สำหรับแฟนๆ ที่ต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวัฒนธรรมญี่ปุ่น วันนี้เราจะชวนมาดูอานิเมะทั้ง 4 เรื่องเพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับสิ่งที่ไม่เหมือนใครในญี่ปุ่น

ประโยชน์ของการรับชมสื่อจากต่างประเทศทุกประเภท คือเราจะได้โอกาสในการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับแหล่งกำเนิดวัฒนธรรมนั้นๆ และอานิเมะก็เช่นกันไม่ว่าจะเป็นอานิเมะซีรีส์อย่าง Naruto หรือ Demon Slayer ได้นำความคิดสร้างสรรค์มาผสมผสานกับวัฒนธรรมญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียง เช่น นินจา ซามูไร เรื่อง Aggretsuko ก็มีการพูดคุยเกี่ยวกับประเด็นทางสังคมที่หาได้ในเฉพาะญี่ปุ่นเท่านั้น และอานิเมะอย่าง Toradora นั้นก็มีอยู่ในประเทศและเป็นไปตามมาตรฐานของสื่อด้วย

จากตัวอย่างเหล่านี้ และอื่นๆ อีกมากมายแฟนๆ อานิเมะสามารถรับรู้เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยของวัฒนธรรมญี่ปุ่นได้ โดยทั่วไปแล้วผู้ชมจะได้เรียนรู้ว่าโครงสร้าง และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตลอดนั้นเป็นอย่างไร หรือตัวละครทั่วไปในนิทานพื้นบ้านอย่าง Yokai ด้วย ยังมีอานิเมะอื่นๆ ที่ลึกซึ้งกว่าที่ชาวญี่ปุ่นอาจพิจารณาว่าเป็นความรู้ทั่วไป อานิเมะซีรีส์เหล่านี้ได้สำรวจบางสิ่งบางอย่างที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของประเทศ สำหรับแฟนอานิเมะที่สนใจเรียนรู้วัฒนธรรมญี่ปุ่นมากขึ้น รายการเหล่านี้จะเป็นจุดเริ่มต้นที่เลยทีเดียว

Those Snow White Notes

ทุกส่วนของโลกมีเครื่องดนตรีเป็นของตัวเอง ญี่ปุ่นก็เช่นเดียวกัน อานิเมะเรื่อง Snow White Notes เป็นการนำเสนอเครื่องดนตรีชนิดหนึ่งที่เรียกว่า Shamisen สำหรับผู้ชมชาวต่างชาติรูปลักษณ์ของมันเหมือนกับ Banjo หรือ พิณ Snow White Notes มีการนำเสนอ Shamisen เกือบจะทุกโอกาสที่ทำได้ มีการผสมผสนานให้เข้ากับซาวด์แทร็กของเรื่องด้วย รวมถึงเพลงเปิดและเพลงจบเช่นกัน ในระหว่างทางผู้ชมจะได้ยินเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับเครื่องดนตรีชนิดนี้ รวมทั้งการสุ่มตัวอย่างสไตล์ และเทคนิคที่ผู้เล่นในเรื่องใช้อีกด้วย

ในขณะที่เราดำดิ่งลึกลงไปกับเครื่องดนตรี Shamisen และแสดงเสียงของมันนั้น Snow White Notes ยังว่าด้วยเรื่องราวของการต่อสู้อีกด้วย ตัวเอกอย่าง Sawamura Setsu ได้หนีไปยังโตเกียวหลังจากการตายของปู่ของเขา ในฐานะที่เป็นผู้เล่นระดับปรมาจารย์ด้าน Shamisen แต่เขาไม่สามารถหลบหนีจากการควบคุมที่เครื่องดนตรีมีต่อเขาได้ โชคไม่ดีที่เขาไม่สามารถหนีจากแม่ของเขาได้ ซึ่งมีความตั้งใจแน่วแน่ที่จะให้เขาสืบสานมรดกของปู่เอาไว้ แต่เขาก็ลังเลที่จะเข้าร่วมชมรม Shamisen ของโรงเรียนมัธยมปลายซึ่งต้องการคนที่มีความสามารถอย่างมาก

เมื่อเรื่องราวได้ถูกดำเนินไปเรื่อย Setsu ก็ต้องต่อสู้กับตัวตนขอเขา และไม่ว่าเขาจะต้องการตัวตนของเขาหรือไม่ เขาก็ได้ลงแข่งขันเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี แต่เขาก็รู้สึกได้ว่าทุกคนไม่ได้อยากได้ยินเสียงดนตรีที่มาจากเขาเอง แต่อยากได้ยินเสียงดนตรีของปู่มากกว่า ภายในความขัดแย้งนี้ Snow White Notes จะจัดการกับภาระที่หนักอึ้งต่อมรดกที่ตกทอดมายังเขาได้ไหม เป็นเรื่องราวที่น่าติดตามมากๆ เลยนะคะ

Kono Oto Tomare! Sounds of Life

อานิเมะเรื่องนี้มีความคล้ายกับเรื่องที่เราเอ่ยไปก่อนหน้าอย่าง Those Snow White Notes เรื่อง Kono Oto Tomare! นั้นให้ความสำคัญกับเครื่องมือทางวัฒนธรรมที่เฉพาะเจาะจงด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม เครื่องดนตรีชนิดนี้มีตำแหน่งที่สูงกว่า Shamisen ในฐานะที่เป็นเครื่องดนตรีประจำชาติของญี่ปุ่นนั่นคือ Koto ซึ่ง Koto นั้นเป็นประเพณีที่แพร่หลาย แต่ก็เหมือนกับหลายๆ อย่าง ที่ไม่ค่อยเป็นที่นิยมในหมู่คนรุ่นใหม่ อานิเมะซีรีส์นี้ได้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนตั้งแต่ต้นในตอนที่ 1 ซึ่งห้องของสโมสร Koto นั้นถูกคนอันธพาลเข้าไปครอบครอง และ Kurata Takezou ประธานสโมสรก็ไม่สามารถหยุดมันได้

ปัจจุบันมีคนที่สนุกกับดนตรีชนิดนี้มากขึ้น และสโมสร Koto กำลังได้รับชีวิตใหม่อีกครั้ง เช่นเดียวกับ Setsu ในเรื่อง Snow White Notes ตัวละครหลักอย่าง Kudo Chika ถูกหลอกหลอนจาก Koto เนื่องจากความพยายามที่จะเข้าใจคำพูด และความหลงใหลของคุณปู่ผู้ล่วงลับไปแล้ว Chika จึงตัดสินใจที่จะเข้าร่วมชมรม Koto ของโรงเรียน อย่างไรก็ตาม Takezou ไม่สนใจที่จะให้ใครสักคนที่มีชื่อเสียงอย่าง Chika เข้าร่วมชมรม Chika จึงต้องต่อสู้เพื่อที่จะให้ตัวเองได้เป็นสมาชิกของชมรม และได้รับอนุญาตให้ทำเช่นนั้นให้ได้ หลังจากพิสูจน์ให้เห็นว่าเขาห่วงใยเพียงแค่ Koto เท่านั้น

Kono Oto Tomare! คือทุกสิ่งที่อานิเมะเกี่ยวกับดนตรีมีให้ ตั้งแต่ตัวละครที่ยอดเยี่ยม ไปจนถึงความหลงใหลในเรื่องนี้ ผู้ชมจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับเครื่องดนตรีชนิดนี้บางส่วน

Chihayafuru

Chihayafuru เน้นไปที่การแข่งขันเกมไพ่ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะในญี่ปุ่นที่รู้จักกันในชื่อ Karuta เกมดังกล่าวเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ Ogura Hyakunin Isshu หรือ 100 บทกวี งานแต่ละชิ้นในคอลเลกชันนี้เขียนขึ้นโดยกวีคนละคนกัน และมักสอนในโรงเรียนสอนภาษาญี่ปุ่น Karuta มักใช้เป็นเกมที่สนุกสำหรับเด็กในการท่องจำบทกวี เนื่องจากเป้าหมายคือการจับคู่บทกวีครึ่งแรก กับบทกวีบทที่ 2 ให้ได้ก่อนคู่ต่อสู้

ตัวเอก Ayase Chihaya ยังคงหลงใหลในเกมนี้ตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่น โดยมีเป้าหมายที่จะเป็นแชมป์ Karuta เธอสร้างชมรม Karuta ขึ้นใหม่โดยมี Taichi เพื่อนสมัยเด็กของเธอ และสมาชิกที่พวกเขามารวมตัวกัน เมื่อซีรีส์ดำเนินไป ผู้ชมจะค่อยๆ เข้าใจเกมและธรรมเนียมอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น Chihaya และทีมขอวเธอได้นำบางส่วนที่หายไปตามกาลเวากลับมาไม่ว่าจะเป็นการสวมชุดแบบดั้งเดิมในทุกๆ การแข่งขัน

Chihayafuru ยังเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับแฟนๆ ที่ชอบแนวโรแมนติกด้วย เนื่องจากทั้ง 3 ซีซันได้เกิดเรื่องราวของรักสามเส้าขึ้นระหว่าง Chihaya, Taichi และ Arata เพื่อนที่อยู่ห่างไกลออกไป

Showa Genroku Rakugo Shinju

Rakugo คือศาสตร์ในการเล่าเรื่องแบบหนึ่งของญี่ปุ่นที่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน ซึ่งมีรูปแบบการเล่าเรื่องที่ตลกขบขัน นักเล่าเรื่องจะเล่าเรื่องราวที่ถูกสืบทอดต่อๆ กันมา โดยนักเล่าเพียงคนเดียว ถึงแม้ว่าเรื่องราวจะเป็นส่วนสำคัญของ Rakugo แต่เสน่ห์ของนักเล่าเรื่องที่แท้จริงคือทำให้แต่ละเรื่องที่เล่านั้นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

เรื่องราวนี้ดำเนินควบคู่ไปกับศิลปะแบบดั้งเดิม ว่าด้วยเรื่องราวของชายคนหนึ่ง และอนาคตของคนอีกคนหนึ่ง ชีวิตของอดีตนักโทษ Yotaro ได้เปลี่ยนไปเมื่อเขาได้ชมการแสดง Rakugo ขณะอยู่ในคุก หลังจากที่เขาได้รับการปล่อยตัว เขาก็ออกตามหาชายผู้ทำการแสดงในตอนนั้น Yurakutei Yakumo และขอร้องให้รับเขาเข้าเป็นลูกศิษย์ อย่างไรก็ตามการเข้าไปพัวพันกับชีวิตของ Yakumo หมายถึงการเรียนรู้มากกว่าแค่ Rakugo ภายในไม่กี่วันที่เขาได้อาศัยอยู่กับอาจารย์ผู้สอน Yotaro ก็ได้ยินว่าชายคนนั้นถูกกล่าวหาว่าฆ่าเพื่อนนักแสดง Rakugo

ด้วยความอยากรู้อยากเห็นของ Yotaro เขาจึงได้สำรวจการทำงานของชายผู้ล่วงลับคนนี้ Yuurakutei Sukeroku และรู้สึกทึ่งกับ Rakugo ของเขา ความหลงใหลครั้งใหม่นี้ทำให้ Yakumo บอกกับ Yotaro เกี่ยวกับอดีตของเขา จากที่นี่เรื่องราวจะข้ามไปมาระหว่างอดีตและปัจจุบัน โดยเล่าเรื่องราว 2 เรื่องควบคู่กันไป และได้ทราบความจริงว่าเกิดอะไรขึ้นกับ Sukeroku จริงๆ กันแน่