รีวิวภาพรวม National Treasure: Edge of History ภาคแยกของภาพยนตร์ผจญภัยไขปริศนาสุดโด่งดัง มาสู่การเป็นซีรีส์ทาง Disney+
สำหรับ National Treasure: Edge of History ซีรีส์ภาคแยกของแฟรนไชส์ National Treasure ได้เข้าฉายแล้วทาง Disney+ ซึ่งแฟนๆ ภาพยนตร์ผจญภัยไขปริศนาคงตั้งตารอกันไม่น้อย โดยบทความนี้จะเป็นการรีวิวแบบภาพรวมและไร้การสปอยล์เนื้อหาสำคัญใดๆ ครับ
National Treasure: Edge of History จะทำหน้าที่เป็นภาคแยกของแฟรนไชส์ National Treasure ซึ่งเป็นการแนะนำตัวละครใหม่ให้เรารู้จักอย่าง Jess (รับบทโดย Lisette Alexis) ที่ต้องพยายามทุกวิถีทางเพื่อไขปริศนาการล่าสมบัติที่พ่อของเธอ (รวมถึงตัวละครใหม่) ทิ้งไว้เบื้องหลัง ทางด้าน Billie Pearce (รับบทโดย Catherine Zeta-Jones) ก็เช่นเดียวกัน เธอคือนักล่าสมบัติผู้ชั่วร้ายที่พยายามค้นหาวัตถุโบราณของชาวแอซเท็ก และตั้งใจที่จะใช้เทคนิคต่างๆ เพื่อเอาชนะ Jess ให้ได้ แต่มันก็ไม่ง่ายอย่างที่เธอคิด เพราะว่า Jess เธอคืออัจฉริยะ เธอเป็นนักไขปริศนาที่เชี่ยวชาญและชื่นชอบประวัติศาสตร์อย่างมาก
ในซีรีส์นี้เราจะเห็นว่า มันได้เวลาแล้วที่จะต้องอัปเดตแฟรนไชส์ National Treasure ให้เป็นปัจจุบัน ผู้สร้างทั้งสอง Cormac และ Marianne Wibberley จึงทำให้มันเกิดขึ้นอีกครั้ง โดยการสร้างตัวละครอย่าง Jess ที่เป็นสาวรุ่นใหม่ช่างฝันและเป็นผู้ที่รู้ลึกรู้จริงถึงสมบัติของชาติในประวัติศาสตร์ของชนพื้นเมืองในอเมริกาอย่างถ่องแท้ ผู้สร้างในฐานะที่เป็นผู้เขียนบทภาพยนตร์เรื่อง National Treasure ทั้งสองภาค (ปี 2004 และ 2007) การทำความเข้าใจในโทนของหนังจึงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับพวกเขา หนึ่งในความสำคัญของการอัปเดตซีรีส์นี้ ผู้สร้างได้เลือกตัวละครเอกอย่าง Jess ให้เป็นชาวละตินเพื่อเป็นศูนย์กลางของเรื่องราว ซึ่งมีมุมมองเกี่ยวกับประวัติศาสตร์อเมริกาเป็นอย่างดีเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับธีมที่เกี่ยวข้องกับมรดกและการอนุรักษ์วัฒนธรรมนั่นเอง
นักแสดงหน้าใหม่อย่าง Lisette Olivera ถ้าดูจากตามข้อมูลใน TMBD แล้ว เรื่องนี้เป็นเพียงการแสดงเรื่องที่สองของเธอเท่านั้น นี่จึงถือว่าเป็นการสร้างยุคใหม่อย่างแท้จริงของแฟรนไชส์นี้ เราจะเห็นได้ว่าการแคสต์นักแสดงของ Wibberley มีการปรับแต่งภาพลักษณ์และโทนของรายการให้เหมาะกับกลุ่มวัยรุ่นยุคใหม่ ตัวละครที่ประกอบไปด้วย เพื่อนร่วมห้องของ Jess อย่าง Tasha (รับบทโดย Zuri Reed) แฟนที่เคยเพื่อนของ Tasha อย่าง Oren (รับบทโดย Antonio Cipriano) และสมาชิกในกลุ่มอีกคนอย่าง Ethan (รับบทโดย Jordan Rodrigues)
และแน่นอนว่าซีรีส์นี้ไม่ได้มาเพื่อทำลายประวัติศาสตร์ของแฟรนไชส์ National Treasure และในรายละเอียดของเรื่องราวก็เหมือนจะลบคำสบประหม่าต่อผู้ที่เคยมีความคิดด้านลบต่อหนังวัยรุ่นของ Disney เกี่ยวกับวิธีคิดของคนรุ่นใหม่ในภาพยนตร์ เนื่องจาก Jess และเดอะแก๊งของเธอมีวิธีคิดที่ก้าวหน้าทางการเมืองและมีส่วนร่วมกับความยุติธรรมทางสังคมอย่างมาก นั่นจึงทำให้หลายคนต้องทบทวนใหม่อีกครั้ง
คุณสามารถรับชม National Treasure: Edge of History ได้ทาง Disney+
สนุกอยู่นะ แนว ดิสนีย์เขาแหละ
นึกถึงนักผจญภัยตัวพ่ออย่างนิโคลัส เคจ เลยครับ 😄
คุณต้อง สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ ก่อน เพื่อที่จะสามารถแสดงความคิดเห็นได้