จากการเป็นหนังสือนิยายสู่ซีรีส์เรื่องฮิต อยากรู้ใช่มั้ยล่ะว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง?

ซีรีส์แนวก้าวผ่านวัยที่กำลังมาแรงของทาง Prime Video ในขณะนี้อย่างเรื่อง The Summer I Turned Pretty (2022) ได้กลายมาเป็นกิจกรรมโปรดช่วงหน้าร้อนของทั้งวัยรุ่นและวัยผู้ใหญ่อย่างรวดเร็ว ด้วยบทกวีที่ยอดเยี่ยมที่บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับความรักครั้งแรกและชายหาด แต่ก่อนจะมาเป็นซีรีส์ เรื่องนี้เคยเป็นนวนิยายยอดฮิตของนักเขียนเจ้าของผลงานนวนิยายไตรภาคเซ็ต To All The Boys (2018) ที่ต่อมาถูกนำมาดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ไตรภาคโดย Netflix ในภายหลังอย่าง Jenny Han มาก่อนเมื่อปี 2009 โดย Han ครอบครองหัวใจของผู้อ่านมาเป็นเวลานานผ่านผลงานการเขียนของเธอที่จะพาคุณไปสู่การผจญภัยที่จะทำให้คุณตกอยู่ในภวังค์ จึงไม่น่าแลกใจว่าทำไมหลายคนอยากเห็นตัวละครของเธอมากกว่านี้เพื่อให้สามารถจินตนาการถึงฉากที่เคยอยู่ในหนังสือของเธอได้มากกว่านี้

เช่นเดียวกันกับการดัดแปลงจากหนังสือสู่ภาพยนตร์เรื่องอื่นหลายๆ เรื่อง The Summer I Turned Pretty เองก็เช่นกัน โดยซีรีส์ได้ปรับแต่งรายละเอียดบางอย่างในบางฉากเพื่อปรับปรุงเนื้อหาให้ดีขึ้นและปรับให้มีความเข้ากับยุคสมัยมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม เนื้อเรื่องโดยรวมก็ยังคงเหมือนกับในแบบฉบับแรกเริ่มอยู่เช่นเดิม: Belly เด็กสาวสุดโรแมนติกผู้สิ้นหวังในความรัก (รับบทโดย Lola Tung) ได้ไปใช้วันหยุดในช่วงฤดูร้อนกับ Laurel (รับบทโดย Jackie Chung) และ Steven (รับบทโดย Sean Kaufman) แม่และพี่ชายของเธอเพื่อไปเยี่ยม Susannah (รับบทโดย Rachel Blanchard) เพื่อนสนิทของแม่และลูกชายทั้งสองคนของเธออย่าง Conrad (รับบทโดย Christopher Briney) และ Jeremiah (รับบทโดย Gavin Casalegno) ที่บ้านพักตากอากาศของเธอบนหาด Cousins แต่ฤดูร้อนนี้จะไม่เหมือนฤดูร้อนเดิมที่ Belly เคยมี เมื่อเธอเลิกใส่แว่นตาและเหล็กดัดฟัน แถมเธอยังต้องหาทางออกให้กับความรู้สึกที่เธอมีต่อสองพี่น้องตระกูล Fisher และเด็กชายคนใหม่ที่เธอได้เจอ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หาทางออกให้กับความสับสนของเธอที่ว่า เธอยังคงตกหลุมรัก Conrad ผู้เป็นรักแรกของเธอตั้งแต่วัยเด็กอยู่หรือไม่

เอาล่ะ! มาดูความแตกต่างระหว่างแบบฉบับนิยายและซีรีส์ในปี 2022 กันดีกว่า!

ฉากงานเต้นรำเดบูตองต์

ในซีรีส์ Susannah ขอร้องให้ Belly เข้าร่วมงานเต้นรำเดบูตองต์ ซึ่งเป็นงานเต้นรำที่มีไว้เพื่อเปิดตัวเด็กสาวที่เปลี่ยนจากเด็กหญิงสู่สาวสะพรั่งที่เพียบพร้อมไปด้วยกิริยาและมารยาทอย่างเป็นทางการ ถึงแม้ว่าฉากนี้จะเป็นฉากที่สำคัญที่สุดฉากหนึ่งในเรื่อง เพราะเป็นการคลายปมหลายๆ ปมก่อนจะจบซีซันแรกของซีรีส์ แต่ในแบบฉบับนวนิยายกลับไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับงานเดบูตองต์เลยสักนิด ดูเหมือนว่าฉากนี้จะเป็นการเพิ่มเข้าไปสำหรับซีรีส์โดยเฉพาะเพื่อสร้างความตึงเครียดและสับสนที่มากขึ้นให้กับ Belly เกี่ยวกับความรู้สึกที่เธอมีต่อสองพี่น้อง Fisher

เพศสภาพและความชอบของ Jeremiah

ถึงแม้ว่าจะไม่ได้มีการระบุเอาไว้อย่างชัดเจนในแบบฉบับนิยาย แต่ก็ดูเหมือนว่า Jeremiah นั้นเป็นผู้ชายที่ชอบผู้หญิงเพียงเพศเดียว เพราะนั่นเป็นสิ่งเดียวที่เราได้เห็นในหนังสือ แต่อย่างไรก็ตาม Jeremiah ในแบบฉบับซีรีส์นั้นมักจะหยอดนิดหยอดหน่อยทั้งกับเด็กสาวและเด็กชาย แถมมีการเอ่ยไว้อีกว่าเพศสภาพของเขานั้นลื่นไหล ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้ก็เพื่อเป็นการแสดงออกทางเพศที่หลากหลายมากขึ้นและจุดนี้ก็ได้รับคำชื่นชมอย่างมากผ่านทางช่องทางออนไลน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากกลุ่มผู้ชมที่ก็กำลังค้นหาเพศสภาพและความชอบของตัวเองอยู่ด้วยเช่นกัน

โรคมะเร็งของ Susannah

เมื่อนำทั้งสองเวอร์ชันมาเทียบกัน เราจะพบว่าการที่ตัวละครได้รู้เกี่ยวกับมะเร็งของ Susannah นั้นแตกต่างกันมาก โดยในแบบฉบับหนังสือ ทุกคนรู้มาตั้งแต่แรกแล้วว่าเธอกำลังต้องเผชิญอยู่กับอะไร ทุกคนรู้ว่าเธอเคยทำคีโมและเข้ารับการรักษามาแล้วในอดีต แต่ในตอนแรก พวกเขาก็คิดว่าเธอหายดีแล้ว แต่ในแบบฉบับซีรีส์ เราจะเห็นได้ว่าไม่มีใครรู้เกี่ยวกับมะเร็งของ Susannah นอกจาก Laurel เพื่อนสนิทของเธอเพียงคนเดียว เพราะ Susannah เลือกที่จะเก็บความลับนี้เอาไว้ไม่ให้ลูกชายทั้งสองคนของเธอ Belly และ Steven รู้ เพราะเธอต้องการให้พวกเขาได้ใช้เวลาในช่วงฤดูร้อนกันอย่างสนุกสนานที่สุดก่อนที่หนุ่มๆ จะต้องแยกย้ายกันไปเรียนในระดับมหาวิทยาลัย Susannah จึงไม่อยากให้พวกเด็กๆ ต้องมารับรู้เกี่ยวกับการกลับมาของมะเร็งของเธอ

อีกหนึ่งจุดที่แตกต่างไปในแบบฉบับซีรีส์นั้นก็คือแม้ว่า Susannah พยายามอย่างหนักเพื่อที่จะเก็บเรื่องนี้เอาไว้เป็นความลับ แต่ลูกชายคนโตของเธออย่าง Conrad ก็ล่วงรู้เรื่องนี้เข้าจนได้ นั่นเป็นสาเหตุว่าทำไมเขาถึงตีตัวออกห่างและทำตัวเย็นชา เอาแน่เอานอนไม่ได้ใส่ทุกคน โดย Jeremiah และคนอื่นๆ เพิ่งได้รู้เรื่องนี้ในช่วงตอนสุดท้าย ในระหว่างงานเต้นรำเดบูตองต์ก่อนจบซีซัน

การย้อนเวลากลับไปในอดีต

ไม่ว่าจะตอนไหน การได้เดินทางไปในระยะเวลาแห่งความทรงจำนั้นก็น่าสนใจเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแบบฉบับหนังสือที่เล่าเรื่องราวพื้นหลังของตัวละครและเหตุการณ์ต่างๆ ได้อย่างละเอียด โดยในแบบหนังสือ นักเขียนเจ้าของผลงานอย่าง Han ก็ได้เล่าเรื่องแบบกระโดดข้ามไปข้ามมาในแต่ช่วงเวลาแทบทุกบท และส่วนใหญ่ก็จะเป็นช่วงเวลาที่ Belly มีอายุ 11-14 ปี และในช่วงต้นของซีรีส์ก็ได้มีการกล่าวถึงความทรงจำบางส่วนของเธอ แต่ก็ไม่ได้ลงรายละเอียดมากนักเมื่อเทียบกับในแบบฉบับหนังสือ ตัวอย่างเช่น ในหนังสือ มีบทหนึ่งที่ Belly, Taylor และหนุ่มๆ เล่นเกมความจริงความกล้าด้วยกัน แต่ไม่มีฉากนี้ในแบบฉบับซีรีส์

การมาเยือนของ Taylor

ในหนังสือ เพื่อนสนิทของ Belly อย่าง Taylor (รับบทโดย Rain Spencer) จะปรากฏตัวเฉพาะเวลาที่พูดถึงเหตุการณ์ในอดีตเท่านั้น แต่ในเวอร์ชันซีรีส์ ตัวละครของ Taylor นั้นมีบทบาทมากขึ้นเมื่อเธอตัดสินใจไปหาด Cousins และพักอยู่ที่บ้านพักตากอากาศเพื่อใช้ช่วงเวลาในฤดูร้อนไปกับ Belly และพบปะกับผู้คนหน้าใหม่ๆ จนถึงจุดหนึ่ง ความสัมพันธ์ของสองสาวก็เกือบต้องจบลงเพราะเรื่องของเธอกับ Steven แต่ทุกอย่างก็ค่อยๆ ดีขึ้นเมื่อ Taylor กลับมาที่หาดอีกเป็นครั้งที่สอง

จูบแรกของ Belly

ในหนังสือ Belly เคยเล่าว่าเจ้าของจูบแรกของเธอคือ Jeremiah ในขณะที่พวกกำลังเล่นเกมความจริงความกล้ากันอยู่ และนั่นทำให้เธอสับสนกับความรู้สึกของตัวเองเพราะในตอนนั้นเธอเองก็ยังคงแอบรัก Conrad อยู่ และ Belly ก็อยากให้จูบแรกของเธอนั้นพิเศษที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แต่ในซีรีส์ ไม่ได้มีการกล่าวถึงว่า Jeremiah เป็นเจ้าของจูบแรกของเธอหรือไม่ หรือใครเป็นเจ้าของจูบแรกของ Belly กันแน่

สร้อยคอและจี้ Infinity

Belly มักจะฉลองวันเกิดของเธอที่ Cousins อยู่เสมอ และในปีนี้ที่เธอมีอายุครบ 16 ปีก็เช่นกัน ในวันเกิด Belly เดินลงมาข้างล่างและเห็นว่าทุกคนกำลังทำอาหารและเตรียมของขวัญเอาไว้ให้เธอดังเช่นทุกปี แต่ Conrad กลับบอกว่าเขาลืมซื้อของขวัญมาให้ Belly ทำให้ Belly พยายามเป็นอย่างมากที่จะไม่แสดงสีหน้าผิดหวังออกมาเพื่อทำลายบรรยากาศ สิ่งที่แตกต่างไปจากแบบฉบับหนังสือก็คือ ในซีรีส์ Belly มีโอกาสได้เข้าไปในห้องของ Conrad และบังเอิญเจอของขวัญที่เขาซื้อเอาไว้ให้เธอโดยบังเอิญ ซึ่งของขวัญที่ว่านั่นก็คือสร้อยคอที่มีจี้สัญลักษณ์ Infinity ห้อยอยู่ โดยในหนังสือไม่ได้มีการเอ่ยถึงสร้อยคอเส้นนี้จนกระทั่งเล่มที่สองของหนังสือ It’s Not Summer Without You ที่สร้อยคอเส้นนี้ถูกกล่าวถึงเป็นครั้งแรก

Steven ไปจาก Cousins เร็วกว่าแผนที่วางไว้

สำหรับใครที่เคยดูซีรีส์เรื่องนี้มาแล้วและรู้สึกผูกพันธ์กับตัวละครของ Steven คุณอาจจะเศร้าเมื่อพบว่าในแบบฉบับหนังสือ Steven ไปจาก Cousins ก่อนจะหมดหน้าร้อนเสียด้วยซ้ำ เพราะในหนังสือ Steven กำลังอยู่ในช่วงพิจารณามหาวิทยาลัยที่เขาจะไปเรียนต่อ และ Belly ก็ยังบอกอีกว่า Steven นั้นไปจาก Cousins พร้อมกับพ่อของพวกเขาเพื่อเดินทางดูแต่ละมหาวิทยาลัย ดังนั้นในหนังสือ Steven จึงไม่ได้มีบทบาทอะไรมากนัก แต่ในแบบฉบับซีรีส์ ตัวละครของ Steven ก็ได้มีบทบาทมากขึ้นเมื่อเขาตกหลุมรักกับคุณหนู Shayla (รับบทโดย **Minnie Mills) แถมเขายังได้เข้าร่วมงานเดบูตองต์ในฐานะคู่เดทของเธออีกด้วย

การที่เราได้รู้จัก Laurel มากขึ้นกว่าที่เคย

นอกจากความสัมพันธ์แบบมิตรแท้ระหว่าง Laurel และ Susannah ที่ทางซีรีส์ได้ตัดสินใจว่าจะโฟกัสไปที่ความสัมพันธ์ของพวกเธอมากขึ้นกว่าในหนังสือ เราก็ยังได้เห็นมุมต่างๆ ในชีวิตของ Laurel ที่เราไม่เคยได้อีกด้วย เพราะในซีรีส์ Laurel เป็นนักเขียนที่กำลังพยายามหามุมมองใหม่ๆ ในชีวิตหลังจากที่เธอหย่ากับพ่อของ Steven และ Belly โดยเธอได้พบกับเพื่อนร่วมวงการนักเขียนอย่าง Cleveland (รับบทโดย Alfredo Narcisco) ที่ร้านหนังสือแห่งหนึ่ง และถึงแม้ว่าการพบกันครั้งแรกของพวกเขาจะน่าอึดอัดไปบ้าง แต่พวกเขาก็ค่อยๆ ลดกำแพงที่มีต่อกันและกันลงแต่ตัดสินใจที่จะรอดูกันต่อไปว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาจะเป็นไปในทิศทางไหนในอนาคต

ตอนจบ

ฉากสุดท้ายก่อนจบซีซันแรกของซีรีส์นั้นเป็นฉากที่ Belly และ Conrad นั่งคุยกันอยู่ที่ชายหาดหลังจากงานเดบูตองต์และหลังจากที่พวกเขาทุกคนรู้เรื่องมะเร็งของ Susannah โดย Conrad ก็ได้ขอโทษ Belly สำหรับพฤติกรรมและวิธีที่เขาปฏิบัติต่อเธอมาตลอดหน้าร้อน และหลังจากนั้นเขาก็ดูเหมือนว่าจะสารภาพความรู้สึกที่เขามีต่อ Belly ให้เธอได้รับรู้ และฉากนั้นก็จบลงด้วยฉากที่พวกเขาจูบกันและเสียงบรรยายของ Belly ที่บอกว่า ในที่สุดแต่ละอย่างก็เริ่มเข้าที่เข้าทางของมันเสียที แต่อย่างไรก็ตาม ในแบบฉบับหนังสือนั้นจบลงด้วยการที่ Belly และ Conrad ตัดสินใจที่จะนัดเจอกันหลังจากหมดฤดูร้อน

ซีรีส์ The Summer I Turned Pretty นั้นพร้อมให้ทุกคนได้สตรีมแล้วบน Amazon Prime Video และได้รับการยืนยันสำหรับซีซันต่อไปของซีรีส์เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นมั่นใจได้เลยว่า คุณจะได้ชมซีรีส์เรื่องโปรดของคุณเรื่องนี้ต่อไปอีกแน่นอน