หลังจากที่รีวิวภาพรวมของ trailer Moonlight Chicken พระจันทร์มันไก่ไปแล้ว พล็อตจากตัวอย่างมีความน่าสนใจ ด้วยการเล่าเรื่องของคนกลางคืน อาชีพในยามค่ำคืนที่ไม่ค่อยมีการพูดถึง บวกกับการนำเสนอให้เป็นหนักรักโรแมนติกจึงทำให้ต้องตามไปดูในซีรีส์กันเลยทีเดียว โดยตอนนี้ได้สตรีมมิ่งไปแล้ว 3 Episode ถือว่าทำออกมาได้ดีเหมือนกันที่ในตัวอย่างได้นำเสนอไว้

เปิดฉากมาสำหรับ Episode แรกด้วยการรายงานข่าวร้านข้าวไก่เที่ยงคืนที่กำลังโด่งดัง เป็นการปูเข้าเรื่องเกี่ยวกับสถานที่หลักของเรื่องได้น่าตื่นเต้นเลยทีเดียว แต่การเปิดตัวนักแสดงหลักไม่ว่าจะเป็นลุงจิม (เอิร์ท พิรพัฒน์) และเหวิน (มิกซ์ สหภาพ) อาจจะยังไม่ได้โดดเด่นเท่าไหร่นัก รวมไปถึงการเจอกันครั้งแรกก็ไม่ได้น่าสะดุดตาเหมือนกับซีรีส์รักโรแมนติกมักจะนำเสนอกัน แต่ทุกอย่างก็ดูสมูทไปต่อได้อยู่ดี ส่วนเรื่องของความสัมพันธ์และจุดเริ่มต้นในเรื่องอย่างที่ตัวอย่างได้นำเสนอเกี่ยวกับความสัมพันธ์แบบชั่วข้ามคืนของลุงจิมและเหวิน เหมือนมีความไม่สมเหตุสมผลอยู่บ้างแต่ถ้ามองให้เป็นซีรีส์ที่อยู่อย่างสบายใจทุกอย่างก็ไม่ได้แย่เกินไปนัก ด้วยฉากที่เหวินเมาและกลับบ้านไม่ได้บอกว่ากำลังโทรหาเพื่อน แต่ไม่มีเพื่อนมารับแล้วเหวินก็หมดสติจนลุงจิมต้องพากลับบ้านแล้วล่วงเลยจนเกิดสัมพันธ์ที่เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่อง แต่สุดท้ายก็ไม่มีเพื่อนติดต่อกลับแล้วก็ไม่ได้พูดถึงประเด็นของเพื่อนคนนั้นอีกเลย เหมือนจงใจที่จะวางพล็อตเรื่องให้ทั้งสองคนได้อยู่ด้วยเพื่อจุดประกายเนื้อเรื่องต่อ และใน Episode แรกก็เล่าแค่ในมุมของสถานการณ์ตัวละครหลักกว่า 90% เลย ยังไม่ได้เล่ามุมอื่นหรือความสัมพันธ์ละครตัวอื่นเลย กว่าจะได้เห็นเรื่องราวมุมอื่นก็ท้ายๆ เรื่องแล้ว และมาเริ่มต้นเล่ามุมอื่นๆ เปิดตัวนักแสดงเพิ่มก็ใน Episode 2 และ 3 แล้ว

จากในภาพรวมที่เหมือนว่าตัวละครมากมายทีมีบทเข้ามาจะมองไม่เห็นความสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้องกับตัวละครหลัก แต่หลังจากได้รับชมก็เข้าใจในจุดประสงค์ของการนำเสนอแล้วว่าทุกบทบาทในเรื่องจะมีการเชื่อมโยงและเริ่มต้นกันอยู่ที่ร้านพระจันทร์มันไก่ของลุงจิมนั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นตัวละครของแพรว (รับบทโดย วิว เบญญาภา) ที่เป็นแฟนของซาเล้ง (รับบทโดย มาร์ค ภาคิน) ซึ่งเป็นเด็กในร้านของลุงจิม หรือจะเป็นบทบาทของฮาร์ท (รับบทโดย เจมมีไนน์ นรวิชญ์) ที่ถูกเชื่อมด้วยบทบาทของหลี่หมิง (รับบทโดย โฟร์ท ณัฐวรรธน์) ที่ต้องไปทำงานใช้หนี้และดูแลกัน เรียกได้ว่าทุกบทบาทและทุกตัวละครที่เขียนขึ้น ถูกวางเรื่องราวไว้เป็นอย่างดีแล้ว แต่ก็ยังคงยืนยันคำเดิมว่า แม้จะเหมือนมีบางอย่างที่รู้สึกขัดใจไปบ้างกับความสมเหตุสมผลที่จะให้เนื้อเรื่องเดินต่อได้ แต่ก็นำเสนอได้สมูทลงตัวพอดี

ในส่วนของคอนเซปต์ของเรื่องที่เล่าเรื่องของคนกลางคืนใส่สไตล์และวัฒนธรรมแบบจีนเข้าไป ไม่ว่าจะโลเคชั่น องค์ประกอบฉาก ชื่อตัวละคร รายละเอียดต่างๆ ถ่ายทอดออกมาอย่างชัดเจน คงคอนเซปต์ได้ครอบคลุมทุกรายละเอียด หรือแม้แต่เรื่องของธรรมเนียมการไหว้พระจันทร์ก็ยังนำมาเป็นส่วนหนึ่งของฉากได้อย่างสวยงามอีกด้วย อีกทั้งในส่วนของ mood และสีสันของเรื่องก็ไกล่สีได้อย่างสมดุล ทำให้อารมณ์ของซีรีส์มีความอบอุ่นและอบอวลไปด้วยความรักมากยิ่งขึ้น ด้วยสีที่เน้น สีเหลือง สีส้ม แต่ไม่ได้ร้อนแรงเกินไปจนกลายเป็นความอบอุ่นที่ลงตัวได้ และในพล็อตเรื่องที่เหมือนจะเป็นซีรีส์วายที่ขายความรักโรแมนติกอย่างเดียว แต่เมื่อได้ดูในเนื้อเรื่องแล้วยังมีเรื่องของความขัดแย้งของมุมมองธุรกิจ ที่จะมาเป็นอีกหนึ่งปมเพื่อพิสูจน์ความรักของลุงจิมและเหวินอีกด้วย

หลังจากที่ผู้เขียนได้รับชมไปทั้ง 3 Episode ก็พูดได้เลยค่อนข้างแปลกใจทั้งในส่วนของการเล่าเรื่องและฝีมือการแสดง คราวนี้ผู้กำกับอย่าง อ๊อฟ นพณัช ถือว่ามีลูกเล่นใหม่ๆ ที่ทำให้ซีรีส์วายเติบโตและก้าวข้ามกรอบในแบบเดิมๆ ได้ มีการใส่รายละเอียดที่สะท้อนสังคม มีการจิกกัดสังคมและผู้คนในปัจจุบัน จิกกัดการเมืองและกฎหมายอยู่บ้าง ด้วยนำเสนอในมุมแบบตลกขำขันไม่ได้จงใจโจมตีความขัดแย้งใด ตรงนี้รู้สึกได้ว่าทางผู้กำกับอยากถ่ายทอดอะไรที่มากกว่าหนังรักโรแมนติกทั่วไป ทำให้ซีรีส์มีหลายรสชาตและน่าจับตามองมากขึ้น รวมไปถึงไม่ได้ขายความจิ้นจนลืมความสมจริง หรือขายฉากรักที่เลี่ยนเกินไป และถึงแม้ในเรื่องจะมีฉากเลิฟซีนที่ติด 18+ กันเลยทีเดียว แต่การถ่ายทอดและการส่งอารมณ์ต่างๆ ถูกถ่ายทอดให้รับรู้ถึงความรู้สึกจริงๆ ของตัวละครมากกว่าแค่เรื่องเลิฟซีนให้ได้ฟินเฉยๆ แล้วบวกกับตัวเอิร์ทและมิกซ์ก็ถ่ายทอดออกมาได้อย่างลงตัวไม่มากหรือน้อยเกินไปด้วย แล้วถ้าพูดถึงการแสดงในเรื่องนี้ก็มีอีกหนึ่งบทบาทที่ไม่พูดถึงไม่ได้กับบทบาทของ ‘ฮาร์ท’ เด็กหนุ่มที่ประสบอุบัติเหตุจนทำให้บกพร่องทางการได้ยินและทำให้พูดไม่ได้ ซึ่งบทนี้ถือว่ามีความยากในตัวค่อนข้างมากต้องส่งอารมณ์ทางสายตาและท่าทางอย่างมากเพื่อให้คนดูรับรู้ตามไปด้วย แต่เจมมีไนน์ก็สามารถทำออกมาดีเลยทีเดียว

โดยรวมแล้ว moonlight chicken พระจันทร์มันไก่ ถือว่าเล่าเรื่องได้ดีตรงตามที่นำเสนอใน trailer ไว้ อาจจะมีการเล่าเรื่องอ้อยอิ่งไปบ้างแต่ก็ไม่ถึงกับน่าเบื่อเกินไปนัก จาก 3 Episode ที่ได้รับชมก็ทำให้อยากติดตามและร่วมลุ้นไปกับความรักต้องห้ามของลุงจิมและเหวิน พร้อมกับเรื่องราวและปัญหาต่างๆ ในเรื่อง ว่าบทสรุปแล้วจะจบอย่างไร จะเล่าออกมาในทิศทางไหนในอีก 5 episode ที่เหลือ สามารถติดตามรับชมผ่านสตรีมมิ่งบนแพลตฟอร์ม Disney+ Hotstar ได้ในวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 18.00 น.