ภาพยนตร์ 9 เรื่อง ที่มีการผจญภัยสุดแฟนตาซีคล้ายกับ Howl's Moving Castle
ภาพยนตร์แอนิเมชันหรือภาพยนตร์ฉบับคนแสดงจริง ที่เป็นที่ชื่นชอบในแนวแฟนตาซีเหนือจินตนาการแปลกประหลาดที่สุดของ Miyazaki
Howl’s Moving Castle ของ Studio Ghibli เป็นภาพยนตร์ที่ให้ความรู้สึก และดูราวกับอยู่ในความฝัน มันเป็นความฝันในแบบที่เราไม่อยากจะลืมตาตื่นขึ้นมา และเราจะไม่ลืมเรื่องราวต่างๆ เหล่านั้นอย่างแน่นอน เพราะแก่นแท้ของความฝันนั้นช่างน่าหลงใหลเหลือเกิน มันเต็มไปด้วยจินตนาการและเสน่ห์ ภาพยนตร์ของ Hayao Miyazaki ได้เติมเต็มชีวิตให้กับเรื่องราวที่เขาสร้างขึ้นโดย Diana Wynne Jones แทนที่จะพยายามสร้างแบบจำลองที่แม่นยำ หากเราพยายามเลือกภาพยนตร์ที่มีคุณสมบัติที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ เราต้องมองหาภาพยนตร์ที่เป็นเรื่องราวของโลกอื่นๆ ที่ไม่เป็นไปตามปกติในชีวิตประจำวัน แม้ว่าโลกอื่นนั้นจะเป็นของเราเองแต่ถูกทำให้เป็นโลกแห่งความแฟนซี แปลกประหลาด สดใหม่ ไม่เหมือนใคร ที่ซึ่งมีความจริง กับความเชื่อมาบรรจบกัน และผสมผสานกันอย่างกลมกลืนด้วยสุนทรียศาสตร์ที่แปลกประหลาด แต่มีความเรียบง่ายเป็นแก่นแท้ ที่มีพื้นฐานมาจากความเป็นจริงที่พวกเขาสามารถกระซิบความจริงที่วหานอมขมกลืน กระตุ้นให้จิตใจของเราคล้อยตาม และบางทีอาจทำให้เราเสียน้ำตาอีกด้วย
Bubble (2022)
แอนิเมชันต้นฉบับจาก Netflix เรื่องนี้นำเสนอโดย Wit Studio ซึ่งเป็นสตูดิโอที่อยู่เบื้องหลังซีรีส์อานิเมะยอดนิยมหลายเรื่อง เช่น Attack on Titan, Vinland Saga สามซีซัน และล่าสุดเรื่อง Spy x Family เทพนิยายที่สะเทือนใจของ Hans Christian Andersen เรื่อง The Little Mermaid เวอร์ชันดิสโทเปียที่จัดฉากในโตเกียว งานภาพที่สวยงามเป็นสิ่งที่ไม่สามารถปฏิเสธได้ ยังมีการสอดแทรกเพื่อตอกย้ำความคล้ายคลึงของบ้านเมืองด้วย แม้ว่าอาจมีการโต้งแย้งว่าเรื่องราวนั้นเอนเอียงไปทางเทพนิยายคลาสสิกมากจนเกินไป ซึ่ง Bubble ได้แบ่งปันความบริสุทธิ์ที่อบอุ่นหัวใจอย่าง Howl ที่นำเสนอแก่นแท้ของความสัมพันธ์
ในสภาพแวดน้อมที่เหมือนความฝันอันเป็นเอกลักษณ์ของตัวละคร โดยตัวละครนั้นมีการเคลื่อนไหวที่ลื่นไหลอย่างน่ามหัศจรรย์
Stardust (2007)
หากคุณกำลังค้นหาเรื่องราวที่โรแมนติก แฟนตาซีสดใส และจริงใจ อย่ามองข้าม Stardust ของ Matthew Vaughn ซึ่งสร้างจากเรื่องดั่งเดิมของ Neil Gaiman นักเขียนชาวอังกฤษผู้มากความสามารถ Stardust ตอกย้ำโครงสร้างเทพนิยายสุดคลาสสิกที่จะพาคุณเดินทางไปอย่างกล้าหาญโดยไม่มีช่วงเวลาที่น่าเบื่อแม้แต่นิดเดียว เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์ที่จูงมือผู้ชมไปพบกับโลกใบใหม่นอกกำแพง แม้ว่าบางคนอาจพูดได้ว่ามันไม่ได้มีแนวคิดที่กระตุ้นความคิดอะไรมากมายอย่าง Howl’s Moving Castle แต่เป็นภาพยนตร์ที่รู้จักใช้วิธีการที่สนุกโดยไม่ต้องกลัวว่าเราจะรู้สึกโง่ นำแสดงโดย Charlie Cox, Claire Danes, Michelle Pfeiffer, Mark Strong และ Robert De Niro ในฐานะโจรสลัด และอื่นๆ อีกหลายคน แก่นแท้ของความรู้สึกดีๆ ของ Stardust จะสร้างรอยยิ้มให้กับคุณได้อย่างแน่นอน
Spirited Away (2001)
ด้วยความสัจจริง ผลงานภาพยนตร์ของ Miyazki ส่วนใหญ่สามารถสร้างชื่อได้อยู่เสมอ แต่ Howl’s Moving Castle ดูเหมือนจะเหมาะสมที่สุด หากคุณเป็นแฟนผลงานภาพยนตร์ของ Miyazaki หรือมีความรู้เกี่ยวกับแอนิเมชันอย่างกว้างขวาง โอกาสที่ Spirited Away แทบจะไม่ต่างจากชีวิตของเรานั้นเป็นไปได้สูงมากในแง่ของแนวคิดและวิธีการที่เราเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ Spirited Away นั้นเป็นภาพยนตร์ที่ทำลายสถิติของญี่ปุ่นที่สามารถทำรายได้สูงสุดมาเกือบ 2 ทศวรรษแล้ว จนกระทั่ว Demon Slayer: Mugen Train เข้าฉายในปี 2020 หากคุณเคยอาศัยอยู่ใต้ก้อนหิน หรือในดินแดนแห่งวิญญาณ โลกคู่ขนาน และไม่เคยเห็นความคลาสสิกนี้มาก่อน นี่อาจเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดของคุณหากต้องการจำลองความรู้สึกในการดู Howl’s Moving Castle ให้ใกล้เคียงที่สุด แม้ว่าธีมของเรื่องจะดูแตกต่างกันเล็กน้อย แต่ภาพยนตร์ทั้งสองเรื่องนี้ก็มีความลุ่มหลงกับประสบการณ์ที่น่ากลัวของการมีอายุที่มากขึ้น ซึ่งสามารถสะท้อนถึงใครก็ตามที่ดูได้อย่างลึกซึ้ง
Maquia: When the Promised Flower Blooms (2018)
การกำกับเรื่องนี้ถือเป็นการเปิดตัวครั้งแรกของ Mari Okada ซึ่งเป็นอีกหนึ่งการสำรวจทางอารมณ์เกี่ยวกับความตาย และกระบวนการชราภาพอย่างเป็นธรรมชาติแต่แฟนตาซี เรื่องราวเกิดขึ้นในยุคกลาง ภาพยนตร์ให้ความรู้สึกที่ละเอียดอ่อนในแบบที่สมจริง ตัวละครและความสัมพันธ์ของพวกเขาแทบไม่มีส่วนไหนที่ทำให้เราไม่เชื่อเลย เพราะพวกเขาล้วนมีความเป็นมนุษย์อย่างแท้จริง ซึ่งภาพยนตร์ของ Miyazaki นั้นก็เป็นแบบนี้เช่นเดียวกัน มันไม่เหมือนกับภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ ไม่ได้เน้นไปที่คู่รักหรือความโรแมนติกซะทีเดียว แต่เป็นการสำรวจความสำคัญของความรักผ่านความเป็นแม่ ด้วยแอนิเมชันที่ลื่นไหลอย่างงดงาม และเสียงพากย์ที่น่าเหลือเชื่อ Maquia: When Promised Flower Blooms กล้าที่จะให้คนดูมีความรู้สึกต่ออารมณ์ที่อ่อนไหว และปล่อยให้ตัวเองได้รู้สึกถึงความเชื่อมโยงที่หวานอมขมกลืน ที่เกิดขึ้นระหว่างความรักและการสูญเสียจากสิ่งที่เป็นที่รักยิ่ง เพราะมันเป็นเวลาที่ต้องเรียกร้องถึงสิ่งเหล่านี้
Labyrinth (1986)
ในเขาวงกตแห่งหนึ่งเด็กสาวที่ชื่อ Sarah รับบทโดย Jennifer Connelly ต้องไขปริศนาเขาวงกตนี้ด้วยเวทมนตร์ภายใน 30 ชั่วโมง เพื่อช่วยน้องชายของเธอ ซึ่งในขั้นตอนนี้เธอได้เรียนรู้หลายสิ่งหลายอย่าง เช่น ไม่ควรมองข้ามสิ่งต่างๆ และยังได้พบกับตัวละครที่น่าสนใจ ทั้งยังแปลกประหลาดอีกด้วย ภาพยนตร์แฟนตาซีสุดคลาสสิกนี้กำกับโดย Jim Henson และบทภาพยนตร์เขียนโดย Terry Jones ของ Monty Python มันเต็มไปด้วยเรื่องราวสุดพลิกผันและเซอร์ไพรส์ ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังได้รับแรงบันดาลใจจากความคิดสร้างสรรค์ และยังเป็นการผสมผสานระหว่าง Alice in Wonderland กับ Wizard of Oz และ The Muppets แต่ฉากนั้นดูเหมือนเขาวงกตที่ไม่มีที่สิ้นสุด นอกจากนี้ Labyrinth ยังผสมผสานองค์ประกอบทางวัฒนธรรมและศิลปะที่มีชื่อเสียง เช่น ภาพวาดลวงตาของ M. C. Escher แน่นอนว่า ยังมีช่วงเวลาทางดนตรีที่เป็นสัญลักษณ์บางอย่างของ David Bowie ในตำนานอีกด้วย
To the Forest of Firefly Lights (2011)
กำกับการโดย Takahiro Ômori ซึ่งเป็นผู้กำกับชื่อดังจากผลงาน Baccano! และ Durarara ทั้ง 2 ซีซัน ซึ่งเป็นภาพยนตร์สั้นที่จะไม่ทำให้ผู้ชมผิดหวัง เป็นภาพยนตร์สั้นที่เรียบง่าย และอ่อนหวานปนความเศร้าผ่านบทกวี To the Forest of Firefly Lights ซึ่งอิงจากมังงะในชื่อเดียวกันโดย Yuki Midorikawa แม้ว่าเวลา 40 นาทีจะรู้สึกเพียงพอต่อการเล่าเรื่องราวแล้วก็ตาม แต่ก็มีคนคนหนึ่งที่จบภาพยนตร์เรื่องนี้โดยหวังว่ามันจะดำเนินต่อไปได้อีก ความผูกพันที่ก่อตัวขึ้นระหวา่งจิตวิญญาณที่อ่อนโอนอย่าง Gin ให้เสียงโดย Koki Uchiyama กับเด็กสาว Hotaru ให้เสียงโดย Ayane Sakura ที่เป็นเสมือนหัวใจของเรื่องคล้ายกับ Howl ให้เสียงโดย Takuya Kimura และ Sophie ให้เสียงโดย Chieko Baishô ที่มีความบริสุทธิ์มาจากในจิตใจ ความสัมพันธ์ที่เราชอบนั้นจะได้เห็นว่ามันคลี่คลายไปในรูปแบบไหนผ่านหน้าจอ
Big Fish (2003)
เรื่องนี้เป็นการเลือกส่วนบุคคล หากผู้อ่านยังไม่เคยเห็นภาพยนตร์เรื่องนี้มาก่อน เตรียมหยิบข้าวโพดคั่ว และทำให้ตัวเองนั่งอยู่หน้าจอก่อนแล้วค่อยกลับมาอ่านบทความของเรื่องนี้
นอกเหนือจากการเป็นตัวเลือกส่วนตัวสำหรับภาพยนตร์ที่จะสามารถเปลี่ยนชีวิตแล้ว มันยังให้ความรู้สึกที่มหัศจรรย์อย่างสร้างสรรค์ที่ไม่รู้จบสำหรับฉากในชีวิตจริงของ Tim Burton ในปี 2003 หากมีผู้กำกับที่มีจินตนาการเป็นคู่แข่งกับ Miyazaki ก็ต้องเป็น Burton นี่แหละ เรื่องนี้เป็นเรื่องจากนวนิยายปี 1998 ของ Daniel Wallace ว่าด้วยเรื่องราวของความสัมพันธ์ที่มีอยู่ใน Big Fish ซึ่งเป็นความสัมพันธ์ระหว่างพ่อที่มีหัวใจในการเล่าเรื่อง กับลูกชายขี้สงสัยของเขา ในขณะที่ Will รับบทโดย Billy Crudup พยายามอย่างเต็มที่เพื่อแยกแยะเรื่องสมมุติออกจากข้อเท็จจริง เราจึงได้เห็นการเดินทางที่น่าจดจำผ่านชีวิตพ่อที่กำลังจะเสียชีวิต
Your Name (2016)
นักเขียนและผู้กำกับ Makoto Shinkai ได้รับการขนานนามจากนักวิจารณ์บางคนว่าเป็นผู้สืบทอดของ Miyazaki แม้ว่า Your Name จะขาดเครื่องปรุงที่ดูเหนือความจริงซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของ Miyazaki ก็ตาม แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็มีความหวานเฉพาะตัวที่ไม่จำเป็นต้องได้รับการเปรียบเทียบ และยังถือเป็นภาพยนตร์แอนิเมชันยุคใหม่ของญี่ปุ่นด้วย ว่าด้วยความฝันที่สามารถเป็นจริงได้เช่นเดียวกับความเป็นจริง ที่ซึ่งอดีตมีความสำคัญเท่ากับปัจจุบันและอนาคต เรื่องราวความรักระหว่าง Mitsuha ให้เสียงโดย Mone Kamishiraishi และ Taki ให้เสียงโดย Ryunosuke Kamiki ที่อยู่เหนืออุปสรรคของการหลับใหล และแม้แต่ช่วงเวลาที่ถูกกำหนดไว้แล้ว Your Name ใช้ประโยชน์จากความเฉพาะเจาะจงนี้โดยไม่ใช้ความคิดเก่าๆ Your Name ยังเกี่ยวข้องกับความรู้สึกโหยหาอย่างตั้งใจและเชี่ยวชาญ ในการคิดถึงใครสักคน ในที่ไหนสักแห่ง หรือในบางสิ่งบางอย่าง คุณอาจไม่เคยพบเจอเรื่องราวแบบนี้จริงๆ ขณะที่สร้างความสมดุลระหว่างความเป็นจริง และความมหัศจรรย์อย่างสมบูรณ์แบบ เพื่อสร้างบางสิ่งบางอย่างในโลกใบนี้
Pan’s Labyrinth (2006)
Pan’s Labyrinth เป็นภาพยนตร์แฟนตาซีที่มีเรื่องราวเกิดขึ้นในปี 1944 ที่สเปน ว่าด้วยเรื่องราวของการต่อต้านสงครามคล้ายกับเรื่อง Howl’s Moving Castle ถือเป็นภาพยนตร์ที่ไม่เหมือนเรื่องอื่นๆ นี่ไม่ใช่ภาพยนตร์ที่เหมาะกับเด็กเท่าไหร่นัก ซึ่ง Ofelia’s รับบทโดย Ivana Baquero ก็ได้แสดงให้เห็นถึงความรุนแรงโดยไม่มีการชกต่อยเกิดขึ้น ซึ่งมันไม่ได้ถูกทำขึ้นอย่างไร้เหตุผล แต่มันมีจุดประสงค์อยู่ แม้จะไม่ชอบงานของ Guillermo del Toro เป็นการส่วนตัวเท่าไหร่นัก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าโลกมหัศจรรย์ของเขานั้นลึกซึ้งเพียงใด และโลกแห่งเวทมนตร์ได้ผสมผสนานกับโลกแห่งความเป็นจริงได้อย่างแนบเนียน ซึ่งเป็นการนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดออกมา และบ่อยครั้งในความมืดมนที่สุดที่เกิดขึ้นทั้งในความจริง และไม่จริงนั้น ได้พาให้เข้าสู่ Pan’s Labyrinth หากคุณมีความกล้ามากพอ คุณจะไม่ลืมการผจญภัยที่ยาวนานในเวลา 2 ชั่วโมงนี้เลย
คุณต้อง สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ ก่อน เพื่อที่จะสามารถแสดงความคิดเห็นได้