รีวิว Disenchanted (2022) เมื่อความสุขชั่วนิรันดร์ ไม่ได้เป็นไปอย่างฝัน จึงต้องออกตามหาความสุขในแบบที่ต้องการอีกครั้ง แต่ทุกอย่างก็ไม่ราบรื่นอย่างที่ิคิด

ภาคต่อจาก Enchanted จนมาเป็น Disenchanted มหัศจรรย์รักข้ามภพ 2 ที่ทิ้งระยะเวลาห่างกันถึง 15 ปี จากตำนานเดิมที่เคยตราตรึงอยู่ในใจผู้ชมอย่างล้นหลาม ถูกนำกลับมาเล่าร้อยเรื่องราวต่อจากความสุขนิรันดร์ที่ปิดฉากลงไป ให้กลายมาเป็นการเดินทางตามหาความสุขครั้งใหม่ ในเมืองมอนโรวิลล์

จากเดิมที่ ‘จีเซล’ เจ้าหญิงกับแอนดาเลเซีย ได้พบรักและมีความสุขในการใช้ชีวิตอยู่กับ ‘โรเบิร์ต’ และ ‘มอร์แกน’ ลูกสาวของเขา ที่นิวยอร์กเมื่อแห่งความสุข แต่แล้วมาในภาคนี้ได้มีสาวน้อยสมาชิกใหม่มาเติมเต็มความเป็นครอบครัวของพวกเขา นิวยอร์กจึงไม่ใช่ที่แห่งความสุขอีกต่อไป ทั้งจีเซลและโรเบิร์ตจึงได้เสาะหาบ้านหลังใหม่ ที่จะเป็นความสุขชั่วนิรันดร์ของพวกอีกครั้ง แต่มันไม่ได้ง่ายอย่างคิด เมื่อบ้านใหม่ที่เมืองมอนโรวิลล์กับบ้านปราสาทเก่าหลายสิบปีด้วยสภาพที่ทรุดโทรม การใช้ชีวิตจึงไม่ค่อยลงตัวตามที่ต้องการ และบวกกับมอร์แกนที่อยู่ในช่วงของวัยรุ่น ก็รู้สึกไม่แฮปปี้กับบ้านหลังใหม่ จนกลายเป็นเรื่องวุ่นวายในครั้งนี้

ถ้าพูดถึงภาคแรกที่เคยประสบความสำเร็จอย่างมาก เป็นภาพยนตร์ที่ดูแล้วอิ่มเอมใจ สนุกสนานได้ตลอดทั้งเรื่อง มีความสุขกับเสียงเพลงอันไพเราะ แต่เมื่อมาเป็นเรื่องราวของภาพต่อกลับเหมือนเป็นภาคต่อที่ไม่น่าประทับใจ ไม่ได้เติมเต็มความสุขได้เท่ากับภาคแรก อาจจะด้วยบทที่ไม่ได้กระชับชัดเจน สร้างปมของเรื่องไม่ได้น่าสนใจเท่าไหร่นัก ดูเป็นเรื่องเนื้อที่ไม่ต้องเขียนต่อขึ้นมาก็ได้ ให้จบอย่าง happy อิ่มเอมไว้แค่ภาคแรกก็พอ

backdrop-0

ไม่ว่าจะเรื่องของบทหรือการตัดต่อ การลำดับภาพ ทุกอย่างทำให้หนังดูสับสนพอสมควร แต่ก็ไม่ถึงขั้นงงกับบทหรือเนื้อเรื่องยังเล่าเส้นเรื่องให้จับใจความได้ เพียงแต่เรื่องราวที่ร้อยต่อกันไม่มีความสมูท ทำให้ดูแล้วรู้สึกขัดอารมณ์พอสมควรเลย ตลอดระยะเวลาที่ได้รับชมได้มีความตื่นเต้น หรือน่าสนใจมากที่เท่าที่ควรนัก ในความสับสนก็มาพร้อมกับเนิบนิ่งที่ของเล่าเรื่องที่ทำให้ภาพยนตร์เหมือนไม่มีสีสันเท่าไหร่ แต่ทุกการถ่ายทอดยังคงมีเอกลักษณ์และ nature ในแบบของ Enchanted อยู่

แต่ด้วยความที่ Disenchanted ได้มีการเปลี่ยนผู้กำกับ มาเป็นฝีมือการกำกับของ ‘อดัม แชงก์แมน’ ผู้คร่ำหวอดในวงการของ musical จึงทำให้ท่าทางการแสดง การเคลื่อนไหว การแต่งกาย และองค์ประกอบฉากต่าง ๆ มีความเป็นโลกแห่งจินตนาการ ยังเป็นสิ่งที่สื่อออกมาได้ค่อนข้างดี เพื่อเป็นเติมความสุขในการรับชมได้ และที่สำคัญคือเรื่องของเสียงเพลง ไม่ว่าจะดนตรีบรรเลงหรือเพลงในการเล่าเรื่อง ยังมีความโดดเด่นได้มากพอสมควร แม้ว่าจะถูกบทและการตัดต่อที่สับสนทำให้ดูดรอปลง แต่ก็ยังเห็นถึง DNA ความเป็น musical ได้ชัดเจน

DISENCHANTED-DISNEY-PLUS-REVIEW

ในส่วนของนักแสดงและคุณภาพการแสดง ถือเป็นส่วนหนึ่งที่แตกต่างไปจากเดิม เหมือนมีความไม่พอดีของการแสดง บทของจีเซลที่โลกสวย หวานฉ่ำอยู่ตลอดเวลา ไม่มีการปรับให้เข้ากับโลกของความเป็นจริงเท่าไหร่นัก หรือจะเป็นบทของมอร์แกน วัยรุ่นที่หงุดหงิดที่เหมือนใส่อารมณ์ความหงุดหงิดตลอดเวลามากเกินไป ไม่มีปมที่ชัดเจนว่าอะไรทำให้มอร์แกนเป็นไปมากขนาดนั้น เหตุผลเหล่านี้จึงอาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้การเล่าเรื่องทำได้ไม่ดีเท่าภาคแรก หรือแม้แต่กระทั่งบทของกรรมการผู้ปกครองทั้ง 3 คน ยังเหมือนไม่มีความลงตัวเลยด้วยซ้ำ

โดยรวม Disenchanted จึงกลายเป็นภาคต่อของความสุขนิรันดร์ที่ไม่ได้วิเศษสมกับเป็นโลกแห่งความฝันที่ใครหลายคนรอคอย มีจุดบกพร่องหลายอย่างที่ทำให้เป็นภาพยนตร์ที่ไม่อยากแนะนำต่อ ด้วยระยะเวลาการรับชมเกือบ 2 ชั่วโมง แต่ไม่ได้อิ่มเอม ไม่ได้ข้อคิด หรือข้อสรุปอะไรที่ชัดเจนจากภาพยนตร์เรื่องนี้เลย หรือสิ่งเหล่านี้อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ Disenchanted ไม่ได้เข้าไปอยู่ในโรงภาพยนตร์ ได้ฉายแค่ผ่านแพลตฟอร์ม Disney+ เท่านั้น

avatar
รีวิวโดย SNOWCAT
เรียนรู้ที่จะเติบโต ในแบบที่เป็นตัวเอง แล้วก้าวผ่านทุกความท้าทายให้ได้ I can do it!
0 0

6.4 / 10

รายละเอียดคะแนน

circle

คุณภาพด้านการแสดง

6.0 / 10

circle

คุณภาพของบทภาพยนตร์

6.0 / 10

circle

คุณภาพด้านเทคนิคการสร้าง

7.0 / 10

circle

คุณภาพด้านเสียง

7.0 / 10

circle

ความคุ้มค่าเวลาในการรับชม

6.0 / 10

ข้อมูลภาพยนตร์

คอเมดี้|ครอบครัว|แฟนตาซี|

ไร้ซึ่งความสุขชั่วนิรันดร์

PG

119

นาที

Adam Shankman

ผู้กำกับ

Bill Kelly

ตัวละคร

Richard LaGravenese

เนื้อเรื่อง

แสดงเพิ่มเติม

ภาษาต้นฉบับ

อังกฤษ

IMDB

5.6

TMDB

6.8

Rotten Tomatoes

rotten tomatoes 36%
rotten tomatoes 52%

ตัวอย่างภาพยนตร์

trailer
trailer
0 ความคิดเห็น

คุณต้อง สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ ก่อน เพื่อที่จะสามารถแสดงความคิดเห็นได้