Channel 3

สามหนุ่มเนื้อทอง เป็นละครโทรทัศน์ จากบทประพันธ์ของ กันยามาส บทโทรทัศน์ โดย ฉันท์เฉิดฉิน กำกับการแสดงโดย กฤษณ์ ศุกระมงคล ดำเนินงานโดย บริษัท เมกเกอร์วาย จำกัด สามหนุ่มเนื้อทองเป็นเนื้อเกี่ยวกับ สามหนุ่มที่เป็นเพื่อนสนิทกัน แต่มีนิยามความรักไม่เหมือนกัน ออกอากาศ วันศุกร์ เวลา 20.30 น. (เสาร์ อาทิตย์ เวลา 20.15 น.) ทางช่อง 3 เริ่มตอนแรก วันศุกร์ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2554-15 มกราคม พ.ศ. 2555 และล่าสุดในปี พ.ศ. 2556 ช่อง 3 ได้นำมาออกอากาศรีรันให้ชมกันอีกครั้งทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 14.10 น. เริ่มตอนแรก วันพฤหัสบดีที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - วันศุกร์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2557

รักปาฏิหาริย์ เป็นเรื่องเกี่ยวกับ ณิชมน ชุติมันต์(คิมเบอร์ลี แอน เทียมศิริ) ลูกสาวคนเดียวของณัชชา สุธาสิน(สรวงสุดา ลาวัณย์ประเสริฐ) และ ชยทัต ชุติมันต์(สถาพร นาควิลัย) ที่เดินทางกับมาเมืองไทย เพื่อจะมากราบคุณหญิงนวลแข สุธาสิน(ดวงใจ หทัยกาญจน์) ผู้เป็นยาย ในขณะนั้นมีคนมารับตัวเธอไปที่บ้าน สรณาลัย ขณะที่ณิชมนต้องปลอมตัวเป็นประนอม แล้วก็ได้รู้จัก ม.ร.ว. บุรธัช บุริศร์ (กฤษฎา พรเวโรจน์) อีกด้วย คุณชายบุรธัชสงสัยในตัวณิชมน จึงสืบ ในขณะที่สืบคุณชายก็หลงรักณิชมนอย่างไม่รู้ตัว แล้วก็รู้ว่า รวิภาส(อเล็กซ์ เรนเดล)น้องชาย รักกับ นมล(ชาลิดา วิจิตรวงศ์ทอง)ลูกสาวของของพรรณอร(พิมพ์ผกา เสียงสมบุญ)เจ้าของบ้านสรณาลัย เพราะบุรธัชเข้าใจว่า ม.ร.ว.นฤสรณ์ เจ้าของบ้านสรณาลัย ฆ่าพ่อของเขา ก็ค้านสุดตัว แล้วแถมยังรู้ว่า พงษ์เทพ(ดนัย จารุจินดา) ก็หลงรักณิชมน บุรธัชรู้ก็หึงมาก จึงสารภาพรักกับณิชมน ด้านณิชาภัทร(เจนสุดา ปานโต) ก็สืบรู้ว่าใครคือประนอมตัวจริง เพราะดูแฟ้มประนอมจาก อาจารย์ดาวเรือง(ชุดาภา จันทเขตต์) อาจารย์ดาวเรืองก็เฉลยความจริงว่า ประนอมตัวปลอมนี่คือคือ ณิชมน ชุติมันต์ เพราะรู้จากพงษ์เทพ แล้วบุรธัชยังรู้อีกว่า เขาเข้าใจบ้านสรณาลัยผิดไปเองก็ขอโทษพรรณอร กับ พรพรรณ(ดารัณ บุญยศักดิ์)น้องสาวของพรรณอร ณิชาภัทรรู้ว่าเป็นณิชมนก็ดีใจและหายโกรธ แล้วณิชาภัทรก็คิดสานต่อความรักกับบุรธัชแต่ณิชมนได้มายินเข้าก็พยายามตัดใจแล้วกลับเมืองนอก แต่ณิชมนหารู้ไม่ว่า ณิชาภัทรตัดใจจากบุรธัชได้แล้ว หลังจากที่รู้ว่า ณิชมนรักบุรธัชจึงทำตัวเป็นพี่ที่ดีที่เสียสละ สุดท้ายรวิภาสกับนมลได้รักกัน แต่ณิชมนกับบุรธัชจะได้รักกันหรือไม่ ติดตามได้ ตั้งแต่วันที่ 25 ตุลาคม นี้

เกมร้ายเกมรัก เป็นนวนิยายไทย จากบทประพันธ์ชื่อเดิม "เกมร้ายพ่ายเกมรัก" โดยนามปากกาของ "บุษบาพาฝัน" ถูกนำมาสร้างเป็นละครโทรทัศน์ครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2554 เขียนบทโทรทัศน์โดย ปณธี กำกับการแสดงโดย อำไพพร จิตติ์ไม่งง ดำเนินงานโดย บริษัท ละครไท จำกัด ออกอากาศครั้งแรกทางสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2554 นำแสดงโดย ณเดชน์ คูกิมิยะ, อุรัสยา เสปอร์บันด์ ,ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ ,ณัฐวรา วงศ์วาสนา ร่วมด้วยนักแสดงสมทบอีกมากมาย[1] และออกอากาศรีรันซ้ำอีกครั้งทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 14.10 - 15.30 น. เริ่มวันพุธที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - วันจันทร์ที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2556 โดยออกอากาศต่อจากละครเรื่อง เมียแต่ง

คุณหญิงรุจา อัคราชมีหลานสาวสองคน คือ บี - สไบนาง และ เม - เมธาวี อัคราช เมธาวีเป็นบุตรสาวของ ประมุข กับ วิจิตรา อัคราช หญิงสาวเพียบพร้อมทั้งกิริยามารยาทและการศึกษา ขณะที่สไบนาง เป็นบุตรีของ ประจักษ์ กับ ศรีอำไพ ซึ่งเสียชีวิตไปแล้วทั้งคู่ ปัจจุบันสไบนางอยู่ ในความปกครองของคุณหญิงรุจา สไบนางเป็นเด็กกะโปโล ทุกคนมักจะบอกให้สไบนางทำตัวให้ได้อย่างเมธาวี แม้ว่า ชันษา เพื่อนบ้านคนสนิทจะคอยเตือนสไบนาง เพราะชันษาหลงรักเมธาวี แต่มีอยู่อย่างหนึ่งที่สไบนางทำได้ดีกว่าใคร ๆ นั่นก็คือการรำไทย

Tawan Deard Thai: ตะวันเดือด is a 2011 drama/romance/action lakorn, that stars Prin Suparat, Urassaya Sperbund, Chalida Vijitvongthong, and Tanawat Wattanaputi. It airs on Channel 3.

Kongkai lives his life as a playboy, so his mother wants him to get married with a girl who can make him better. So, she forces him to marry with Arunprapai, a good girl she finds for him. Arunprapai accepts to marry with a guy who she doesn't love to avoid the rumor that she commits adultery with Phuchong, her ex-boyfriend who is going to have a baby with another girl by accident. However, Kongkai and Arunprapai's marriage life is not smooth because Kongkai also has girlfriend named Prungchat and she wants to get him back.

Plerngrit, or simply Plerng (played by Mario Maurer), is the only son of Pipat and Pongpaew, who lives in Ranong and does fishing for a living. Pipat is actually the eldest son of Khun Ying Tongtraa Chatayothin, the owner of Thai Diamonds Company, or Phet Thai. Twenty years back, Pipat fell in love with Pongpaew, a poor woman who Khun Ying Tongtraa despised. Pipat was given two choices: stay with his mother or leave the house and go with Pongpaew. He chose option number two and lived a peaceful life in Ranong with his family. For twenty years, Plerng’s parents hid the truth from him. However, one day, Khun Ying Tongtraa fell ill and ended up in the hospital requiring immediate heart transplant. The news spreaded throughout Thailand and reaches Pipat. Pipat finally decides to tell his son the truth and the family travels to Bangkok to visit Khun Ying Tongtraa in the hospital and apologize for his actions twenty years before. On the way, they get into a wreck and Plerng’s father dies on the scene. Plerng and his mother, Pongpaew ended up in the same hospital as Khun Ying Tongtraa. When Plerng was conscious, he learned that his father had passed away and his grandmother was at the same hospital. The doctor tells Plerng that his father is brain dead and will never wake up.Plerng didn’t want to see his father in that horrible situation so he decides to let his father go and donate his father’s heart to his grandmother. He made the decision alone because his mother was still in a coma. While at the hospital, Plerng meets his aunt Bussakon and uncle Niruj. His aunt Bussakon has two children: Anat and Naree. His uncle Niruj has a son named Chanon. Uncle Niruj and Chanon accepts the truth that Plerng is their relative but aunt Bussakon and her children do not like Plerng. They are jealous of Plerng and fear that one day, Plerng will come into the family and take over everything. For that reason, aunt Bussakon tricks Plerng and Niruj to hide the truth from Khun Ying Tongtraa about the heart transplant. When Plerng’s mother is finally conscious, she learns that her husband has passed away. Plerng also tells his mother about the heart transplant but his mother does not blame him. Since Plerng promised to hide the truth about his father’s heart, Plerng and his mother decides to leave the hospital without seeing Khun Ying Tongtraa. However, fate leads them to meet and before he knows it, Plerng finds himself living and working with his family under stressful conditions. When Khun Ying Tongtraa learns that her son is dead, she is very sad and blames Pongpaew for taking her son away forever. Plerng and his mother want to apologize to his grandmother but his grandmother would not listen. She refuses to forgive Pipat and Pongpaew. But, Plerng does not give up. Khun Ying Tongtraa uses his chance to allow Plerng to prove himself. Plerng’s father has 20% of the shares in Phet Thai. Unless Plerng can make the profits higher than his father’s shares within three months, his grandmother will not accept the apologies. So Plerng takes over his father’s position and bring up the sales in Phet Thai. With the help of the two sisters, Namfon and Sitha, and their mother, Khun Manmart; Plerng is only a few steps away from achieving his goal. As they spend a lot of time working with each other, Plerng gradually falls for Namfon while Namfon’s older sister, Sitha falls for Plerng. Chanon, on the other hand has a crush on Sitha. When he learns that Sitha loves Plerng, he respects her decision and tries to hold his feelings back. Will Chanon end up with Sitha? How will Khun Ying Tongtraa react when she learns that her heart donor is her own son? Tune in to Plerng Torranong to find out!

Two gold-digging brothers, Prawet and Jit, steal 117 pieces of treasure from the Dragon Cave. They both are attacked by a blood-sucking bat and they are cursed to be immortal. To remove this curse, they must return all treasures they stole to the cave. Prawet wants to do it, but Jit doesn't agree with his brother. This conflict causes these two brothers to be enemies. Later, both of their sons inherit their immortality. One day, Jit killed Prawet by burning him. Traipoom, Prawet's son decides to follow his father's wish and tries to look for the lost treasures in order to take them back to the cave.

เนตรชนก (ภีรนีย์ คงไทย) เป็นลูกสาวคนเดียวของ เทพไท (ธนากร โปษยานนท์) ซึ่งรักลูกสาวเยี่ยงชีวิต และไม่เคยขัดใจเธอเลยแม้แต่น้อยรวมทั้ง เนื้อนวล (จินตหรา สุขพัฒน์) ผู้เป็นย่าทั้งรักทั้งสงสารหลานสาวเพราะเห็นว่ากำพร้าแม่ตั้งแต่เด็ก ๆ จึงชดเชยให้ด้วยความรักและตามใจแม้ว่า ทัดไท (สุรชัย สมบัติเจริญ) ผู้เป็นปู่จะเคยปรามไม่ให้ตามใจมากเกินไป เนตรชนกจึงเติบโตมาราวกับเป็นเทวดานางฟ้า เป็นที่ 1 ของบ้านเป็นศูนย์รวมความรัก ซึ่งเธอไม่ยอมให้ใครมาพรากสิ่งเหล่านี้ไปจากเธอเป็นอันขาด และเมื่อมีสมาชิกใหม่ที่บังอาจย่างก้าวเข้ามาในอาณาจักรของเธอในฐานะแม่เลี้ยง และแย่งความรักความสนใจไปจากเธอโดยเฉพาะจากพ่อผู้เป็นที่รัก และรักเธอที่สุด สงครามช่วงชิงความรักจึงเกิดขึ้นแต่เป็นสงครามที่เกิดขึ้นฝ่ายเดียวเพราะ ศศิมล (วรันลักษณ์ ศิริมะณีวัฒนา) ว่าที่แม่เลี้ยงคนใหม่ ไม่เคยคิดตอบโต้ใด ๆ เพราะความรักที่เธอมีให้เทพไทจึงยอมอดทนทุกอย่าง แต่สิ่งที่เนตรชนกกระทำต่อศศิมลสร้างความไม่พอใจอย่างมากแก่ ชนม์ชนก (วรินทร ปัญหกาญจน์) พี่ชายของศศิมลเขารักน้องสาวเขามาก และไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายเป็นอันขาด เนตรพยายามขัดขวางเกือบจะสำเร็จแต่ศศิมลท้องเทพไทจึงขอแต่งงาน เนตรป่วนงานแต่งเกือบล่มแล้วก็ขับรถหนีไป ชนม์ชนกขับรถตามเนตรไป เมื่อรถติดไฟแดง ชนม์ก็ลากเนตรลงจากรถและจูบเนตรกลางสี่แยกไฟแดง ทำให้เนตรโกรธมากจึงขับรถชนรถของชนม์ แต่โชคดีไม่เป็นอะไรมากทั้งคู่ เมื่อศศิมลเข้าไปอยู่ในบ้านเทพไท เนตรก็กลั่นแกล้งต่าง ๆ นา ๆ แกล้งให้กินเต้าหู้ที่เกลียด ขับรถไปทิ้งกลางทางด่วน หลอกให้ถักเสื้อให้อย่างหามรุ่งหามค่ำจนล้มป่วยและเอาเสื้อไปเผาไฟ ชนม์โกรธมากจึงลากเนตรไปโรงแรมม่านรูดแล้วถอดเสื้อเนตรมาเผาบ้าง แล้วพาไปปล่อยในซอยหน้าบ้านให้ใส่เสื้อไหม้เป็นรู ๆ เดินกลับบ้านเป็นการแก้แค้น เนตรจึงทั้งเกลียดทั้งแค้นชนม์มาก ชัชชัย (ไพบูลย์เกียรติ เขียวแก้ว) และ คุณหญิงเปรมปรีดิ์ (สรวงสุดา ลาวัณย์ประเสริฐ) พ่อแม่ของศศิมลเป็นห่วงจึงชวนให้ไปพักฟื้นที่บ้าน เทพไทจึงไปค้างด้วย เนตรตามไปค้างด้วยและไปแย่งห้องนอนศศิมล เทพไทโกรธมากจึงลากเนตรกลับบ้านกลางดึกทะเลาะกันอย่างรุนแรง เนตรเสียใจประชดพ่อด้วยการออกไปเที่ยวทุกวัน คืนหนึ่งเนตรกลับบ้านดึกผิดปกติ ศศิมลจึงไปยืนรอหน้าบ้าน เนตรเข้าเกียร์ผิดจึงถอยหลังพุ่งไปทางศศิมล เทพไทออกมาเห็นและดึงศศิมลไปพ้นรถ เขาโกรธมากจึงต่อว่าเนตรและหลุดปากพูดออกไปว่าเขาไม่มีลูกสาวที่ใจคอโหดเหี้ยมอย่างเนตร ทำให้เนตรน้อยใจจึงหนีออกไปอยู่บ้าน อุ่น (จุฑามาศ ปลั่งสุชน) ไม่ยอมเอาอะไรไปแม้แต่อย่างเดียว ไม่ว่าพ่อหรือใครไปขอร้องเนตรก็ไม่ยอมกลับ เนตรออกหางานทำด้วยความมุ่งมั่น แม้จะต้องลำบากขึ้นรถเมล์ก็ไม่ท้อถอย ชนม์รู้สึกทึ่ง ความรู้สึกเกลียดชังเริ่มน้อยลงกลายเป็นความเห็นใจมากกว่า เพราะเขารู้จริง ๆ แล้วเนตรไม่ได้เป็นคนร้ายกาจอะไร ทุกอย่างที่เธอทำไปเพราะรักและหวงพ่อเท่านั้น ทิพย์ธิดา (เจนสุดา ปานโต) สาวไฮโซ นักธุรกิจสาวชื่อดังมาติดพันชนม์และมีอะไรกัน เมื่อชนม์เริ่มมาพัวพันกับเนตร ทำให้ทิพย์ธิดาไม่พอใจและยิ่งเกลียดเนตร เคน (ธนา เอี่ยมนิยม) เพื่อนจอมเจ้าชู้ของเนตรแอบชอบทิพย์ธิดา ทำอุ่นซึ่งแอบรักเคนอยู่ได้แต่น้อยใจ แต่เคนก็ไม่เคยเห็นอุ่นอยู่ในในสายตายเลย

Thayu (Sunthisook Promsiri) works for and is a close friend of Bpatawee (Thun Hirasa). Bpatawee ordered to kill him, but he survived. He waited for a chance at revenge when Bpatawee was about to have his first child. He went and kidnapped the baby girl. The hospital was afraid of revealing the truth so they took a farmer’s baby and used her in place of President Bpatawee’s actual daughter, which he thought she really was. Thayu raised the baby and named her Matsaya (Araya A. Harget). He taught her how to be a thief and trained her how to fight in various styles. He longed for the time she would return to kill her own father. He set up an organization and became leader of Sa Ming Sa. He took in and raised many orphans, teaching them how to rob and plunder for the organization. 24 years later, Matsaya grew up with 3 friends. There’s Aira (Sarah Legg), Khemika (Panchanida Seesaaram), and Natmon (Maneerat Kamuan). There’s also Chanon (Aphinan Prasoetwatthanakun) who’s a leader of their group. While they were young, Matsaya was sent to be the god daughter of an English family and Aira was sent to be the god daughter with the foreign ministry of Russia. While Matsaya was raised to be a theif, Naethiya (the girl she was switched with) was raised like a princess and has a sister name Nirada. The two sisters doesn’t really get along since both fell for the same guy. Chief Investigator Singha (Theeradeth Wongpuapan), who’s the head of security for their father. There’s also Captain Tawee and his helper, who’s a rival with Singha. Matsaya received orders to assassinate President Bpathawee during Naethiya’s fashion show. But she failed when Singha covered Bpatawee and took the bullets. The two fought furiously until Matsaya was almost unmasked when Aira came in and helped her in time. She was angry at him for ruining her assassination attempt and tried to kill Singha many times but failed. All the while Singha was starting to show interest in her without knowing she’s the culprit they have been searching for. Bpatawee received a mysterious letter saying his daughter’s was switched. He assigned Singha and Narathip, who’s his son, to go and investigate the truth. Naethiya overheard and seek out the truth herself, finding out she is not his real daughter. She never told anyone this however. Singha then traveled to meet the person who’s Naethiya’s real father, with Naethiya following him. He caught her, but she begged him not to tell that man she’s his daughter because she can’t accept an ordinary person as her father. Narathip bumped into Aira and immediately liked her and begin to pursue her. There was to be a welcoming party for the Minister of Russia. Matsaya, Khemika and Natmon disguised as Russian girls to perform a show at the party. Aira was the one set to bring in and prepare the weapons. When there was an opening, Matsaya tried to shoot Bpatawee but failed again. The police have set up tight security for the event. Matsaya ended up being shot by Singha. Singha was suspicious of Aira that she might be have something to do with the terrorism. Narathip then volunteered to find out the truth from Aira herself. After being shot, Matsaya got help from Rungrawi, who owns a gallery. Matsaya would often send her painting over to sell. Rungrawi knows Matsaya is a part of the Organization because she also use to be one of them. She even use to be the lover of their leader but she left wanting a normal life for herself. Thayu berated Matsaya for not succeeding in killing Bpatawee. All her friends felt bad for her so they asked to help her in killing Bpatawee but Thayu refused to let them help. This caused the others to get suspicious and question why he wanted only Matsaya to do it. Narathip started seeing Aira causing Singha to meet with Matsaya. When they’re close Singha realized Matsaya dislike him, which he doesn’t understand why. He started to follow her but Matsaya found out and revealed to Singha that she wanted to kill him. Everything started to come together for Singha and he knows she’s a part of Sa Ming Sa as well as Aira. Matsaya started to also get suspicious of Tayu’s order to kill Bpathwee. She started to investigate and found out she’s actually Bpathwee’s daughter. She was shocked and couldn’t believe Tayu had kidnapped her from her own family and tried to get her to kill her own father when she loved and respected Thayu like her own father. Narathip ask Aira to turn into a good person and provide information on Sa Ming Sa to the police. Aira went to seek advice from Matsaya but she couldn’t promise anything because she planned on getting revenge on Thayu. Aira told Singha this causing him to be concern. He confessed he was in love with Matsaya but she didn’t accept and was determine to kill Thayu. Singha then told Bpatawee Matsaya was his real daughter. What Naethiya found out, she planned on getting rid of her. She informed the commanding officer and his people so they can plan for an arrest. However, Singha saved her in time causing her to become impressed and grateful for the love he has for her. Matsaya went by herself to try to kill Thayu but was captured by him as a hostage instead. He asked for Bpatawee to use himself to trade place with his daughter, Matsaya. Singha and the police planned an attack on Sa Ming Sa along with Aira, Natmon, and Khemika who turned over a new leaf to help their friend. Singha and Matsaya were then able to defeat Thayu and Chanon. Matsaya almost died from her injuries but was able to pull through. The four friends were happy to be together again as good citizens since they helped out the police. Singha and Matsaya’s love was going well along with Narathip and Aira. But all the problem hasn’t gone away. Apparently Thayu and Chanon are still alive and have fully recovered. Now they plan to return and kill the 4 girls. Who’s going to stay and who’s going to go. How will the couple fare against this danger, just watch Rahut Torrachon…

4 หัวใจแห่งขุนเขา [1]เป็นละครโทรทัศน์ซึ่งจัดทำเป็นพิเศษ เพื่อฉลองครบรอบ 40 ปี สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 [2]โดยเขียนขึ้นจากนวนิยายชุด บ้านไร่ปลายฝัน เป็นบทละคร 4 เรื่อง ซึ่งมีชื่อเรื่องคล้องจองและเนื้อหาต่อเนื่องกันคือ ธาราหิมาลัย, ดวงใจอัคนี, ปฐพีเล่ห์รัก และ วายุภัคมนตรา รวมถึงใช้นักแสดงชุดเดิมคือ อธิชาติ ชุมนานนท์, คิมเบอร์ลี แอน โวลเทมัส, ณเดชน์ คูกิมิยะ, อุรัสยา เสปอร์บันด์, ปริญ สุภารัตน์, ชาลิดา วิจิตรวงศ์ทอง, ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ และ ราศรี บาเลนซิเอก้า ออกอากาศทุกวันศุกร์ เวลา 20.30 น. วันเสาร์ และวันอาทิตย์ เวลา 20.15 น. เริ่มตั้งแต่วันเสาร์ที่ 16 ตุลาคม - 25 ธันวาคม พ.ศ. 2553 และออกอากาศซ้ำในวันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 14.40 - 15.40 น.

Pathapee, the owner of Thararin Resort has to confront with the trouble maker, Cha-em, a cunning girl who plans to make trouble in his resort. Cha-em is on a mission to destroy Pathapee's resort because Pathapee had hurt Cha-em's parents in the past. They quarrel and conspire behind each other's backs to win the upper hand against the other's resort. Along the way, they find that they have an ever growing attraction for each other and can't decide what is more important, the resort or their love?

Because of the conflict between 2 families from the fathers' generation, Akkanee and Ajjima have been enemies with each other since they were kids. When they grow up and take care of their own dairy farm which there's the white fence as a border, the quarrel and fight often happens between them. However, under their harshness against each other, they secretly care about each other. Later, when many incidents lead them to open their hearts to each other, they have to face the big barrier. Ajjima's father is still stubborn and doesn't accept this son-in-law-to-be. What can Akkanee get through the barrier?th

Ken is Tula, he is married to Lanaree (Anne). Tula is a man who is confident in love, as for Lanaree, not so much. Lanaree is described as boisterous, self-centered, kinda like Alin from “Soot Sanaeha (A recipe for love)”. One day, Lanaree had her fortune read by a roadside psychic. The psychic tells her that she and Tula will break up. She doesn’t believe the psychic, so the psychic gives her an old notebook and instructs her to put it under her pillow when she sleeps. When she wakes, she will find out if the prediction that her marriage will end in divorce is true.

Wanida (Aff) is the daughter of Dao, a loan shark. She is beautiful, lovely, brave and strong-will. Mejar Prajuab Mahasak (Tik) who came from the noble family Mahasak is a kind-hearted man, a very good son and a family man. The two met in an accident and quickly develop dislike feeling for each other, due to their very contrast personality. However, fate seems to have its own plan for them. Lek, Khun Prajak’s brother borrowed some money from Dao and was unable to pay the debt. Dao gave him a condition for him to marry his daughter to cancel the debt. However, Lek ran away and left Khun Prajak to replace him. Without knowing anything, Wanida agreed to the wedding and then their chaotic marriage finally begins...

Laimek is an expert undercover agent. He's on the verge of retiring in hopes of finding more time for his daughter Fakhram. Out of his duty to conceal his line of work, he's always had to feign weakness and cowardice, even to his own daughter. Peesaeng is an eager, confident new undercover agent looking to measure himself against Laimek. The police department decides to team the two up in order for Peesaeng to learn from his senior. The two are assigned to a drug case against a Khongdet, a wealthy man the police believe to be a drug lord.

Suea and Mook had known each other since young age, they grew up together and had unsaid promise of undyingly loving each other but their separation was inevitable since Mook's father had to move abroad for his career. They eventually got together because Mook had to return to Thailand for a funeral, and it was then that they met after almost 10 years. Their happiness wasn't easily earned, there were many people wanting to take advantage of Suea's fortune, and had to get Mook out of the way.

นันทวดี วิปกรณ์ อาศัยอยู่ในบ้านเก่าโกโรโกโสกับ สร้อยสอางค์ หัวหน้าพาร์ตเนอร์ผู้เป็นแม่ และ พวงสร้อย นักพนันตัวยงผู้เป็นยาย ถึงจะอยู่บ้านโทรม ๆ แต่นันทวดีก็มีเงินเดือนที่ ธวัช พ่อของเธอส่งให้ เธอจึงแต่งตัวหรูหรามีเงินใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย นันทวดีชอบเที่ยวมากกว่าเข้าห้องเรียน จึงไม่ยอมเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัย สร้อยสอางค์ก็เห็นดีเห็นงามด้วย วันหนึ่งนวลใจ ผู้เป็นแม่เลี้ยงส่งข่าวมาบอกว่าธวัช เสียชีวิตและแบ่งมรดกไว้ให้ โดยมีเงื่อนไขว่านันทวดีต้องเข้าไปอยู่ในบ้านวิปกรณ์ให้ครบ 5 ปี จึงจะได้รับเงินมรดก นันทวดีอยากได้เงินและอยากไปแก้แค้น นวลใจ กับ วารี ย่าแท้ ๆ ที่สร้อยสอางค์กับพวงสร้อยเพียรพูดกรอกหูตั้งแต่เด็กว่าเป็นศัตรูตัวฉกาจ เธอจึงตัดสินใจเข้าไปอยู่ในบ้านวิปกรณ์ นันทวดีมีน้องร่วมบิดาอีก 2 คน คือ อนุธวัช ซึ่งกำลังเรียนอยู่ที่อเมริกา และ นุชรี นิสิตมหาวิทยาลัยชื่อดัง เธอเกลียดน้องตั้งแต่ยังไม่เห็นหน้า และยิ่งได้เห็นชีวิตอันหรูหราของนุชรี นันทวดีก็ยิ่งเกลียดเพราะเธอคิดว่านั่นคือชีวิตที่เธอควรได้ นันทวดีจึงคิดว่าเธอต้องเอาชนะนุชรีทุกเรื่อง แม้ในใจจะริษยาแต่นันทวดีก็ซ่อนความรู้สึกได้มิดชิดคำพูดอ่อนโยนที่เธอแสดงออก ทำให้นวลใจกับนุชรีรักและไว้ใจนันทวดียกเว้นวารีเท่านั้นที่หวาดระแวงนันทวดี นันทวดีได้พบกับ ร้อยโทสารัตถ์ นายทหารหนุ่มรูปหล่อ นันทวดีพึงใจสารัตถ์ตั้งแต่แรกพบและเมื่อรู้ว่าสารัตถ์เป็นคู่หมั้นของนุชรี นันทวดีก็คิดจะแย่งทันที โดยหาโอกาสโปรยเสน่ห์ใส่สารัตถ์ที่มาหานุชรีทุกวัน จน สีดา เพื่อนสนิทนุชรี เห็นว่าสารัตถ์สนิทกับนันทวดีมากเกินไป จึงเตือนนุชรีให้ระวัง นุชรีไม่เชื่อและบอกว่าสีดาอคติกับนันทวดีเพราะไม่ถูกชะตา นันทวดีไม่ยอมเรียนต่อมหาวิทยาลัย ตามที่นวลใจขอร้อง แต่ขอเรียนตัดเสื้อแทนเพราะอยากเอาตัวไปใกล้ชิดกับลูกค้าของร้านที่เป็นผู้ดีมีเงิน การไปเรียนตัดเสื้อทำให้นันทวดีได้พบสารัตถ์โดยบังเอิญ สีดาผ่านมาเจอสารัตถ์อยู่กับนันทวดีก็ประชดประชันอย่างไม่พอใจ นันทวดีสะใจที่สีดามาเจอเพราะอยากให้ นุชรีรับรู้ว่าสารัตถ์มากับตน แต่แกล้งทำทีเป็นห่วงว่านุชรีอาจเข้าใจผิด สารัตถ์ที่ยังไม่ได้คิดอะไรเกินเลยปลอบให้ นันทวดีหายกังวลและยิ่งชื่นชมว่านันทวดีเป็นพี่ที่ดีที่ห่วงความรู้สึกของน้องสาว นันทวดีได้รับเชิญให้เป็นนางแบบกิตติมศักดิ์เดินแบบการกุศลในงานบอล เมื่อสารัตถ์รู้ก็แอบมาร่วมงานโดยไม่บอกนุชรี ทำให้นันทวดีรู้ว่าสารัตถ์ก็มีใจให้เธอเช่นกัน นันทวดีใช้มารยาหญิงโดยใช้หาญพงศ์ นักธุรกิจหนุ่มลูกชาย คุณนายเฮียง เจ้าของร้านทอง ขาไพ่ของพวงสร้อย มาร่วมงานบอลด้วยจึงใช้เป็นเครื่องยั่วให้สารัตถ์หึง สุดท้ายสารัตถ์ก็ทนความอึดอัดไม่ไหวไปดักเจอนันทวดีที่ร้านตัดเสื้อ ประชดประชันเรื่องหาญพงศ์และถามถึงเรื่องที่นันทวดีหลบหน้า นันทวดีตีหน้าเศร้าอ้างว่าไม่กล้าสู้หน้าสารัตถ์เพราะละอายใจที่หลงรักคู่หมั้นของน้องสาว สารัตถ์หายโกรธและตัดสินใจไปบอก พลโทสวี ผู้เป็นพ่อว่าจะขอถอนหมั้นนุชรีเพื่อแต่งงานกับนันทวดี สวีโกรธมากแต่ก็ขัดใจลูกชายคนเดียวไม่ได้ จึงให้ คุณหญิงรุจิรา ภรรยาเป็นตัวแทนไปพูด นวลใจตกใจมากจึงไปถามไถ่กับนันทวดี นันทวดีตีหน้าเศร้าสารภาพว่ารักกับสารัตถ์จริง แต่จะแต่งงานกับหาญพงศ์แทนเพราะไม่อยากให้นุชรีเสียใจ นวลใจหลงกลในความเสียสละจึงบอกให้นันทวดีแต่งงานกับสารัตถ์ นุชรีเสียใจมากเมื่อรู้ว่าสารัตถ์นอกใจเธอไปรักกับพี่สาว ขณะที่สารัตถ์กับนันทวดีชื่นมื่น นุชรีก็เสียใจอย่างหนักจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ วารีทนไม่ได้จึงพาหลานสาว ไปพักรักษาแผลใจที่ชายทะเลโดยมีสีดาตามไปช่วยดูแล...นุชรีเสียใจมากเกือบคิดสั้นฆ่าตัวตาย แต่สติก็ช่วยให้เธอดับความคิดชั่ววูบนั้นลงได้ นันทวดีหวังว่าการแต่งงานจะทำให้เธอใช้ชีวิตเป็นอิสระ หรูหรา มีเงินใช้ฟุ่มเฟือยโดยไม่ต้องทำงาน เมื่อทุกอย่างไม่เป็นดังใจเธอจึงหงุดหงิดและคิดว่าผู้ชายที่ต้องพึ่งแต่เงินจากพ่อแม่อย่างสารัตถ์จะไม่ใช่พระเอกที่เธอฝันไว้เสียแล้ว ด้านสีดาคิดจับคู่ให้นุชรีจึงพา นัดดา เลขาฯ เอกท่านทูต ลูกพี่ลูกน้องที่เพิ่งกลับจากอังกฤษมาร่วมงานด้วย สีดาพานัดดาไปอยู่ในกลุ่มเพื่อนของนุชรี นันทวดีได้รับการแนะนำให้รู้จักกับนัดดาทั้งคู่คุยกันอย่างถูกคอ ทำให้สีดาไม่พอใจที่นัดดาให้ความสนใจนันทวดีมากกว่านุชรี นานวันนันทวดีก็ยิ่งเบื่อกับชีวิตที่ต้องแอบอิงพ่อผัวแม่ผัว และอิจฉานุชรีที่มีนัดดาคอยรับคอยส่ง เพราะนัดดามีตำแหน่งเป็นว่าที่ท่านทูต ซ้ำยังรวยกว่าสารัตถ์หลายเท่า นันทวดีทนไม่ได้ที่เห็นนุชรีได้ดีกว่าตนจึงหาเรื่องทะเลาะกับสารัตถ์จนเขาโกรธระงับอารมณ์ไม่อยู่ตบหน้านันทวดี ทำให้นันทวดีใช้เป็นข้ออ้างขอหย่าและกลับมาอยู่บ้านวิปกรณ์ เมื่อนัดดามาส่งนุชรี นันทวดีที่แสร้งทำเป็นจะออกจากบ้านจึงขอติดรถไปด้วย สีดาไม่พอใจแต่ทำอะไรไม่ได้ ส่วนนุชรียิ่งหนักเพราะแม้จะพบกันบ่อย ๆ แต่นัดดาก็ไม่เคยเอ่ยว่ารัก นุชรีจึงไม่กล้าคิดไปไกลว่าตนเป็นเจ้าข้าวเจ้าของนัดดา นันทวดีใช้มารยาสร้างความสนิทสนม นัดดาเป็นคนเก็บความรู้สึกเก่งนันทวดีจึงดูไม่ออกว่านัดดาคิดกับเธออย่างไร แต่เมื่อนัดดายินดีขับรถไปส่งและรอรับเธอกลับจากการทำธุระ นันทวดีก็อดคิดเข้าข้างตัวเองไม่ได้ แต่เมื่อรู้ว่านัดดาขอนุชรีแต่งงาน เธอจึงคิดวางแผนทุกอย่างเพื่อจะแย่งนัดดามาให้ได้ โดยหลอกล่อนัดดามาที่บ้านแล้ว ชงเหล้าผสมยาจีนชนิดหนึ่งให้ หลังดื่มเหล้าหมดแก้วนัดดาก็รู้สึกถึงอารมณ์ประหลาด กลิ่นหอมของนันทวดีทำให้เขาหยุดความปรารถนาไว้ไม่อยู่ทำให้เขาล่วงเกินนันทวดีตามแผนสร้อยสอางค์ นัดดาเสียใจกับสิ่งที่เขาทำลงไปมาก แต่เขาก็โล่งใจเมื่อนันทวดีเอ่ยปากว่ารักเขามากและไม่อยากให้นุชรีเสียใจเป็นครั้งที่สอง เธอจะเก็บเรื่องทั้งหมดเป็นความลับและขอแค่นัดดามาหาเธอบ้างก็พอ คำหลอกลวงของนันทวดีทำให้นัดดาซึ้งใจในความเสียสละ ด้วยความรู้สึกผิดกับสิ่งที่ทำลงไปนัดดาจึงยังคงไปหานันทวดี และความรู้สึกผิดของทั้งสองก็จบลงบนเตียงนอนทุกครั้ง ด้านนันทวดีก็พยายามจะให้นุชรีรู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับนัดดาให้ได้

Ngao Ruk Luang Jai is a romance drama about two rich cousins fighting over wealth and the love of Khaohom.