Attack on Titan ประสบความสำเร็จเพราะเป็นแนวซอมบี้ (ที่ไม่มีซอมบี้)
Attack on Titan เป็นหนึ่งในอานิเมะที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก และถือได้ว่าเป็นอานิเมะที่โด่งดังที่สุดในโลกในยุคสมัยปัจจุบัน ซึ่งส่วนหนึ่งของความสำเร็จเหล่านี้ มาจากการพูดถึงเหล่ายักษ์ไททัน จึงทำให้อานิเมะเรื่องนี้ถูกจัดอยู่ในแนวซอมบี้ (แต่ไม่มีซอมบี้) เพราะเหล่าตัวละครหลักต้องเอาชีวิตรอดจากพวกไททัน
Attack on Titan เป็นอานิเมะที่เปิดตัวออกมาครั้งแรกในปี 2013 โดยจะบอกเล่าเรื่องราวของมนุษย์ที่ต้องอาศัยอยู่หลังกำแพงยักษ์ และมีการแบ่งกำแพงเป็นหลายชั้น พร้อมกับมีการแบ่งแยกชนชั้นทางสังคมตามเขตของกำแพง โดยคนที่เป็นชนชั้นสูง หรือคนรวย จะอยู่กำแพงชั้นในสุด และปลอดภัยที่สุด ส่วนคนจนจะได้อยู่กำแพงชั้นนอก และมีความเสี่ยงที่จะโดนโจมตีจากไททัน แต่ในกำแพงก็ยังมีหน่วยสำรวจ ที่จะทำหน้าที่ต่อสู้กับเหล่าไททันที่เข้ามาคุกคาม โดยอานิเมะเรื่องนี้คาดว่ากำลังจะจบลงในปี 2023
Attack on Titan จะติดตามเรื่องราวของ Eren Jaeger ทหารหนุ่มในหน่วยสำรวจที่ได้สาบานกับตัวเอง ว่าเขาจะแก้แค้นไททันที่บุกเมืองบ้านเกิดของเขาและ)ฆ่าแม่ของเขา ซึ่งไททันจะเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีความสูงตั้งแต่ 2 - 15 เมตร แม้ว่าจะมีความคล้ายคลึงกันกับมนุษย์ แต่ก็มีหลายอย่างที่แตกต่างกัน เพราะส่วนใหญ่ ไททันจะมีรูปร่างที่แปลกประหลาด เช่น ศรีษะที่ใหญ่ยักษ์ไปจนถึงใบหน้าที่ผิดรูป รวมไปถึงพวกไททันจะไม่ใส่เสื้อผ้า ร่างกายเปลือยเปล่า แต่ก็ไม่มีอวัยวะสืบพันธุ์ให้เห็น และไททันแต่ละตัวก็มีความสามารถและความพิเศษแตกต่างกัน สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ทำให้อานิเมะเรื่องนี้น่าสนใจ และเกินการคาดเดา แถมสิ่งนี้ยังช่วยยกระดับให้อานิเมะเรื่องนี้ไม่ใช่แค่ซอมบี้ธรรมดา และอาจเป็นเหตุผลที่ว่าทำไม Attack on Titan ถึงประสบความสำเร็จได้ขนาดนี้
ภาพยนตร์และซีรีส์ทั่วไปที่เป็นแนวซอมบี้ หรือแนวสัตว์ประหลาดร้ายบุกโลก มักออกแบบให้ซอมบี้หรือสัตว์ประหลาดเหล่านั้นเป็นเพียงพวกสัตว์ร้ายบ้าคลั่งไร้สติ ไม่มีความคิด มีเพียงความกระหายเลือดที่จะสังหารและกินมนุษย์เพียงอย่างเดียว และใน Attack on Titan ในช่วงต้นเรื่อง หรือ ซีซันที่ 1 ก็เป็นแบบนี้เช่นเดียวกัน คือไททันไม่มีสติปัญญา จ้องแต่จะทำลาย สังหารและกินมนุษย์เพียงอย่างเดียว แต่หลังจากนั้นไม่นาน ก็ได้มีการเฉลยออกมาว่า แท้จริงแล้วเหล่าไททัน ไม่ได้หิว และไม่จำเป็นต้องกินมนุษย์เป็นอาหาร โดยอานิเมะได้ทิ้งคำถามไว้กับผู้ชมว่า แท้จริงแล้วเหตุผลที่ไททันกินมนุษย์ทั้งที่ไม่จำเป็นนั้นคืออะไร ? และอีกหนึ่งสิ่งที่ไททันมีความคล้ายกับพวกซอมบี้ คือ การเคลื่อนไหว เพราะมีบางตัวที่สามารถเคลื่อนที่ได้เร็ว และบางตัวก็เคลื่อนที่ได้ช้า บางตัวก็คลาน ซึ่งสิ่งเหล่านี้เรามักจะพบเห็นได้ในภาพยนตร์หรือซีรีส์ซอมบี้ทั่วไป
แต่ท้ายที่สุดแล้ว เมื่อเวลาผ่านไป เราจะได้รู้ว่าแท้จริงแล้ว เหล่าไททันในอานิเมะ Attack on Titan ต่างจากซอมบี้ทั่วไป เพราะว่า แท้จริงแล้วไททันเหล่านี้เคยเป็นมนุษย์มาก่อน แถมเหล่ามนุษย์ที่ได้กลายเป็นไททัน ก็ไม่ได้ไร้สติไปซะหมด เพราะลึก ๆ แล้ว พวกเขายังคงมีความเป็นมนุษย์อยู่ภายในจิตใจ และรับรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น นอกจากนี้ยังมีเหล่านักรบไททัน ที่จะมีความสามารถพิเศษแตกต่างจากไททันทั่วไป เช่น ไททันเกราะ ที่จะสามารถสร้างเกราะที่แข็งแรงไว้ทั่วตัวได้ หรือ ไททันมหึมาที่จะตัวสูงกว่า 50 เมตร เคลื่อนที่ช้าแต่ทรงพลัง เป็นต้น และพวกนักรบไททันพวกนี้ยังสามารถแปลงร่างเป็นไททัน และกลับมาเป็นมนุษย์ได้อีกด้วย ทำให้เรื่องราวมีความซับซ้อนขึ้นไปอีกขั้น
และอย่างที่บอกว่ามนุษย์ที่เปลี่ยนไปเป็นไททันนั้น แท้จริงแล้วลึก ๆ พวกเขายังมีความเป็นมนุษย์ สิ่งนี้พิสูจน์ให้เราได้เห็นในซีซันที่ 2 ที่มีอยู่ตอนหนึ่งที่เพื่อนของ Eren Jaeger อย่าง Connie Springer ได้เดินทางกลับไปยังหมู่บ้านของตัวเองที่ถูกไททันโจมตี และเมื่อเขาได้กลับไปที่บ้านเพื่อหาครอบครัว เขาก็ได้เจอกับไททันตัวหนึ่งนอนทับบ้านของเขาอยู่ และไททันตัวนั้นมีลักษณะคล้ายกับแม่ของเขา ซึ่งไททันเหมือนพยายามจะคุยกับ Connie เพื่อต้อนรับเขากลับบ้าน จากนั้นก็ได้เผยตัวว่าเป็นแม่ของเขา นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการเพิ่มความสยองขวัญของอานิเมะ Attack on Titan
แม้ว่าอานิเมะ Attack on Titan จะถูกจัดอยู่ในหมวดหมู่เดียวซอมบี้ แต่องค์ประกอบต่าง ๆ เกี่ยวกับไททันที่เพิ่มเข้ามาในอานิเมะเรื่องนี้นั้น เป็นสิ่งที่ช่วยยกระดับให้กับอานิเมะเรื่องนี้อย่างแท้จริง และทำให้ Attack on Titan มีความแตกต่างและน่าสนใจกว่าภาพยนตร์และซีรีส์แนวซอมบี้ที่เราเคยเห็นกันมาจนดาษดื่น จากการที่ทำให้ไททันบางตัวมีความคิดเหมือนมนุษย์ มีแผนการในการต่อสู้ เป็นสิ่งที่ทำให้เหล่าไททันมีความน่ากลัวมากกว่าเดิม และสร้างความกดดันมหาศาลให้กับผู้ชมที่นั่งลุ้นเอาใจช่วยเหล่าตัวละครหลัก และยังมีไททันบางตัวที่แฝงตัวเป็นมนุษย์แอบซ่อนอยู่อีก ทำให้อานิเมะเรื่องนี้มีทั้งความสยองขวัญ การสืบสวนสอบสวน แอ็กชัน แฟนตาซี และการเล่าเรื่องราวผ่านกลุ่มตัวละครหลักที่ร่วมสู้กันมายาวนาน ก็แสดงถึงเรื่องราวมิตรภาพที่สวยงาม การหักหลัง แถมในซีซันหลัง ๆ ยังมีการยิบยกเรื่องการเมืองที่เข้มข้น สงครามระหว่างประเทศเข้ามาอีก ทำให้อานิเมะเรื่องนี้ครบรสทุกอารมณ์ จึงไม่แปลกที่ Attack on Titan จะถูกจัดให้กลายเป็นอานิเมะที่ดีที่สุดในยุคสมัยนี้
คุณต้อง สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ ก่อน เพื่อที่จะสามารถแสดงความคิดเห็นได้