ครั้งหนึ่งธานอสเคยเป็นตัวอันตรายที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดใน Marvel Cinematic universe (MCU) ทว่ารายละเอียดต่าง ๆ ที่ทางค่ายเปิดเผยผ่านภาพยนตร์และซีรีส์ที่ออกฉายหลัง Avengers: Endgame (2019) เป็นต้นมาก็ทำให้ดูเหมือนว่าจะไม่ได้เป็นเช่นนั้นอีกต่อไป และ Doctor Strange in the Multiverse of Madness (2022) ก็เป็นอีกเรื่องที่ร่วมวงลดความน่ากลัวของพี่ยักษ์มันม่วงลงไปอีก

3 ปีหลังจาก Avengers: Endgame ออกฉาย สมาชิกทีมอเวนเจอร์สที่เหลืออยู่ยังไม่ได้กลับมารวมกลุ่มกัน แต่กระนั้นก็มิได้หมายความว่าใน MCU จะไม่มีเหตุร้ายระดับล้างโลกเกิดขึ้นอีก อันที่จริง ฉากหลังเครดิตของ Doctor Strange 2 แสดงให้เห็นว่า ทั้งมัลติเวิร์สเผชิญความเสี่ยงที่จะโดนทำลายล้างโดยพลังอำนาจน่าสะพรึงกลัวอย่างคัมภีร์ดาร์กโฮลด์ หรือปัจเจกบุคคลผู้ทรงอำนาจเหลือคณานับอย่างเช่น ดร.สเตรนจ์หรือสการ์เล็ตวิตช์อยู่ตลอดเวลา

หลังจากเนื้อเรื่องเกี่ยวกับอัญมณีอินฟินิตี้ผ่านพ้นไปไม่นาน แฟรนไชส์ MCU ก็เลือกโฟกัสที่ภยันตรายระดับมัลติเวิร์สเป็นเป้าหมายต่อไป ตัวอย่างเช่น การที่คลีอา (รับบทโดย Charlize Theron) เปิดเผยให้หมอแปลกได้รับรู้ว่า ขณะนี้กำลังเกิดการรุกรานจากจักรวาลอื่น ซึ่งอาจเป็นปัญหายุ่งยากซับซ้อนที่สุดเท่าที่ทีมอเวนเจอร์สเคยเผชิญมา อย่างไรก็ตาม นอกจากเฟส 4 ของ MCU กำลังปูทางไปสู่เนื้อเรื่องในอนาคตแล้ว อีกอย่างที่เห็นได้ชัดคือ การแก้ไขบทบาทของธานอสที่เคยปูมาในหนังเรื่องก่อน ๆ จนทำให้ชาวไททันจอมบ้าคลั่งผู้นี้มิได้เป็นจอมวายร้ายที่ทรงพลังและน่าสะพรึงกลัวที่สุดในกาแล็กซีอีกต่อไป

ตั้งแต่ก่อนจะมีการเปิดเผยว่า ทีมอิลลูมินาติใน Doctor Strange in the Multiverse of Madness สังหารธานอสแห่งจักรวาล 838 ไปแล้วที่ดาวไททัน MCU ก็ดำเนินการด้อยค่าจอมวายร้ายผู้นี้มาแล้วในหลายโอกาส เช่น ซีรีส์ Loki (2021) แสดงให้เห็นว่า อัญมณีอิฟินิตี้ที่ธานอสพยายามเก็บรวบรวมแทบตาย สุดท้ายแล้วกลายเป็นแค่ที่ทับกระดาษไร้ค่าเมื่ออยู่ในสำนักงาน TVA ที่ปกครองโดยชายผู้คงอยู่ ในซีรีส์ What If (2021) อัลตรอนที่กลายเป็นผู้พิชิตมัลติเวิร์สฆ่าธานอสในจักรวาลของตัวเองทิ้งอย่างง่ายดาย และใน Doctor Strange 2 เพียงแค่สมาชิกทีมอิลลูมินาติยื่นมือเข้าแทรกก็ทำให้ไททันจอมบ้าคลั่งถูกโค่นโดยยังไม่ทันดีดนิ้วสักเปาะ ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับภาพลักษณ์ของธานอสตามที่กล่าวมาเป็นสิ่งที่พบเจอได้ตามการ์ตูนคอมิกและหนังสือบันเทิงคดีทั่วไป กล่าวคือ หลังจากเนื้อเรื่องในส่วนของตัวร้ายตัวหนึ่งจบสิ้นลง ตัวร้ายหรือหายนะครั้งใหม่ที่จะตามมามักแข็งแกร่งหรือน่ากลัวยิ่งกว่าเดิม และทำให้ตัวร้ายตัวเดิมดูกระจอกงอกง่อยไปเลย ทีมเอ็กซ์เมนและแฟนแทสติก โฟร์ ที่โผล่มาเป็นตัวประกอบรับเชิญใน Doctor Strange 2 เป็นสัญลักษณ์ที่สื่อว่ามีตัวละครใหม่ ๆ อีกมากกำลังเข้ามาร่วมวงระเบิดพลังใน MCU รวมถึงแคงผู้พิชิตและ ดร.ดูม ซึ่งธานอสก็จะทำหน้าที่คล้ายมาตรวัดสำหรับโชว์ความแข็งแกร่งของเหล่าตัวละครใหม่นั่นเอง

หลังจากใช้เวลากว่า 10 ปีปูเรื่องของธานอสและภาพยนตร์ 2 ภาคที่ปิดฉากเฟส 3 ของ MCU อย่าง Avengers: Infinity War (2018) และ Endgame ซึ่งจอมวายร้ายผู้นี้สร้างความสูญเสียใหญ่หลวงแก่โลกและทีมอเวนเจอร์ส ก็ไม่มีทางใดที่จะเปิดตัวฮีโร่หรือผู้ร้ายหน้าใหม่ต่อจากนี้ได้ดีไปกว่าการเปรียบเทียบสเกลพลังของพวกเขากับธานอสอีกแล้ว แม้ว่าท้ายที่สุดแล้วทีมอิลลูมินาติแห่งจักรวาล 838 จะถูกสการ์เล็ตวิตช์สังหารทิ้ง แต่ก็ต้องยอมรับว่าทีมนี้มีฝีมือไม่เบาจากการที่สามารถจัดการกับธานอสได้รวดเร็วกว่าทีมอเวนเจอร์สของ MCU อีกทั้งเป็นไปได้มากว่าหลังเหตุการณ์ใน Doctor Strange 2 จบลง ฮีโร่ชุดใหม่อย่างกลุ่มแฟนแทสติก โฟร์ (ซึ่งจะมี John Krasinski รับบทมิสเตอร์แฟนแฟทสติกหรือไม่นั้นยังไม่ยืนยันชัดเจน) และทีมเอ็กซ์เมนจะมาร่วมจอยกับ MCU ในจักรวาล 616 ซึ่งก็ต้องมาพร้อมกับหายนะครั้งใหม่ที่อันตรายยิ่งกว่าธานอสถึงจะสมน้ำสมเนื้อ

การนำเสนอความตายของธานอสให้เป็นเรื่องตลกหรือเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนอกจออาจฟังดูเพ้อเจ้อเมื่อไม่กี่ปีก่อน แต่เมื่อพิจารณาทิศทางที่เฟส 4 กำลังมุ่งไปแล้วก็อาจไม่ไกลเกินจริง ตัวละครจำนวนมหาศาลที่ปรากฏโฉมใน Doctor Strange in the Multiverse of Madness แสดงให้เห็นว่ามีตัวละครในค่าย Marvel อีกมากที่ MCU ยังไม่ได้สำรวจเจาะลึก และทันทีที่ตัวละครเหล่านั้นเดินทางมาเยือนจักรวาล 616 ของ MCU สมดุลพลังภายในแฟรนไชส์หนังซูเปอร์ฮีโร่แห่งนี้อาจเกิดการเปลี่ยนแปลง การปูทางตัวร้ายใหม่อย่างแคง และการแง้มพรายถึงการรุกรานจากจักรวาลอื่น อาจทำให้ทีมอเวนเจอร์สคิดถึงเมื่อครั้งสู้รบตบมือกับธานอสก็เป็นได้