ล้านแตก! ภาพยนตร์ Bullet Train ทำรายได้ทะลุ 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐใน Box Office ทั่วโลก!

ผลงานภาพยนตร์แนวแอ็กชันของ Brad Pitt กำลังใกล้จะหมดแรง!

image

ปัจจุบัน ภาพยนตร์ Bullet Train (2022) ผลงานของผู้กำกับ David Leitch เข้าฉายในโรงภาพยนตร์มาเป็นเวลากว่าสองสัปดาห์แล้ว แต่เราก็ยังคงดูไม่ออกว่าภาพยนตร์แอ็กชันเรื่องนี้จะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอีกหรือไม่ โดยภาพยนตร์เรื่องนี้ถ่ายทำขึ้นภายใต้งบประมาณมากถึง 90 ล้านดอลลาร์ และในขณะที่บทความนี้กำลังเขียนขึ้น ภาพยนตร์เรื่อง Bullet Train ก็ทำรายได้ในประเทศไปเกือบ 70 ล้านดอลลาร์ และในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ทำรายได้ทะลุ 150 ล้านดอลลาร์ทั่วโลกแล้ว!

image

หากว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะเป็นเหมือนผลงานครั้งก่อนของผู้กำกับ Leitch - Fast & Furious Presents: Hobbs & Shaw (2019) - แล้วล่ะก็ ภาพยนตร์ Bullet Train ก็น่าจะปิดยอดในวันสุดท้ายของการฉายด้วยรายได้ประมาณ 100 ล้านดอลลาร์จากการฉายในประเทศ โดยในปัจจุบัน ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ทำรายได้เทียบเท่ากับภาพยนตร์แนวแอ็กชัน-คอเมดี้สุดฮิตของสองนักแสดง Sandra Bullock และ Channing Tatum อย่าง The Lost City (2022) โดยภาพยนตร์ The Lost City นั้นปิดการฉายด้วยรายได้มากกว่า 100 ล้านดอลลาร์จากการฉายในประเทศ และเกือบ 200 ล้านดอลลาร์จากการฉายทั่วโลก ซึ่งถือว่าไม่น้อยเลยเมื่อเทียบกับงบประมาณในการถ่ายทำที่มีเพียงแค่ 70 ล้านดอลลาร์เท่านั้น

image

ซึ่งนักแสดงสาว Bullock ก็ตอบรับคำเรียกร้องของแฟนๆ ด้วยการปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งในภาพยนตร์ Bullet Train ประกบ Aaron Taylor-Johnson, Joey King, Brian Tyree Henry, Michael Shannon และ Bad Bunny นอกจากนี้ ภาพยนตร์เรื่อง Bullet Train ยังได้รับคะแนน CinemaScore ในระดับ B+ จากผู้ชมในวันเปิดตัวภาพยนตร์ โดยนักข่าว Ross Bonaime จากสำนักข่าว Collider ได้ให้คำจำกัดความภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า “มีฉากสนุกสนานและป่าเถื่อนมากมายกับความยาวที่นานที่สุดเท่าที่พวกเขาจะทำได้”

image

ภาพยนตร์ Bullet Train เป็นภาพยนตร์เรื่องแรกของ Brad Pitt ที่ทำรายได้ทะลุ Box Office แบบถล่มทลายนับตั้งแต่ผลงานในปี 2019 ของเขาอย่างภาพยนตร์เรื่อง Once Upon a Time in Hollywood ที่ทำรายได้ทั่วโลกไป 374 ล้านดอลลาร์ โดยภาพยนตร์เรื่องนั้นเป็นการรวมทีมดาราดังทั้ง Leonardo DiCaprio, Margot Robbie และผู้กำกับ Quentin Tarantino และบทบาทที่เหนือความคาดหมายล่าสุดของ Pitt นั้นก็คือบทบาทของเขาในภาพยนตร์แนว Science-Fiction เรื่อง Ad Astra (2019) ของผู้กำกับ James Gray ที่ทำรายได้ทั่วโลกไปถึง 135 ล้านดอลลาร์ ซึ่งก็นับว่าพอๆ กับภาพยนตร์ Bullet Train เลยนั่นเอง

image

แต่เรื่องบังเอิญก็คือว่า Leitch นั้นเคยเป็น Stunt ให้กับ Pitt มาก่อนในสมัยนั้น ก่อนที่เขาจะเปิดตัวในฐานะผู้กำกับ (ที่ยังไม่ค่อยน่าเชื่อถือเท่าไรในตอนนั้น) เรื่องแรกกับผลงานภาคแรกของภาพยนตร์ John Wick (2014) และตามมาด้วยหนังระทึกขวัญของสายลับ Atomic Blonde (2017) ซึ่งเป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้ทั่วโลกไปถึง 100 ล้านดอลลาร์จากงบประมาณการถ่ายทำที่ได้มาแค่ 30 ล้านดอลลาร์เท่านั้น แต่ผลงานที่ทำให้ Leitch กลายเป็นที่รู้จักและสร้างชื่อให้เขาก็คือภาพยนตร์ Hobbs & Shaw ที่ทำรายได้ไป 760 ล้านดอลลาร์ทั่วโลก และ Deadpool 2 (2018) ที่ทำรายได้ไป 785 ล้านดอลลาร์ทั่วโลก

image

ภาพยนตร์ Bullet Train เป็นการเปิดตัวครั้งใหญ่ที่สุดครั้งสุดท้ายก่อนที่ช่วงฤดูร้อนจะสิ้นสุดลง และผลงานภาพยนตร์ที่ทำรายได้และได้รับเสียงตอบรับที่น้อยกว่าอย่างเห็นได้ชัดก็ทำให้ความสำเร็จใน Box Office ลดลงอย่างมาก แต่ก็ไม่ได้มีการแข่งขันกันมากนักในระหว่างภาพยนตร์ หากพูดกันตามความเป็นจริงแล้ว การฉายที่ได้ผลตอบรับอย่างเงียบเชียบของภาพยนตร์ Don’t Worry (2022) ของ Olivia Wilde นั้นก็ดูจะยืดเยื้อจนถึงวันที่ 23 กันยายนกันเลยทีเดียว แต่อย่างไรก็ตาม ผู้ชมอาจจะมีแวะไปรับชมภาพยนตร์เล็กๆ อย่าง Beast (2022) ที่นำแสดงโดย Idris Elba และภาพยนตร์ Three Thousand Years of Longing (2022) ของ George Miller บ้าง และในช่วงท้ายของบทความนี้ คุณสามารถรับชมบทสัมภาษณ์ของเรากับ Leitch ได้ที่ด้านล่าง

ที่มา: Collider
0 ความคิดเห็น

คุณต้อง สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ ก่อน เพื่อที่จะสามารถแสดงความคิดเห็นได้

poster
Bullet Train

ระห่ำด่วน ขบวนนักฆ่า

Aug 3, 2022

ข่าวจัดอันดับ

ประจำเดือนนี้