ความลับของภาพยนตร์จาก Studio Ghibli

อะไรทำให้ภาพยนตร์ของ Studio Ghibli กลายเป็นที่รักและชื่นชอบจากผู้ชมในโลกที่ดูห่างไกลกับชีวิตจริง แต่กลับรู้สึกใกล้ชิดอบอุ่นเหมือนบ้าน

Screen Shot 2565-06-22 at 10

แฟนๆ อานิเมะ และภาพยนตร์หลายคนคงต้องได้ผ่านประสบการณ์การชมภาพยนตร์ของ Studio Ghibli มาแล้วอย่างแน่นอน ด้วยเนื้อหาที่อบอุ่นหัวใจ ความคิดถึง หรืออารมณ์หวานอมขมกลืนของเรื่องราวที่น่าสนใจ ได้รับการตอบสนองที่ชัดเจนต่อภาพยนตร์ที่เป็นสัญลักษณ์เหล่านี้ ซึ่งยังคงรักษาความโดดเด่นและเสน่ห์ของสตูดิโอนี้ไว้อย่างดี รวมถึงวัฒนธรรมป๊อปที่เราได้รับจากเรื่องราวที่น่าประทับใจเหล่านี้ด้วย

ตั้งแต่การเล่าเรื่องไปจนถึงงานภาพ งานเพลงประกอบภาพยนตร์ที่เป็นต้นฉบับ และแม้แต่ตัวละครอันเป็นที่รัก Studio Ghibli มีความโดดเด่นในทุกๆ ด้าน ถือเป็นงานฝีมือที่ละเมียดละไมส่งตรงถึงใจผู้ชมได้อย่างไม่มีข้อกังขา แต่สิ่งต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับภาพยนตร์เหล่านี้ต่างสร้างความโหยหาให้กับผู้ชม ถึงโลกที่ห่างใกลจากโลกแห่งความเป็นจริง แต่กลับรู้สึกใกล้ชิดกับบ้านมากขึ้น

Studio Ghibli เริ่มต้นขึ้นได้อย่างไร?

Screen Shot 2565-06-22 at 10

Studio Ghibli Inc. ก่อตั้งขึ้นในปี 1985 โดยผู้กำกับ Hayao Miyazaki และ Isao Takahata ร่วมกับโปรดิวเซอร์ Toshio Suzuki เพื่อจุดประสงค์ในการสร้างภาพยนตร์แอนิเมชัน Miyazaki, Suzuki และ Takahata อยู่ในวงการการอุตสาหกรรมโทรทัศน์และอานิเมะมาเป็นเวลานาน พวกเขาได้ตัดสินใจที่จะสร้างภาพยนตร์แอนิเมชันที่มีคุณภาพที่ดีโดยเจาะลึกถึงความสุข และความเศร้าโศกของชีวิต โดยไม่มีงบประมาณและตารางเวลาที่จำกัดในการผลิต

ตั้งแต่นั้นมา พวกเขาก็ได้สร้างโฆษณา ภาพยนตร์สั้น และภาพยนตร์แอนิเมชันจำนวน 24 เรื่อง รวมถึง Nausicä of the Valley of the Wind ที่ผลิตในปี 1984 โดย Tokuma Shoten Publishing Co. Ltd. ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญในการก่อตั้ง Ghibli และ พันธมิตรระหว่างปี 1999-2005 โดยภาพยนตร์เรื่องนี้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก และทางสตูดิโอจึงใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้ในการเริ่มผลิตเรื่อง Castle in the Sky (1986) เป็นลำดับต่อมา

ความสำเร็จของพวกเขาไม่ได้จบเพียงแค่นั้น ภาพยนตร์ของ Studio Ghibli 5 เรื่อง ได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของภาพยนตร์อานิเมะที่ทำรายได้สูงสุดในญี่ปุ่นถึง 10 เรื่อง พร้อมกับการถูกนำเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์หลายเรื่อง โดย Spirited Away ปี 2001 เป็นอานิเมะเรื่องเดียวที่เคยได้รับรางวัลออสการ์ ความสำเร็จระดับโลกของภาพยนตร์นี้เป็นแรงบันดาลใจให้พิพิธภัณฑ์และสวนสาธารณะ รวมถึงการจัดนิทรรศการอื่นๆ และสถานที่ในธีมที่ไม่เป็นทางการมากนัก

ขั้นตอนการทำงานที่ไม่เหมือนใครของ Studio Ghibli!

Screen Shot 2565-06-22 at 10

Studio Ghibli ยังมีชื่อเสียงในด้านขั้นตอนการทำงานของพนักงานอีกด้วย ไม่มีคำมั่นสัญญาว่าสตูดิโอจะคงอยู่ในระยะยาวหรือไม่ ดังนั้นพวกเขาจะจ้างพนักงานสำหรับโปรเจกต์ใดโปรเจกต์หนึ่งเท่านั้น และยุบทีมลงหลังจากทุกอย่างเสร็จสิ้น อย่างไรก็ตามหลังจากความสำเร็จของ Kiki’s Delivery Service ในปี 1989 พวกเขาได้ปรับปรุงระบบพนักงานของตนใหม่เพื่อเพิ่มค่าจ้างขึ้นเป็นสองเท่า ในขณะที่มีการคัด และฝึกอบรมพนักงานที่เข้ามาใหม่อยู่เป็นประจำ หนึ่งในสามของทีมมีส่วนร่วมในด้านธุรกิจของการดำเนินงานนี้ด้วย สมาชิกคนอื่นๆ จะทุ่มเทให้กับการสร้างสรรค์ผลงานการผลิต และการจัดการของสตูดิโอ

ในขณะที่ Miyazaki เขียนและกำกับภาพยนตร์ Ghibli เป็นส่วนใหญ่ สิ่งสำคัญคือการตระหนักว่ามีนักเขียน ผู้กำกับ โปรดิวเซอร์ และนักแต่งเพลงมากมายหลายคนจากวงการภาพยนตร์แอนิเมชันทั้ง 24 เรื่องนี้ อุตสาหกรรมอานิเมะโดยทั่วไปมักมีความขัดแย้งในเรื่องของการจ่ายเงิน รวมถึงการปฏิบัติต่อแอนิเมเตอร์ และพนักงาน แต่คุณภาพของเนื้อหาไม่ได้ถูกกระทบกระเทือนในงานของ Studio Ghibli

มูลค่าการผลิตและงบประมาณเพิ่มขึ้น แต่ภารกิจยังคงเหมือนเดิมภายใต้การดูแลของ Miyazaki และ Takahata

เพื่อสร้างงานที่มีคุณภาพสูง เหนือสิ่งอื่นใดในภาพยนตร์แต่ละเรื่องมีความใส่ใจในรายละเอียดอย่างมาก และแตกต่างกันในด้านลักษณะเฉพาะ ดนตรี ภาพ และการเล่าเรื่อง ซึ่งมีส่วนสนับสนุนในการสร้างโลกอันเป็นเอกลักษณ์ของ Studio Ghibli และการตลาดระดับโลกในชีวิตจริง อย่างไรก็ตามหลังจากจัดลำดับความสำคัญของคุณภาพแล้ว การขายสินค้าจะช่วยบรรเทาค่าใช้ได้บางส่วนด้วย

ภาพและการโปรโมตของ Studio Ghibli ทำอย่างไร?

Screen Shot 2565-06-22 at 10

ไม่ใช่ทุกโปรเจกต์ของ Studio Ghibli ที่ได้รับการตอบรับที่ดีจากมาสคอตอย่างเป็นทางการ Totoro ฑูตแมวตัวใหญ่ที่ดูน่ารักน่ากอดนี้ ทำให้ได้กำไรจากเรื่อง My Neighbor Totoro ในปี 1988 Totoro จึงเป็นหนึ่งในตัวละครของ Ghibli ที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก มันมีส่วนร่วมในการยึดครองตลาดของภาพยนตร์และทำให้สตูดิโอเป็นที่รู้จักมากขึ้น เช่นเดียวกับ ผีไร้หน้า จาก Spirited Away Sophie และ Howl จาก Howl’s Moving Castle ในปี 2004 และ San จาก Princess Mononoke ในปี 1997 เป็นตัวละครยอดนิยมที่สามารถระบุได้ทั่ววัฒนธรรมป๊อป ตั้งแต่โปสเตอร์ แฟนอาร์ท ไปจนถึงสินค้าที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการด้วย

สิ่งที่ทำให้พวกเขากลายเป็นสัญลักษณ์หรือภาพจำคือการที่แอนิเมเตอร์สร้างภาพแทนชีวิตจริงผ่านการเคลื่อนไหวที่ละเอียดอ่อน การแสดงออก และอิทธิพลที่นำมาซึ่งความรู้สึกคุ้นเคย รวมถึงประเพณี ในขณะเดียวกันก็รักษาระดับของเสรีภาพในการสร้างสรรค์ และสไตล์ที่ช่วยให้ตัวละครโดดเด่นเป็นรายบุคคล

ใน Princess Mononoke ตัวละคร San ปรากฎตัวในภาพลักษณ์หญิงสาวที่สามารถแสดงในภาพยนตร์ Ghibli เรื่องอื่นๆ ได้ แต่การแต่งหน้าได้รับแรงบันดาลใจจากชนพื้นเมือง เสื้อผ้าหนังหมาป่า และท่าทางที่ดูแข็งกร่าว ทำให้เธอกลายเป็นเจ้าหญิงที่เป็นมนุษย์ของเผ่าหมาป่าพูดได้ เธอดูคุ้นเคยในโลกที่ไม่ปกติสำหรับคนทั่วไป

Studio Ghibli สร้างสมดุลระหว่างมิติความลึกของตัวละครด้วยความเชื่อมโยงต่างๆ

Screen Shot 2565-06-22 at 10

ในทำนองเดียวกัน ตัวละครเหล่านี้จะได้รับความลึกซึ้งของเรื่องราวเบื้องหลัง และบุคลิกของพวกเขาแต่ละคน ซึ่งแสดงความคล้ายคลึงกันของความเป็นอิสระ และความซับซ้อนของพวกเขาเอง Chihiro แห่ง Spirited Away แตะรองเท้าของตัวเองถึง 2 ครั้งเพื่อให้แน่ใจว่ามันจะกระชับมากพอ Porco Rosso ในปี 1992 ได้แสดงให้เห็นถึงความรู้สึกที่ลึกซึ้งของตัวละคร เกี่ยวกับเครื่องบินทะเล Savoia S. 21 ของเขา ซึ่งอาศัยเพียงประสบการณ์ส่วนตัวมากกว่าความรู้ด้านวิศวกรจริงๆ เช่น Fio

ไม่มีรายละเอียดใดที่จำเป็นต่อการพัฒนาการเล่าเรื่อง แต่เป็นการเพิ่มความคล้ายคลึงของตรรกะให้กับตัวละครที่ทำให้พวกเขาดูเหมือนคนจริงๆ ลักษณะเฉพาะนั้นพิเศษพอที่จะทำให้พวกเขาเป็นตัวหลักของภาพยนตร์ ที่มีความเกี่ยวข้องเพียงพอกับผู้ชมที่รุ้สึกเหมือนได้เห็นตัวเองบางส่วนในตัวละครเหล่านั้น

ธีมที่ครอบคลุมของภาพยนตร์ Studio Ghibli นี้ เป็นการเพิ่มมิติให้กับเรื่องราว และความคุ้นเคยให้กับผู้ชมอีกด้วย ภาพยนตร์ทุกเรื่องมีเนื้อหาที่คล้ายคลึงกัน ตั้งแต่ความมหัศจรรย์ของเด็กๆ ธรรมชาติ และการเสริมอำนาจของผู้หญิง ไปจนถึงภัยพิบัติจากความเจ็บป่วย สงคราม ความทันสมัย และวัยผู้ใหญ่ พวกเขาถ่ายทอดความสึกมหัศจรรย์ และความอยากรู้อยากเห็นที่เรามักจะรู้สึกเมื่อตอนที่ยังเป็นเด็กออกมา ในขณะที่มีการสานต่อการเปลี่ยนแปลงที่หลีกเลี่ยงไม่ได้มักมาพร้อมกับการเติบโตและถูกบังคับให้ต้องจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง ช่วงเปลี่ยนผ่านนี้ในชีวิตของทุกคนแบ่งออกเป็นสองขั้วที่กลมกลืนกันของการรำลึกถึงวัยเด็ก และความรู้สึกไม่สบายในการเปลี่ยนแปลงบางสิ่งบางอย่างที่จะเกิดขึ้น

Screen Shot 2565-06-22 at 10

ฉากรถไฟใน Spirited Away เป็นตัวอย่างในเรื่องนี้ ขณะที่ Chihiro และเพื่อนใหม่ของเธอต้องออกเดินทางด้วยการนั่งรถไฟที่ดูสงบและสวยงาม เสียงเพลงที่ปล่อยออกมาในฉากนี้กลับฟังดูเศร้าโศก ซึ่งดูขัดแย้งกับเหตุการณ์ในภาพ

การตีความอย่างหนึ่งบ่งชี้ว่าในที่สุดแล้ว Chihiro จะมั่นใจในความสามารถของเธอที่ได้ออกสำรวจโลกที่ไม่คุ้นเคย หลังจากผ่านความยากลำบาก และความเหงาของการเรียนรู้วิธีที่จะทำสิ่งนี้โดยไม่มีพ่อแม่ของเธอ เธอถูกบังคับให้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ผ่านสถานการณ์ที่ตึงเครียดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งบ่งบอกการมาถึงของวัยผู้ใหญ่ แม้ว่าฉากนี้จะเป็นตัวแทนของการพัฒนาตัวละครของเธอ แต่เพลงประกอบได้ย้ำเตือนเราว่าประสบการณ์นี้ยังคงยากและสบายใจสำหรับเด็กหลายๆ คน

Chihiro ได้ผ่านเรื่องราวมากมายเมื่อเธอเปลี่ยนจากผู้มาใหม่ที่หวาดกลัว และไม่เต็มใจที่จะอยู่ในดินแดนแห่งนี้ ให้เป็นนักพจญภัยที่มีประสบการณ์ และปรับตัวได้ ซึ่งดูเหมือนว่าสุดท้ายแล้วเธอจะรับอุปสรรค์ใหม่ๆ ได้เสมอ Joe Hisaishi นักแต่งเพลงของ Spirited Away และภาพยนตร์เกือบทุกเรื่องของ Miyazaki ได้เพิ่มระดับด้วยการสร้างโลก และการเล่าเรื่องผ่านเพลงประกอบภาพยนตร์ การทำงานร่วมกันอย่างต่อเนื่องของเขากับผู้กำกับยังต้อนรับแฟนๆ ด้วยสไตล์ที่คุ้นเคย ซึ่งทำให้เชื่อมโยงความหลงใหลเหล่านี้กับภาพยนตร์อื่นๆ ของ Studio Ghibli ได้

กระบวนการพิเศษของ Studio Ghibli เพื่อความสำเร็จในการสร้างโลก

Screen Shot 2565-06-22 at 10

การสร้างโลกด้วยตัวเองนั้นทำได้ยากแต่ Studio Ghibli ทำสิ่งนี้โดยการเขียนและสร้างแอนิเมชันที่แฟนตาซี เป็นการสร้างอาณาจักรใหม่ และดื่มด่ำนอกความเป็นจริง ความสมจริงของเวทมนตร์ซึ่งทำให้เกิดองค์ประกอบที่น่าอัศจรรย์มาสู่ชีวิตประจำวันแสนเรียบง่าย

มุมมองแฟนตาซีของ The Cat Returns ในปี 2002 นำพา Haru และผู้ชมไปยังทุ่งหญ้าเปิดของ Cat Kingdom ซึ่งตัดกับสภาพแวดล้อมที่คับคั่งและคับแคบของบ้านเกิดในเมืองของ Haru ในขณะที่ใน The Secret World of Arrietty ในปี 2010 เด็กชายขี้โรคที่ชื่อ Shō ได้ค้นพบครอบครัวผู้ยืม พวกเขาซ่อนตัวอยู่ภายใต้รอยแยกของบ้านพักฤดูร้อนของเขา แต่ละวิธีดึงดูผู้ชมไปพร้อมกับตัวละครที่สัมผัสประสบการณ์เหล่านี้เป็นครั้ง

เพื่อให้ดูสมจริง Studio Ghibli ได้สร้างภาพเคลื่อนไหวให้กับภูมิประเทศที่งดงามและยิ่งใหญ่ ซึ่งเต็มไปด้วยรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่ทำให้ฉากนี้มีความมหัศจรรย์และสมจริง รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เช่น ปลาหมึกยักษ์ที่มีแสงสีรุ้งใน Ponyo ปี 2008 ลูกอมของ Seita ที่ติดอยู่กับกระดาษห่อใน Grave of the Fireflies ในปี 1988 หรือฉากการทำอาหารที่ทำผู้ชมต่างน้ำลายสอถูกประดิษฐ์ขึ้นอย่างปราณีต เขาทำให้ดูจริงมากพอที่จะทำให้เป็นที่จดจำทั้งหมด องค์ประกอบที่น่าอัศจรรย์เหล่านี้ทำให้พวกเรสัมผัสได้ถึงความสมจริง และเข้าถึงจินตนาการของผู้ชมได้มากขึ้น

ภาพยนตร์ของ Studio Ghibli สร้างเวทมนตร์ เมื่อไม่มีอะไรเกิดขึ้น

Screen Shot 2565-06-22 at 10

บางองค์ประกอบที่ทรงพลังที่สุดของภาพยนตร์ Studio Ghibli ก็คือช่วงเวลาที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย Miyazaki อธิบายช่วงเวลาเหล่านี้ผ่านคำภาษาญี่ปุ่นด้วยคำว่า ma ซึ่งแปลว่าความว่างเปล่า คล้ายกับรายละเอียดปลีกย่อยที่สร้างมิติให้กับตัวละคร และการสร้างโลก ด้วยฉากที่ดูสงบเงียบจนดูเหมือนเวลาหยุดชั่วคราว เป็นการเพิ่มน้ำหนักทางด้านอารมณ์ให้กับผู้ชม Jiro พบช่วงเวลานี้ตอนสูบบุหรี่ที่อยู่ลำพังในเรื่อง The Wind Rises ปี 2013 เช่นเดียวกับ Marnie วางดอกไม้ไว้บนผมของ Anna ระหว่างการล่องเรืออย่างสงบในปี 2014 จากเรื่อง Marnie Was There

Chihiro จ้องมองนกพิราบที่อยู่ไกลๆ แล้วครุ่นคิดถึงพ่อแม่ที่เปลี่ยนไปของเธอใน Spirited Away ฉากเหล่านี้ทำให้ทุกอย่างดูช้าลงเพื่อให้ผู้ชมและตัวละครได้มีความรู้สึกร่วมกัน ก่อนจะกลับไปสู่ฉากแอ็กชัน นอกจากนี้ยังมีการมอบเสี้ยวหนึ่งของชีวิตที่เป็นการยกระดับตัวละคร ซึ่งฉากเหล่านี้สะท้อนถึงธรรมชาติของวัฒนธรรมญี่ปุ่นและการเล่าเรื่องแบบตะวันออก ทำให้ผู้ชมได้คิดตามและพัฒนาประสบการณ์รอบด้านในการดูภาพยนตร์ของ Ghibli เกือบทุกเรื่อง

ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ ภาพยนตร์ของ Studio Ghibli ได้แสดงภาพชีวิตได้อย่างยอดเยี่ยม ขณะเดียวกันก็สร้างประสบการณ์ที่นำเราเข้าสู่ชีวิตของตัวละครในโลกของพวกเขา เตือนให้เรานึกถึงอารมณ์ต่างๆ ที่เราเคยสัมผัส ผ่านลักษณะพิเศษเฉพาะด้านดนตรี การสร้างโลกในฝัน งานภาพ และการเล่าเรื่อง ล้วนเป็นผลมาจากการทุ่มเทของทีมงานเพื่อให้ได้ผลงานที่มีคุณภาพ

ที่มา: CBR
0 ความคิดเห็น

คุณต้อง สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ ก่อน เพื่อที่จะสามารถแสดงความคิดเห็นได้


ภาพยนตร์ในเครือ
The Boy and the Heron

The Boy and the Heron

เด็กชายกับนกกระสา

7.4

Zen - Grogu and Dust Bunnies

Zen - Grogu and Dust Bunnies

禅 グローグーとマックロクロスケ

6.1

Earwig and the Witch

Earwig and the Witch

มหัศจรรย์แม่มดอาย่า

6.0

แสดงเพิ่มเติม

ข่าวจัดอันดับ

ประจำเดือนนี้