Alice in Borderland ซีซัน 2 ของ Netflix ที่หลายๆ คนรอคอย ดูเหมือนจะเป็นเรื่องราวที่เดินหน้าอย่างต่อเนื่องจากซีซันแรก และจะมีความท้าทายที่เพิ่มขึ้นแบบทวีคูณ! สำหรับบทความนี้จะเป็นการรีวิวซีรีส์แบบภาพรวมในเชิงแสดงความคิดเห็น ซึ่งจะไม่มีการสปอยล์เนื้อหาสำคัญใดๆ ในเรื่อง แต่จะเป็นข้อมูลที่สามารถเผยแพร่ได้ทั้งจากตัวอย่างซีรีส์และเรื่องย่อที่ได้ปล่อยออกมาอย่างเป็นทางการแล้วเท่านั้นครับ

Alice in Borderland ซีซัน 2 ได้การันตีผลงานให้เราเชื่อใจกันอีกครั้งสำหรับฉากสุดอลังการ เกมสุดสร้างรรค์ การไล่ล่าสุดระทึก ไปจนถึงความดราม่ากินใจ องค์ประกอบทั้งหมดจะระเบิดอารมณ์และความตื่นเต้นให้แก่เรา ก่อนจะกลับเข้าสู่จังหวะที่เรียบง่ายแบบปกติแต่ยังคงความซับซ้อนและกระตุ้นความคิดอยู่เสมอ โดยสลับไปมาแบบนี้ตลอดทั้ง 8 ตอนด้วยกัน

เกมที่เดิมพันด้วยชีวิต ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่โดดเด่นของซีซันแรก มันยังคงทำงานต่อในซีซันนี้ โดยมีการตั้งค่าที่ซับซ้อนมากขึ้นและการเดิมพันที่สูงขึ้น จากการไต่ระดับของเนื้อเรื่อง หากเรายังจำกันได้ในซีซันแรก คอนเซปต์ที่ชัดเจนของซีซันแรกก็คือผู้เล่นจะเข้าแข่งขันในเกมสุดอันตรายที่มีพื้นฐานมาจากการเล่นไพ่ และระดับความยากของเกมก็จะแตกต่างกันไปในแต่ละหน้าไพ่ หากเล่นเกมชนะก็จะได้เวลาเพิ่มที่นำไปรวมในสิ่งที่เรียกว่า “วีซ่า” ตามจำนวนไพ่ที่เกมใช้ และถ้าหากวีซ่าหมดอายุ ผู้เล่นก็เสียชีวิตทันที ดังนั้นทางเลือกเดียวก็คือต้องเข้าร่วมเล่นเกมและพยายามสะสมไพ่เพื่อยืดระยะเวลาให้ผู้เล่น ในระหว่างการหาทางรอดจากประเทศลึกลับนี้ จึงทำให้ตัวละครในซีซันแรกเกิดแนวคิดที่ว่า หากสะสมไพ่จนเต็มสำรับก็จะทำให้หลุดพ้นจากขุมนรกนี้

ซีซันที่ 2 ได้ยกระดับแนวคิดนี้ขึ้นมาอีกขั้นโดยการนำ Arisu (รับบทโดย Kento Yamazaki), Usagi (รับบทโดย Tao Tsuchiya), Chishiya (รับบทโดย Nijiro Murakami) และคนอื่นๆ ที่เหลือรอด มาเผชิญหน้ากับเกมที่มาด้วยคอนเซปต์ไพ่หน้า Jack, Queen และ King ที่จะมีสัญลักษณ์ โพดำ, โพแดง, ข้าวหลามตัด, และดอกจิก ซึ่งโดยพื้นฐานแล้วหน้าไพ่เหล่านี้แสดงถึงความเป็น Boss ของเกม และจะมีตัวละครที่ควบคุมเกมซึ่งอาจจะซับซ้อนและอันตรายกว่า บางทีก็อาจจะมีส่วนร่วมในเกมเหล่านั้นด้วยตัวเอง ด้วยเหตุนี้ จึงเป็นการบ่งบอกว่าเกมในซีซันที่ 2 จะมีความพิเศษกว่า! แต่มันก็ยังแสดงให้เห็นถึงโครงสร้างและการดำเนินเกมที่ฉลาดหลักแหลมอยู่ รวมไปถึงความท้าทายที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งไม่ใช่แค่ความท้าทายทางกายภาพเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความท้าทายทางสมอง ทางความรู้สึก และทางความสัมพันธ์ของตัวละครอีกด้วย

การแบ่งกลุ่มตัวละครหลักและการจับคู่พวกเขาด้วยวิธีที่น่าสนใจ เป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของซีซันนี้ นอกจากนี้ยังมีการผสมผสานตัวละครใหม่และตัวละครที่จะสร้างเซอร์ไพรส์ให้กับคุณด้วย การกระจายโครงเรื่องออกไปหลายทิศทางในซีซันนี้สามารถรักษาจังหวะได้อย่างดี ซึ่งเต็มไปด้วยการเล่าเรื่องที่น่าหลงใหลไม่รู้จบ แม้ว่าจะมีบางครั้งที่การให้ข้อมูลเชิงลึกแต่กลับส่งผลเพียงเล็กน้อยต่อเรื่องราวอาจจะดูน่าหงุดหงิดไปบ้าง แต่โครงสร้างและการนำเสนอโดยรวมของซีรีส์แทบจะไม่มีข้อบกพร่องเลย

ซีรีส์แนวเกมเอาชีวิตรอดของญี่ปุ่นที่ดำเนินมาจนถึงซีซันที่ 2 เรื่องนี้ ยังคงรักษาระดับความแอ็กชัน ดราม่า ระทึกขวัญ รวมไปถึงสยองขวัญ ที่จะทำให้คุณรู้สึกว่าคุ้มค่าแก่การรอคอย นอกจากที่กล่าวมานี้ ซีรีส์ยังได้นำเสนอคุณภาพของความเป็นญี่ปุ่นได้อย่างลงตัว ทั้งเนื้อหาทางด้านจิตวิทยาที่น่าหลงใหล และแก่นแท้ของความเป็นมนุษย์ที่ลึกซึ้ง อย่างไรก็ตาม ผู้เขียนรีวิวขอยกย่องชื่นชมตอนสุดท้ายของซีซันที่ 2 นี้ ที่สามารถจบได้อย่างประณีตและแยบยลมากๆ ไปพิสูจน์ด้วยตัวคุณเองใน Alice in Borderland ซีซัน 2 ทาง Netflix