค Dumbledore และ Grindelwald นั้นเคยเป็นเพื่อนสนิทของกันและกันที่มีความฝันและเคยมีจุดประสงค์เดียวกัน แม้ว่าในหนังสือจะไม่ได้ระบุเอาไว้อย่างตรงไปตรงมา แต่แฟนๆ ของแฮร์รี่ พอตเตอร์ส่วนใหญ่ก็เชื่อว่าทั้งสองนั้นมีความสัมพันธ์แบบโรแมนติกที่เกินกว่าแค่เพื่อนกันอย่างแน่นอน ซึ่งคนเขียนอย่าง J.K. Rowling นั้นก็ได้ออกมายืนยันแล้วหลายครั้งว่าทั้งสองคนนั้นมีความสัมพันธ์แบบคนรักกัน ไม่ว่าจะเป็นในแบบหนังสือต้นฉบับหรือภาพยนตร์ก็ตาม
แต่ในภาพยนตร์ ความลับของดัมเบิลดอร์ นั้นจะมีการบอกเล่าเรื่องราวของพวกเขาอีกครั้งเพื่อคลายความกระจ่างให้กับเหล่าบรรดาแฟนๆ ว่าทำไม Albus และ Grindelwald ถึงตัดสินใจแยกทางกันเพียงเพราะเหตุผลทางการเมือง และผลกระทบจากความสัมพันธ์ของพวกเขานั้นไม่ได้หยุดแค่ที่พวกเขาสองคน แต่ยังส่งผลต่อน้องชายของ Albus อย่าง Aberforth อีกด้วย โดยในภาพยนตร์ ความลับของดัมเบิลดอร์ ก็ได้เปิดตัวนักแสดง Richard Coyle ในบทของ Aberforth ในไทม์ไลน์ของภาพยนตร์ชุด สัตว์มหัศจรรย์ โดยในไทม์ไลน์ของภาพยนตร์ชุด แฮร์รี่ พอตเตอร์ นั้นตัวละครของ Aberforth ได้แสดงโดย Ciarin Hinds ที่ปรากฏตัวในช่วงเวลาสั้นๆ ในภาค เครื่องรางยมฑูต part 2 ซึ่งเขาได้ทำหน้าที่เป็นบาร์เทนเดอร์ของบาร์ Hog’s Head Inn และเป็นพันธมิตรลับของกลุ่มที่ต่อต้านภาคีนกฟีนิกซ์ ความลับของดัมเบิลดอร์ ได้ทำให้เรารู้ว่าความจงรักภักดีของสองพี่น้องนั้นได้มีมานานแล้ว เพราะ Aberforth ได้ช่วยพา Newt Scamander (รับบทโดย Eddie Redmayne) และเหล่าพันธมิตรคนอื่นๆ เข้า Hogwarts โดยการอนุญาตให้พวกเขาพักอยู่ที่ Hog’s Head ก่อน
ในตอนที่พวกเขายังเด็ก Aberforth มักจะจับตามองความสัมพันธ์ของ Albus และ Grindelwald อยู่เสมอ และกลัวว่าความหลงใหลในศาสตร์มืดของ Grindelwald นั้นจะพา Albus เข้าสู่เส้นทางที่มืดบอดไปกับเขาด้วย เพราะ Grindelwald นั้นเคยเกลี้ยกล่อม Albus ให้เข้าร่วมกับเขาในการก่อสงครามกับพวกมักเกิ้ลสำเร็จมาแล้วครั้งหนึ่ง และพวกเขาก็เริ่มวางแผนไปแล้วบางส่วนอีกด้วย Aberforth ต้องเผชิญหน้ากับทั้งสองเพื่อขัดขวางแผนการของพวกเขา ทำให้เกิดการต่อสู้ขึ้นระหว่างพ่อมดหนุ่มสามคนในบ้านของครอบครัว Dumbledore
ท่ามกลางการต่อสู้ของพวกเขา เวทมนตร์ของเขาคนใดคนหนึ่งได้คร่าชีวิตน้องคนสุดท้องของครอบครัว Dumbledore อย่าง Ariana ที่เพิ่งเข้าสู่วัยรุ่นในขณะนั้นไป และทำให้เธอไม่สามารถควบคุมการใช้พลังของเธอได้หลังจากนั้น โดยที่พ่อมดหนุ่มทั้งสามคนไม่เคยมีใครรู้เลยว่าเวทมนตร์ที่ทำร้าย Ariana นั้นเป็นเวทมนตร์ของใคร แต่ใน ความลับของดัมเบิลดอร์ นั้น Albus ได้กล่าวเอาไว้ว่า “มันไม่สำคัญหรอกว่าจะเป็นเวทมนตร์ของใคร” เพราะผลจากกระทำครั้งนั้นจะตามหลอกหลอนพวกเขาทั้งสามคนไปตลอดชีวิต และในตอนนั้น Grindelwald ก็ได้หนีออกจากบ้านของครอบครัวดัมเบิลดอร์ไป ทำให้ความสัมพันธ์ของ Albus กับ Grindelwald จบลงอย่างถาวร และ Aberforth ก็ไม่เคยให้อภัยพี่ชายของเขาอีกเลย
แม้ว่า Ariana จะเสียชีวิตไปนานแล้ว แต่ช่วงสุดท้ายของภาพยนตร์ภาค อาชญากรรมของกรินเดลวัลด์ ก็ได้เปิดเผยว่าตัวละคร Credence Barebone ที่แสดงโดย Ezra Miller ก็เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว Dumbledore ด้วยเช่นกัน Credence นั้นมีส่วนที่คล้ายกับ Ariana ตรงที่เขาไม่สามารถควบคุมเวทมนตร์ของเขาได้ และมักจะปล่อย Obscurus ของเขาออกมาอย่างไม่ตั้งใจอยู่บ่อยครั้ง Credence ตกอยู่ภายใต้การควบคุมของ Percival Graves (รับบทโดย Colin Farrell) ซึ่งถูกเปิดโปงว่าเขานั้นเป็นเพียงแค่ร่างปลอมของ Grindelwald เท่านั้น Grindelwald ได้ชักจูงและชักชวนให้ Credence เข้าร่วมกับกองทัพของเขา โดยให้ Credence สาบานว่าจะจงรักภักดีกับเขา และหลังจากนั้น เขาก็ได้บอกกับ Credence ว่าแท้จริงแล้วตัวตนของ Credence นั้นคือ Aurelius Dembledore
ใน ความลับของดัมเบิลดอร์ Credence ได้ตามล่า Albus เพราะต้องการฟังความจริงจากปากเขา ซึ่ง Albus เองก็ได้ยอมรับว่า Credence นั้นเป็นส่วนหนึ่งของตระกูล Dumbledore จริง หลังจากนั้น Albus ก็ได้บอกความจริงทั้งหมดของพวกเขาให้กับ Newt ว่าแท้จริงแล้ว Credence นั้นเป็นลูกนอกสมรสของ Aberforth แม่ของ Credence ถูกฆ่าตายเมื่อนานมาแล้ว และด้วยเหตุนี้ Aberforth จึงไม่สามารถดูแลลูกชายของเขาได้ ทำให้เขาส่ง Credence ไปยังอเมริกาเพื่อให้เขาได้เจอกับพ่อแม่บุญธรรมที่พร้อมจะดูแลเขาจริงๆ ซึ่งนั่นเป็นความจริงที่ไม่เคยมีใครรู้มาก่อนนอกจาก Leta Lestrange (รับบทโดย Zoe Kravitz) และ Credence ก็ได้เติบโตมาโดยไม่เคยรู้ถึงพลังวิเศษของตัวเองเลย
Aberforth นั้นหวังเพียงว่าจะได้สานสัมพันธ์กับลูกชายอีกครั้ง แต่ความเจ็บปวดจากการสูญเสียทั้งน้องสาวและภรรยาไปทำให้เขากังวลเกี่ยวกับคำสาปในตระกูล Dumbledore ที่ว่าใครที่เป็นคนตระกูลนี้จะต้องตาย โดย Albus หวังเพียงว่า Aberforth จะกล้าพอที่จะเอื้อมมือออกไปหาลูกชายของตนและหวังว่าตัวเองจะเป็นลุงที่ดีกว่าการเป็นพี่ชาย โดย Albus ไม่เคยรู้เลยว่า Aberforth นั้นแอบติดต่อกับ Aurelius มาตลอดผ่านทางกระจกในร้าน Hog’s Head
ในที่สุด Aurelius ก็ตัดสินใจทรยศ Grindelwald และเลือกที่จะเปิดโปงความโกหกหลอกลวงของเขาก่อนการเลือกตั้งของโลกเวทมนตร์จะมาถึง แม้ว่าเขาจะได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสู้รบ แต่ในที่สุด Aurelius ก็ได้เจอกับพ่อของเขาอีกครั้ง ภายใต้การเฝ้ามองของ Albus การที่สองพ่อลูกได้กลับมาเจอกันอีกครั้งนั้นก็เป็นการทำให้ความสัมพันธ์ของ Albus และ Aberforth นั้นเริ่มกลับมาดีขึ้นอีกครั้ง แม้ว่าตอนจบของภาพยนตร์จะทำให้แฟนๆ นั้นตั้งคำถามว่าแล้วภาคที่สี่และห้าของแฟรนไชส์นี้จะไปต่ออย่างไรในเมื่อปมถูกคลี่คลายแล้ว แต่เท่าที่เรารู้ตอนนี้ก็คือ ครอบครัว Dumbledore นั้นอาจจะมีความสงบสุขเกิดขึ้นบ้างแล้วก็เป็นได้
คุณต้อง สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ ก่อน เพื่อที่จะสามารถแสดงความคิดเห็นได้