แม้ว่าจะมีภาพยนตร์แอนิเมชันหลายเรื่องที่มีชื่อเสียงภายใต้การผลิตจากสตูดิโอที่มีชื่อเสียงอย่าง Studio Ghibli แต่ก็ยังมีภาพยนตร์แอนิเมชันบางเรื่องที่ถูกประเมินค่าต่ำเกินไปอย่าง The Cat Returns ด้วย นี่จึงเป็นเหตุผลที่คนรักแอนิเมชันควรค่าแก่การรับชมเพื่อพิสูจน์ด้วยตัวเอง

Studio Ghibli ได้สร้างภาพยนตร์แอนิเมชันที่ยอดเยี่ยมมากมายหลายเรื่อง และรอให้แฟนๆ ใหม่ทั่วโลกค้นพบ สิ่งที่ทำให้แฟนๆ ของ Ghibli แตกต่างคือพวกเขามักจะกลับมาดูรายการโปรดเก่าๆ ของพวกเขาเสมอ พวกเขาสามารถดูซ้ำแล้วซ้ำอีกได้ และด้วยเหตุผลที่ดีนี้ก็ไม่ควรพลาดภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่องนี้เช่นกัน

อย่างไรก็ตาม สำหรับภาพยนตร์ที่ได้รับการยกย่องอย่างกว้างทุกเรื่องนั้น แฟนๆ บางคนอาจมองว่าภาพยนตร์แอนิเมชันของ Ghibli บางเรื่องได้รับการประเมินค่าที่ต่ำเกินไป ซึ่ง The Cat Returns ก็อยู่ในหมวดนี้ และวันนี้เราจะเปิดเผยข้อมูลทั้งหมดว่าอะไรคือเหตุผลที่ภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่องนี้ถึงควรค่าแก่การรับชม

โครงเรื่อง The Cat Returns

The Cat Returns เป็นหนึ่งในภาพยนตร์สั้นที่เรียบง่ายที่สุดเรื่องหนึ่งของ Studio Ghibli ว่าด้วยการบอกเล่าเรื่องราวของ Haru วัยรุ่นสาวธรรมดาๆ คนหนึ่งที่ไม่กล้าพอที่จะบอกชอบคนที่เธอแอบปลื้มด้ สิ่งที่เพื่อนร่วมชั้นเรียน และเพื่อนๆ ของ Haru ไม่รู้ก็คือเธอสามารถพูดคุยกับแมวได้ Haru เองก็ลืมเกี่ยวกับความสามารถพิเศษนี้ของเธอเช่นกัน จนกระทั่งเธอได้ช่วยแมวตัวหนึ่งเอาไว้ไม่ให้ถูกรถบรรทุกชน แมวตัวนั้นได้พูดกับเธอแล้วเดินจากไป Haru ตกใจมากและหันไปถามเพื่อนของเธอว่าได้ยินที่แมวพูดไหม? แต่เพื่อนของเธอก็ได้แต่ทำท่ายักไหล่ ในตอนหลัง Haru ก็ได้ถามคำถามเดียวกันนี้เมื่อตอนที่เธอยังเด็ก

ต่อมาในคืนนั้น Haru ได้รับการเยี่ยมเยือนจากสมาชิกของ อาณาจักรแมว เพื่อทำการขอบคุณที่เธอได้ช่วยเจ้าชาย Lune อันเป็นที่รักของพวกเขาเอาไว้ได้ การขอบคุณ Haru ในครั้งนี้เธอได้รับของขวัญมากมาย ไม่ว่าจะเป็น หญ้าแมว และหนูที่ยังมีชีวิตอยู่ แม้ว่าของขวัญเหล่านี้คือสิ่งที่แมวชื่นชอบ Haru เข้าใจดี แต่เธอไม่ค่อยชอบสักเท่าไหร่ และขอให้แมวเอาของขวัญเหล่านี้กลับคืนไป และเพื่อเป็นการขอโทษ พวกเขาจึงบอกกับเธอว่า เธอสามารถเข้าร่วม Kingdom of Cats และแต่งงานกับ Prince Lune ได้ Haru ไม่รู้จะพูดอะไรเธอจึงคิดว่ามันน่าจะดีกว่าชีวิตที่แสนธรรมดาและน่าเบื่อของเธอในฐานะมนุษย์ แมวไม่รอคำตอบจากเธอพวกมันบอกเพียงแต่ว่า จะกลับมารับเธอในวันพรุ่งนี้

Haru รู้สึกสับสนและหวาดกลัว เมื่อเธอได้ยินเสียงเรียกชื่อเธอจากฟากฟ้า เสียงนั้นบอกเธอให้ค้นหา สำนักแมว และพวกเขาจะสามารถช่วยเธอได้ เมื่อเธอเริ่มคุ้นเคยกับเหตุการณ์ประหลาดที่เกิดขึ้นต่างๆ เหล่านี้ Haru ก็ฟังเสียงที่พาเธอไปพบกับแมวสีขาวเพื่อพาเธอไปยังสำนักแมว ที่ซึ่งแมวสามารถแปลงร่างเป็นมนุษย์ได้ และ ได้เจอกับ Toto ซึ่งเป็นนกที่คอยช่วยเธอ เธอยังได้รู้อีกว่าแมวที่เธอติดตามไปนั้นชื่อ Muta และเป็นสมาชิกของ Cat Bureau ด้วย Haru อธิบายสถานการณ์ของเธอให้พวกฟังก่อนที่พวกเขาจะตกลงกันเพื่อช่วยเธอ

The Cat Returns มีสไตล์งานศิลปะที่แตกต่างจากภาพยนตร์ Ghibli เรื่องอื่นๆ

The Cat Returns ถือได้ว่าเป็นภาพยนตร์แอนิเมชันสุดคลาสสิก โดยเฉพาะกับแฟนๆ ของ Studio Ghibli บางคน ยังมีเพลงประกอบที่ดี พร้อมด้วยความรู้สึกแปลกๆ มากมายอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของภาพยนตร์ แม้จะมีคนบางกลุ่มคิดว่านี่ไม่ใช่ภาพยนตร์แอนิเมชันของ Ghibli เพราะดูแตกต่างจากเรื่องอื่นๆ The Cat Returns มีสไตล์ของศิลปะที่ไม่เหมือนใครจริงๆ และเมื่อเปรียบเทียบกับภาพยนตร์แอนิเมชันสุดคลาสิกอย่าง Howl’s Moving Castle (2014) หรือ Whisper of the Heart (1995) แล้ว ซึ่งทั้งสองเรื่องนี้มีสีสันและวิธีการวาดตัวละครที่มีความคล้ายคลึงกันเล็กน้อย รูปแบบงานศิลปะของ The Cat Returns จึงเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของเรื่อง

Haru เป็นเด็กสาวผมม้าสั้นเต่อ เมื่อเทียบกับตัวละครเอกของ Ghibli เมื่อเทียบกับตัวเอกของ Ghibli ที่อายุน้อยกว่าคนอื่นๆ แม้จะดูแตกต่างจากตัวละครอื่นๆ เล็กน้อย แต่ก็เป็นที่ชัดเจนว่าเธอนั้นถูกสร้างโดยสตูดิโออันเป็นที่รัก Haru ไม่ใช่เด็กสาวที่ร่าเริงและกล้าหาญตลอดเวลา แต่เธอได้เรียนรู้บทเรียนสองสามบทเรียนระหว่างการเดินทางที่ผู้ชมจะได้เห็น บางคนพบว่าพวกเขาสามารถเชื่อมโยงกับ Haru ได้ในขณะที่เธอตอบสนองต่อสถานการณ์ที่เธอต้องเผชิญ เช่น เมื่อเธอถูกนำตัวไปยังอาณาจักรแมวโดยกลุ่มข้าราชการของกษัตริย์แมว เธอกรีดร้องด้วยความตกใจและบอกให้วางเธอลง

The Cat Returns ให้เสียงพากย์โดยนักแสดงที่มีชื่อเสียงและมีโครงเรื่องที่สนุกน่าติดตาม

ภาพยนตร์ทุกเรื่องของ Ghibli ทุกเรื่องนั้นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวในเรื่องราว ทั้งตัวละคร หรือแม้แต่สไตล์การลงสี The Cat Returns มีฉากที่ยอดเยี่ยมหลายฉากที่ช่วยเติมเต็มเรื่องราวได้อย่างแท้จริง ผสมผสนานภูมิประเทศที่สวยงาม และตัวละครที่น่าทึ่ง Haru เป็นตัวเอกที่พิเศษและตลกมากตัวหนึ่ง ทำให้เธอมีความเชื่อมโยงกับวัยรุ่นหนุ่มสาวที่หวังว่าพวกเขาจะสามารถหายตัวไปยังโลกแฟนตาซีแบบ Haru บ้าง Baron, Muta และ Toto ยังมีบุคลิกที่แตกต่างกันซึ่งทำให้พวกเขามีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกัน กลุ่มของพวกเขาไม่ได้เข้ากันได้เสมอไป และนั่นมันทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเขาสนุกยิ่งขึ้นในการรับชม

เมื่อสังเกตดีๆ ผู้ชมอาจเห็นพื้นหลัง และสีที่ถูกใช้ภายในเรื่อง The Cat Returns นั้นไม่เหมือนกับภาพยนตร์ Ghibli เรื่องอื่นๆ หลายคนกล่าวว่าสิ่งที่ดีที่สุดอย่างหนึ่งเกี่ยวกับภาพยนตร์ของสตูโอนี้คือ สไตล์อาร์ตที่นุ่มนวล และไม่เหมือนใคร ซึ่ง The Cat Returns เองก็เป็นเช่นนั้น

ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังมีฉากหลังที่สว่างเป็นพิเศษอีกด้วย เกือบทุกอย่างเต็มไปด้วยแสงและสี ไม่ว่าจะสะท้อนอารมณ์ของตัวละคร หรือแสดงช่วงเวลาของได้อย่างแม่นยำ ตัวอย่างที่ดีของเรื่องนี้ใกล้จะจบลงแล้วเมื่อ Haru และ Cat Bureau กำลังจะออกจากอาณาจักรแมว พระอาทิตย์ตกกำลังจะขึ้น ฉากถูกเติมด้วยแสงสีส้มสดใสของแสงแดดที่ส่องไปถึงบ้านเกิดของ Haru

The Cat Returns ยังเป็นภาคต่อของ Whisper of The Heart ของ Studio Ghibli อีกด้วย

แฟนๆ Studio Ghibli หลายคนอาจไม่ทราบเรื่องนี้ด้วยซ้ำ แต่ The Cat Returns เป็นภาพยนตร์ภาคแยกที่เล่าเรื่องที่ Shizuku เขียนไว้ใน* Whisper of the Heart* ในขณะที่เรื่องหลังออกมาในปี 1995 The Cat Returns ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นจนกระทั่งอีก 7 ปีต่อมาในปี 2002 ภาพยนตร์เรื่องนี้เขียนโดย Reiko Yoshida และกำกับโดย Hiroyuki Morita โดย Yoshida เป็นที่รู้จักอย่างดีในวงการเขียนการ์ตูนจากผลงานของเขาเรื่อง Tokyo Mew Mew ควบคู่ไปกับการวาดภาพประกอบ Mia Ikumi นอกจากนี้ยังมีหนังสือสำหรับเด็กในชื่อเดียวกัน (The Cat Returns) ที่เขียนโดย Aoi Hiiragi The Cat Returns เป็นภาพยนตร์เรื่องแรกและเรื่องเดียวของ Morita ที่เขากำกับขณะที่ทำงานที่ Studio Ghibli

Studio Ghibli มีความสามารถในการสร้างภาพยนตร์ที่โดดเด่น และน่าประทับใจสำหรับทุกเพศทุกวัย ผู้ชมจะได้รับชมตัวละครที่มีเสน่ห์ สีสัน และทิวทัศน์ที่สวยงาม สำหรับแฟนๆ ของ Whisper of the Heart อีกทั้ง The Cat Returns ยังได้นำเสนอตัวละครที่มีความรอบรู้ และดึงดูดผู้ชมด้วยโครงเรื่องที่น่าดึงดูดซึ่งเหมาะกับผู้รักแมวทุกวัยอย่างมาก

หากใครเป็นแฟนของ Studio Ghibli สามารถพูดคุยกับเราได้ที่ช่องคอมเม้นด้านล่างเลยนะคะ