จากตัวหนังสือสู่การมีชีวิตของตัวละคร ทั้ง 'Salem's Lot' และ 'Deep Water' รวม 7 ภาพยนตร์ที่ดัดแปลงมาจากหนังสือที่จะลงจอในปี 2022 นี้
นี่คือภาพยนตร์ที่ดัดแปลงมาจากต้นฉบับที่เป็นแบบฉบับหนังสือ จากตัวอักษรของผู้เขียน สู่การโลดแล่นบนจอในปี 2022 นี้
มีภาพยนตร์คลาสสิกจำนวนนับไม่ถ้วนที่ถูกดัดแปลงมาจากหนังสือที่เป็นที่รักของเหล่านักอ่าน ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ Fight Club (1999), ภาพยนตร์ไตรภาค The Lord of the Rings (2001), Life of Pi (2012) และ A Clockwork Orange (1971) ที่ล้วนถูกดัดแปลงมาจากแบบฉบับนิยายทั้งสิ้น
ไม่ว่าคุณจะเข้าไปดูภาพยนตร์ในโรงภาพยนตร์หรือล็อกอินเข้าสู่ช่องทางสตรีมมิ่งที่คุณสามารถทุกรายละเอียดของภาพยนตร์ได้ก็ตาม แต่บางครั้งคุณไม่รู้ด้วยซ้ำว่าภาพยนตร์เรื่องนั้นถูกสร้างมาจากหนังสือ ซึ่งคุณสามารถมั่นใจได้เลยว่าหนังสือเหล่านั้นมีดีพอก่อนที่จะมาโลดแล่นอยู่บนจอภาพยนตร์!
สิ่งที่คุณกำลังจะได้อ่านในบทความหลังจากนี้ เป็นผลงานหนังสือที่ถูกดัดแปลงมาเป็นบทของภาพยนตร์ที่น่าจะจับตามองและมีกำหนดฉายในปี 2022 นี้
Bullet Train (จากผลงานของนักเขียน Kotaro Isaka)
นวนิยายที่เป็นต้นฉบับของภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นผลงานของนักเขียนชาวญี่ปุ่น Kotaro Isaka ที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นครั้งแรกในประเทศญี่ปุ่นภายใต้ชื่อหนังสือว่า “Maria Beetle” เรื่องย่อของภาพยนตร์ Bullet Train นั้นจะบอกเล่าเรื่องราวของเที่ยวรถไฟที่น่าระทึกของนักฆ่าทั้งห้าคนที่มีเป้าหมายคนเดียวกัน และต้องการที่จะกำจัดเป้าหมายนั้นในขณะที่พวกเขานั้นเดินทางอยู่บนรถไฟ
แฟนๆ ของนิยายเรื่องนี้ (รวมไปถึงแฟนๆ ของบรรดาดาราสวยๆ หล่อๆ ด้วยนะ) จะได้เพลิดเพลินไปกับใบหน้าหล่อๆ ที่เป็นที่ชื่นชอบของพวกเขา เพราะภาพยนตร์เรื่องนี้จะนำแสดงโดย Brad Pitt และ Sandra Bullock ที่จะฉายในฤดูร้อนนี้ โดยผู้กำกับจากภาพยนตร์ Deadpool 2 (2018) และ John Wick (2014) อย่าง David Leitch จะมาเป็นคนกำกับเรื่องนี้อีกด้วย ซึ่งเราสามารถวางใจในตัวผู้กำกับคนนี้ได้เลยว่าเขาจะสามารถถ่ายทอดความน่าตื่นเต้นและคิวบู๊ของภาพยนตร์เรื่องนี้ออกมาได้เป็นอย่างดี โดยภาพยนตร์เรื่อง Bullet Train มีกำหนดเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ในวันที่ 15 กรกฎาคมที่จะถึงนี้
Where The Crawdads Sing (จากผลงานของนักเขียน Delia Owens)
โปรดิวเซอร์สาวอย่าง Reese Witherspoon สามารถรู้ได้ทันทีว่านวนิยายเรื่องไหนที่เป็นผลงานคุณภาพเมื่อเธอเห็นมัน ซึ่งเธอได้เพิ่มผลงานนวนิยายเรื่อง Where The Crawdads Sing ที่เขียนโดยนักเขียน Delia Owens ลงในรายชื่อหนังสือที่ต้องอ่านในชมรมหนังสือ “Hello Sunshine” ของเธอในปี 2018 ด้วย และเมื่อเราตัดภาพมาที่ปัจจุบัน หนังสือเรื่องนี้ได้ครองตำแหน่งหนังสือขายดีนานกว่า 125 สัปดาห์ นั่นพอจะแสดงให้พวกคุณมั่นใจในคุณภาพของหนังสือเรื่องนี้ได้มั้ยล่ะ?
โดยเรื่องราวของเรื่องนี้นั้นเกิดขึ้นในสองไทม์ไลน์ที่อยู่คนละช่วงเวลา นั่นคือในช่วงปี 1950 และปี 1969 สถานที่คือที่ป่าชายเล่นบริเวณชายฝั่ง North Carolina โดยในไทม์ไลน์แรกของเรื่องจะเป็นเรื่องราวของเด็กสาวที่มีชื่อว่า Kya (แสดงโดย Jojo Regina) ที่เธอต้องดูแลตัวเองตั้งแต่อายุยังน้อยหลังจากที่แม่และพี่น้องทิ้งเธอไป และปล่อยให้เธออาศัยอยู่ตามลำพังกับพ่อที่ติดเหล้าซึ่งเขาจะอยู่กับเธอเป็นบางครั้งเท่านั้น
โดยในไทม์ไลน์ที่สองเราจะพบว่า Kya (แสดงโดย Daisy Edgar-Jones) ในวัยผู้ใหญ่นั้นกำลังเข้าไปพัวพันกับคดีฆาตกรรมที่เกี่ยวข้องเด็กหนุ่มเจ้าเสน่ห์ในละแวกเดียวกันอย่าง Chase (แสดงโดย Harris Dickinson) หลังจากนั้นเรื่องราวก็ได้พลิกผันจากความทรงจำอันแสนเจ็บปวดในวัยเด็กที่ต้องสู้ดิ้นรนไปสู่คดีฆาตกรรมที่เราไม่รู้ว่าใครเป็นคนลงมือ เรื่องราวที่ถูกเขียนขึ้นอย่างชาญฉลาดในฉบับหนังสือทำให้ผู้ผลิตนั้นมั่นใจมากพอที่จะนำเรื่องนี้มาสร้างภาพยนตร์
เนื่องจากภาพยนตร์เรื่องนี้มีกำหนดฉายในวันที่ 22 กรกฎาคมนี้ ผู้กำกับอย่าง Olivia Newman (ที่ส่วนใหญ่เธอเป็นที่รู้จักการกำกับซีรีส์ที่ฉายทางโทรทัศน์) จึงต้องก้าวเท้าลงมาในบ่อแห่งการถ่ายทำด้วยตัวเองเลยทีเดียว
Salem’s Lot (จากผลงานของนักเขียน Stephen King)
นอกเหนือจากซีรีส์และมินิซีรีส์เพียงไม่กี่เรื่อง เราก็ยังไม่เคยเห็นนิยายยอดนิยมของนักเขียนชื่อดัง Stephen King ถูกดัดแปลงเป็นภาพยนตร์มาเป็นเวลาสองถึงสามปีแล้ว แต่เวลาการแห่งรอคอยก็ใกล้สิ้นสุดลงแล้ว เมื่อ Salem’s Lot มีกำหนดเข้าฉายในโรงภาพยนตร์วันที่ 9 กันยายนในปี 2022 นี้
นวนิยายคลาสสิกของ King ที่ถูกตีพิมพ์ในปี 1975 ในชื่อเดียวกันกับภาพยนตร์เป็นเรื่องราวของ Ben Mears (แสดงโดย Lewis Pullman) ที่ได้กลับมายังบ้านเกิดของตัวเองและพบว่าผู้คนที่เติบโตมากับเขานั้นกำลังถูกคุกคามโดย (หรือไม่พวกเขาก็กลายเป็น) แวมไพร์ เป็นหัวข้อที่น่าเอาไปคุยกับเพื่อนในงานเลี้ยงรุ่นของเพื่อนสมัยมัธยมใช่มั้ยล่ะ! Ben ต้องร่วมมือกับเพื่อนเก่าของเขาเพื่อต่อสู้กับภัยคุกคามจากเหล่าซากศพเดินได้พวกนี้
โดยภาพยนตร์เรื่องนี้จะได้ตัว Garry Dauberman กลับมากำกับภาพยนตร์ที่ดัดแปลงมาจากนิยายของ King อีกครั้ง ซึ่งเขาก็เคยกำกับผลงานเรื่องก่อนๆ อย่าง It (2017) และ It: Chapter 2 (2019) มาแล้ว อันที่จริง หากคุณลองไปหาดูรายชื่อหนังที่ผู้กำกับคนนี้เคยกำกับ คุณจะรู้เลยว่าภาพยนตร์เรื่องนี้นั้นเป็นแนวของเขาเลยล่ะ
Deep Water (จากผลงานของนักเขียน Patricia Highsmith)
บางครั้งหลายๆ คนก็พยายามอย่างมากที่จะรักษาชีวิตแต่งงานของพวกเขาเอาไว้ในแบบที่เราคาดไม่ถึง และในปี 1957 นวนิยายที่ถูกเขียนโดยนักเขียน Patricia Highsmith ที่มีชื่อเรื่องว่า Deep Water ก็ได้ถ่ายทอดเรื่องราวการรักษาชีวิตแต่งงานให้แผ่ขยายออกไปอีก
ภาพยนตร์เรื่องนี้จะทำให้เรื่องราวคลาสสิกนี้กลับมามีชีวิตอีกครั้งบนจอภาพยนตร์ ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้จะเกี่ยวกับคู่สามีภรรยา Vic (แสดงโดย Ben Affleck) และ Melinda (แสดงโดย Ana de Armas) ที่พวกเขากำลังอยู่ในช่วงระหองระแหงที่การหย่าดูเหมือนจะอยู่ใกล้แค่เอื้อม แต่ดูเหมือนว่า Vic ยังคงไม่หมดหวังที่จะรักษาชีวิตแต่งงานของเขากับภรรยาเอาไว้ เขาจึงได้เสนอวิธีผิดศีลธรรมที่อาจช่วยรักษาชีวิตแต่งงานเขาเอาไว้ได้ นั่นคือการให้ Melinda สามารถไปมีความสัมพันธ์กับผู้ชายคนอื่นได้ ที่น่าตกใจ (หมายถึงตกใจจริงๆ ไม่ได้แซะนะ) คือดูเหมือนว่าทุกอย่างจะไม่ได้เป็นไปตามแผน และก่อนที่คุณจะรู้ตัว การแต่งงานของพวกเขาในครั้งนี้ก็นำไปสู่การพัวพันกับการฆาตกรรมและการหลอกลวงนับไม่ถ้วน
โดยภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ลงสตรีมผ่านทาง Hulu ไปเมื่อวันที่ 18 มีนาคมที่ผ่านมา Deep Water นั้นกำกับโดย Adrian Lynn ที่เคยฝากผลงานแนวระทึกขวัญเอาไว้มากมาย เช่น 9 1/2 Weeks (1986), Fatal Attraction (1987) และ Unfaithful (2002)
เอาล่ะ แค่นี้พวกคุณก็คงพอจะเดาแนวทางของเรื่องได้แล้วล่ะมั้ง?
The School For Good And Evil (จากผลงานของนักเขียน Soman Chainani)
ได้ยินเสียงอะไรมั้ย? นั่นคือเสียงการมาของภาพยนตร์ที่ถูกดัดแปลงมาจากซีรีส์นวนิยายแฟนตาซีไงล่ะ!
ภาพยนตร์เรื่อง The School For Good And Evil นั้นมาจากเล่มแรกของชุดซีรีส์นิยายแฟนตาซีที่เขียนโดยนักเขียน Soman Chainani ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากหลังจากที่นิยายถูกตีพิมพ์ออกมาเมื่อปี 2013 โดยเราสามารถตั้งตารอต้อนรับเรื่องเล่าแห่งเทพนิยายเรื่องนี้ที่มีแผนจะลงสตรีมผ่านทาง Netflix ในช่วงครึ่งหลังของปี 2022 นี้
เนื้อเรื่องจะเล่าเรื่องราวของเพื่อนรักทั้งสองคน คือ Sophie (แสดงโดย Sophia Anne Caruso) และ Agatha (แสดงโดย Sofia Wylie) ผู้ซึ่งแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง หลังจากที่ Sophie เด็กหญิงที่สง่างามตั้งแต่เกิดถูกพาตัวไป (จริงๆ เรียกว่าถูกลักพาตัวไปจะเหมาะกว่า) ที่โรงเรียนแห่งความ “ดี” เพื่อที่จะผลักดันเธอไปยังหนทางที่จะทำให้เธอสง่างามยิ่งกว่าเดิม ทำให้ Agatha ที่คนรอบตัวเธอต่างก็คิดว่าเธอเป็นแม่มดตัดสินใจว่าเธอจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้มั่นใจว่าเธอนั้นถูกพาไปที่โรงเรียนพร้อมกับ Sophie ด้วยเพื่อช่วยเหลือเพื่อนรักของเธอ แต่อย่างไรก็ตาม โชคชะตากลับพลิกผันเพราะ Sophie เลือกที่จะเดินทางตามคำสั่งสอนที่ “ชั่วร้าย” ในขณะที่ Agatha กำลังฝึกฝนอยู่ในโลกแห่งความดี
ทิศทางของเรื่องราวนี้ดูจะมุ่งหน้าไปในทิศทางที่ “ชั่วร้าย” ใช่มั้ยล่ะ?
โดย Paul Feig จะมารับหน้าที่ผู้กำกับของซีรีส์จากนวนิยายเรื่องนี้ ด้วยประวัติการกำกับซีรีส์เรื่อง Freaks and Geeks (1999), Arrested Development (2003) และ The Office (2005) ของเขานั้นสามารถทำให้เรามั่นใจได้ว่าเราจะได้ “รอยยิ้ม” จากการดูซีรีส์เรื่องนี้อย่างแน่นอน นอกจากนั้นยังนำทีมด้วยนักแสดงอย่างเช่น Charlize Theron, Michelle Yeoh, Kerry Washington, Laurence Fishburne และ Ben Kingsley
Luckiest Girl Alive (จากผลงานของนักเขียน Jessica Knoll)
ในฐานะหนึ่งในนิยายล่าสุดที่ได้เข้าไปอยู่ในรายชื่อหนังสือขายดีของ New York Times ในปี 2015 ทำให้นวนิยายเรื่อง Luckiest Girl Alive ของนักเขียน Jessica Knoll (แถมเรื่องนี้ยังเป็นนิยายเรื่องแรกของเธออีกด้วย) ได้ถูกนำมาดัดแปลงเป็นบทภาพยนตร์ที่มีกำหนดลงฉายทาง Netflix ในช่วงปลายปีนี้ โดยบริษัทภาพยนตร์ของ Reese Witherspoon ได้ซื้อลิขสิทธิ์นิยายเรื่องนี้ก่อนที่มันจะถูกตีพิมพ์เสียด้วยซ้ำ
โดยเรื่องนี้จะบอกเล่าเรื่องราวของ Ani (แสดงโดย Mila Kunis) ผู้ซึ่งพยายามผลักดันให้ตัวเองกลายเป็นหญิงสาวที่ประสบความสำเร็จให้ได้ แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อความจริงในอดีตของเธอถูกเปิดเผยซึ่งก็ได้ทำให้เราได้เห็นเหตุการณ์ในอดีตที่น่าสยดสยองหลายเหตุการณ์ รวมไปถึงเหตุกราดยิงในโรงเรียนและการข่มขืนที่นับเป็นโศกนาฏกรรมที่สร้างบาดแผลในใจเอาไว้ให้เธอ และเพราะเรื่องราวที่มีจุดพลิกผันนับไม่ถ้วน ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้จะเป็นหนังระทึกขวัญที่ชวนติดตามอย่างแน่นอน
และด้วยฝีมือการกำกับของ Mike Barker ที่เคยฝากผลงานดราม่าน่าจะตะลึงมาแล้วในซีรีส์ Fargo (2014) และ The Handmaid’s Tale (2017) ทำให้เรามั่นใจได้เลยว่าเราจะติดหนึบกับเรื่องราวของภาพยนตร์เรื่องนี้อย่างแน่นอน
Blonde (จากผลงานของนักเขียน Joyce Carol Oates)
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมามีหนังสือ ละครโทรทัศน์ และภาพยนตร์มากมายที่เกี่ยวกับเรื่องราวของ Marilyn Monroe ซึ่งเกือบทั้งหมดนั้นมักจะกล่าวว่าเป็นเรื่องราวที่มาจากเรื่องจริงและมอบโอกาสให้เราในการแอบดูชีวิตของนักแสดงสาวที่มีชื่อเสียงที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์ แต่อย่างไรก็ตาม นักเขียนเจ้าของนวนิยายขายดีในปี 2000 อย่าง Joyce Carol Oates ก็ได้ตัดสินใจว่าจะทำให้ผู้อ่านนั้นมั่นใจว่าเรื่องนี้เป็นนิยายที่ถูกแต่งขึ้น ไม่ใช่ชีวประวัติของนักแสดงสาวคนนี้แต่อย่างใด
แต่ถึงนักเขียนอย่างเธอจะยืนยันด้วยตัวเองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ถูกแต่งขึ้น แต่แฟนๆ ของนวนิยายเรื่องนี้บางส่วนก็ยังคงโต้แย้งว่าเหตุการณ์ในนิยายเรื่องนี้บางส่วนนั้นมาจากความจริง รวมไปถึงทฤษฎีสมคบคิดที่ว่าประธานาธิบดี John F. Kennedy และน้องชายของเขา Robert Kennedy มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของนักแสดงสาว แต่ภาพยนตร์ที่ดัดแปลงมาจากนวนิยายเรื่องนี้อย่าง Blonde จะไม่ได้ใช้ชื่อจริงของใครก็ตามที่มีทฤษฎีสมคบคิดว่าเกี่ยวข้องกับชีวิตของเธอเลย
แต่ไม่ว่าจะใช้ชื่อจริงหรือไม่ใช้ เป็นความจริงหรือเป็นเพียงเรื่องที่ถูกแต่งขึ้น แต่แฟนๆ ของ Marilyn ก็ยังคงสามารถเพลิดเพลินไปกับเรื่องราวของเธอในฐานะ Norma Jean (แสดงโดย Ana de Armas) ที่พยายามไต่เต้าไปยังจุดสูงสุดของวงการ Hollywood ได้อย่างไม่ติดขัดตรงจุดไหนอย่างแน่นอน
ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ตัวผู้กำกับ Andrew Dominik มากำกับ โดยเขาได้ฝากผลงานที่น่าตะลึงเอาไว้อย่างเช่น Killing Them Softly (2012) และ The Assassination of Jesse James by the Coward Robert Ford (2007) และภาพยนตร์เรื่องนี้มีกำหนดฉายในโรงภาพยนตร์ภายในปี 2022 นี้
แต่ละเรื่องสรุปมาดีมากครับ ผลงานคุณภาพ หาข้อมูลเสริมด้วยใช่ไหมครับเนี่ยอ่านลื่นจริง ๆ
คุณต้อง สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ ก่อน เพื่อที่จะสามารถแสดงความคิดเห็นได้